เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Novelber 2017fdfeefa
Day 28 Beasts
  • Day 28 Beasts

    “คุณจะมาพูดเรื่องที่เดฟเขาทำร้ายคุณแฟรงค์อีกแล้วใช่ไหม? ถ้าเป็นเรื่องนั้นคุณทอมผมว่าคุณกลับไปก่อนเถอะครับ ผมไม่พร้อมที่จะรับฟังอะไรแบบนั้นจริงๆ”

    “งั้นผมถามได้ไหมว่าทำไมคุณถึงเชื่อว่าเขาไม่คิดจะทำร้ายแฟรงค์?”

    “เพราะว่าเดฟไม่มีวันที่จะทำร้ายใครนะสิ ถ้าคุณรู้จักเขาคุณก็จะคิดแบบผม”

    “แต่ดูเหมือนว่าแม่ของคุณไม่ได้จะคิดแบบนั้น ใช่ไหมครับ?”

    ผมรู้ตัวว่าคำถามของผมมันเป็นคำถามที่ไม่น่าฟังและจากหน้าตาที่ปรับเปลี่ยนจากหน้าตาที่เหน็ดเหนื่อยมาเป็นหน้าตาที่ถมึงทึงนี้ผมก็รับรู้ได้ว่าคำถามนี้คงเป็นอะไรที่มากกว่าสิ่งที่ไม่น่าฟัง คุณจอห์นมองออกไปที่หน้าต่างเหมือนกำลังนึกย้อนไปถึงอะไรสักอย่างก่อนที่จะยอมเล่าเรื่องราวเหล่านั้นให้เขาได้ฟัง

    “เพราะว่าแม่ไม่เคยเปิดใจมองเดฟเลยตั้งแต่วันแรกที่ผมพาเดฟมาให้เขารู้จักจนถึงวันสุดท้ายแม่ไม่เคยเปิดใจมองคนนั้นในฐานะของคนรักของผมเลย”

    “ทำไมคุณแม่คุณถึงไม่ชอบคุณเดฟเหรอครับ?”

    “จะมีพ่อแม่สักกี่คนที่ยอมให้ลูกของตัวเองพาผู้ชายอีกคนเข้าบ้านในฐานะของคนรัก อ้อ ลืมไปผมคงต้องยกเว้นที่บ้านของคุณเอาไว้เพราะดูแล้วเขาคงยอมรับในตัวตนของคุณ”

    “เพราะแบบนี้คุณเลยออกมาอยู่คนเดียว?”

    “ไม่ใช่หรอกครับผมออกมาหลังจากเดฟเขาเสีย”

    “ผมย้ายออกเพราะแม้ว่าเดฟจะไม่อยู่แล้วแม่ก็ยังคงมองว่าเดฟเป็นเหมือนพวกสัตว์ร้ายที่เข้ามาทำลายชีวิตของผม”

    “...”

    “ตอนที่เดฟยังอยู่แม่เที่ยวไปเล่าให้ใครต่อใครฟังว่าเดฟเข้ามาหาผมเพราะผลประโยชน์ น่าขำนะครับทั้งที่ครอบครัวของเราไม่ได้รวยมากมายทำไมแม่ถึงคิดแบบนี้ได้ก็ไม่รู้”

    “อีกเรื่องแม่ไปปักใจเชื่อจากใครมาก็ไม่รู้ว่าเดฟทำของใส่ผม เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดฟเขายังไม่เสียเลยครับ”

    “...”

    “แล้วก็น่าแปลกที่ญาติของผมส่วนใหญ่เชื่อเรื่องไร้สาระพวกนี้ทำให้มีหลายคนที่มองเดฟในแง่ร้ายมองเดฟเป็นพวกมีจิตใจต่ำช้าเพราะไปเล่นมนต์ดำอะไรพวกนั้น หึ ทั้งที่ไม่มีใครเคยเข้ามาคุยกับเราเลยสักคน คุณรู้ไหมที่น่าขำกว่านั้นพอผมพยายามอธิบายว่าเป็นผมที่ดึงเดฟเข้ามาในชีวิตกลับไม่มีใครเชื่อคำพูดของผมเลยว่าผมเป็นคนเดินเข้าไปจีบเขา”

    “…”

    “แต่แม้ว่าเดฟจะเจออะไรแบบนั้นแต่เขากลับไม่เคยโกรธหรือโมโหที่บ้านผมและยังคงอยู่เคียงข้างผมเสมอมา เดฟเขาไม่เคยถอดใจ แต่มันกลายเป็นผมนี่และที่เริ่มเหนื่อยและท้อผมที่เริ่มตีตัวออกห่างจากเขาและก็กลายเป็นผมนี่แหละที่แปลงร่างเป็นสัตว์ร้ายและสัตว์เดรัจฉานที่เอาแต่ร้ายความรู้สึกของเขา”

    “…”

    “ขนาดวันที่เขาเสียผมยังทำให้เขาเจ็บช้ำโดยการที่ไม่ยอมแก้ข่าวให้เขาว่ามันเป็นอุบัติเหตุไม่ใช่ว่าเขาต้องการฆ่าตัวตายผมยังทำแบบนั้นให้เขาไม่ได้เลย”

    ”คุณจอห์น เรื่องที่ผมจะมาพูด…”

    “คุณทอม ผมไม่รู้นะครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณ คุณแฟรงค์ และเดฟ แต่ที่ผมรู้ก็คือผมไม่อยาก…”

    “แค่คุณหัดเป็นผู้ฟังบ้าง”

    “คุณว่ายังไงนะ?”

    “ตั้งแต่ผมเข้ามาคุณเอาแต่ส่ายหน้าไม่รับฟังในสิ่งที่ผมอยากจะพูด”

    “ก็เพราะว่าคุณจะเอาแต่พูดเรื่องไม่ดีของเขานะสิ!!”

    “งั้นก็หมายความว่าคุณจะไม่ฟังเรื่องที่คุณไม่อยากฟังใช่ไหม?!!”

    “ใช่”

    “ก็เพราะแบบนี้ไงละคุณเดฟเขาถึงต้องมายุ่งกับพวกผมก็เพราะว่าคุณเป็นแบบนี้ยังไงละ!!”

    “มันไปเกี่ยวอะไรกับคุณ!!”

    “ก็เพราะว่าคุณไม่เคยฟังเขาเลยไม่เคยฟังเขาเลย!!!”

    “…”

    หลังจากที่ต่างคนต่างตะโกนใส่กันดูเหมือนประโยคสุดท้ายของทอมจะเป็นประโยคที่ทำให้เขาชนะเพราะมันสามารถทำให้คุณจอห์นสามารถเงียบลงได้ เมื่อเขาเห็นว่าคุณจอห์นยอมอ่อนลงเขาจึงเริ่มต้นพูดในสิ่งที่เขาตั้งใจ

    “คุณจำได้ใช่ไหมว่าผมมาที่นี่เพราะอะไร?”

    “ได้สิคุณหนีปัญหาหัวใจของคุณมา”

    “เมื่อวันก่อนผมเห็นเขาที่ห้องของผม วันนั้นเป็นวันที่ผมกับแฟรงค์ทะเลาะกันผมเลี่ยงที่จะไม่ฟังที่แฟรงค์พูดเหมือนเคย แล้วนั้นก็เป็นตอนที่ผมได้ยินสิ่งที่เขาพูดเสียงของคุณเดฟลอยทบออกมา ผมเลยค่อนข้างมั่นใจว่าเขามาหาผมเพราะเขาแค่ต้องการช่วย เขาต้องการให้ผมฟังแฟรงค์บ้างสองคนนั้นเขามีเรื่องที่คล้ายกันนั้นอาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณเดฟเลือกที่จะทำเรื่องเหล่านี้”

    “เดฟเขาพูดว่าอะไร?”

    “เขาบอกว่าคุณไม่เคยฟังเขาเลย คุณไม่ฟังเขา”

    “เดฟ ผมขอโทษ เดฟ ผม”

    คุณจอห์นเดินไปที่กล่องที่เต็มไปด้วยสิ่งของที่เต็มไปด้วยตัวตนของคุณเดฟ คุณจอห์นหยิบมันขึ้นมาก่อนเอาไว้แนบอกพร้อมกับค่อยๆ ส่งเสียงที่แสดงถึงความเสียใจของคุณจอห์นดังขึ้นพร้อมกับหยาดน้ำตาที่บ่งบอกถึงความอ่อนแอเอ่อขึ้นทันทีประโยคของเขาจบลง เวลาผ่านไปนานแค่ไหนเขาไม่ได้ใส่ใจเขายังคงนั่งอยู่ที่เดิมให้เวลาแก่คุณจอห์นได้แสดงถึงความเสียใจได้อย่างใจเขารอจนคุณจอห์นเริ่มส่งเสียงของความเสียใจน้อยลงหยาดน้ำตาได้เริ่มแห้งไปจากใบหน้าของคุณจอห์นเขาจึงเริ่มพูดในสิ่งที่เขาคิดต่อไป

    “ผมไม่คิดว่าคุณเดฟจะโกรธคุณในเรื่องของวันนั้น เท่าที่ผมสัมผัส เท่าที่ผมเจอเขา ผมไม่ได้คิดว่าเขาอยากให้คุณกลับไปแก้ไขอะไรในวันนั้น คุณรู้จักคุณเดฟดีกว่าใครผมว่าความจริงแล้วคุณก็น่าจะรู้”

    “…”

    “ความจริงตอนที่คุณทะเลาะกับคุณแม่ ผมก็เห็นเขานะเขาอยู่ที่นี่เขาเศร้ามากนะกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมว่าเขาคงไม่อยากเป็นตันเหตุของการทะเลาะระหว่างคุณกับแม่”

    “คุณเชื่อแบบนี้รึครับ?”

    “ผมมาก็เพื่อเรื่องนี้ ผมไม่อยากให้คุณเข้าใจคุณเดฟผิดและไม่อยากให้อะไรมันแย่ไปกว่านี้ เพราะผมจำได้ว่าคุณยังคงคิดจะไปเปลี่ยนคำให้การกับตำรวจ ซึ่งผมไม่คิดว่ามันจะเป็นความตั้งใจของคุณเดฟ”

    “…”

    “แต่อย่างที่บอกผมก็ได้แต่เดา เพราะผมไม่ใช่คนใกล้ชิดกับเขา”

    “ขอบคุณมากนะครับที่มาบอกผมเรื่องนี้ มันมีความหมายกับผมมากจริงๆ”

    “ไม่เป็นไรครับ”

    “เอ่อ ว่าแต่คืนนี้ คุณอยู่คนเดียวได้ไหมครับ? อยากให้ผมอยู่เป็นเพื่อนไหมครับ?” เขารับรู้ได้ถึงความเสียใจที่ถูกส่งออกมาจากเจ้าของห้องจนมันอัดแน่นไปเต็มพื้นที่ในห้องนี้ เขาจึงลังเลอยู่สักครู่ก่อนที่จะเอ่ยถามออกไป

    “ไม่เป็นไรครับ ผมว่าผมอยากอยู่คนเดียวมากกว่า”

    “งั้น มันก็ดึกแล้ว ยังไงผมขอกลับก่อนนะครับ”

    “ครับคุณทอม”

    “คุณทอมครับ” ในขณะที่เขากำลังจะปิดประตูห้องและเดินจากมาห้องนั้นเสียงของคุณจอห์นก็เอ่นเรียกตัวของเขาเอาไว้

    “ครับ?”

    “คุณจะเจอกับเดฟอีกไหมครับ?”

    “อันนี้ผมก็ตอบไม่ได้ครับ มันแล้วแต่เขาไม่ใช่แล้วแต่ผม”

    “ถ้าคุณเจอเขา ถ้าเป็นไปได้ คุณช่วยบอกให้เขามาหาผมบ้างได้ไหม? บอกให้เขากลับมาหาสัตว์ร้ายที่เอแต่ทำร้ายชีวิตของเขาได้ไหมครับ?”

    “ถ้าผมบอกได้นะครับ”

    “ขอบคุณครับ”

    เขาก็ได้แต่หวังว่าคุณเดฟจะแอบฟังบทสนทนาของเขาอยู่แถวนี้และรับรู้ในความต้องการของคุณจอห์น และก็ยังหวังเพิ่มลงไปอีกว่าคุณเดฟจะยอมให้กาสและตามใจคุณจอห์นอีกสักครั้ง

    TBC

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in