ณ ยามเย็นที่เป็นเวลาเลิกงานของวันนึงของในเขตประเทศที่มีอุณหภูมิเพียง 15 องศามันคงไม่แปลกที่แสงอาทิตย์จะหายไปและถูกทดแทนด้วยแสงของพระจันทร์อย่างรวดเร็วจนทำให้ใครหลายคนต้องคอยเหลือบตาดูนาฬิกาที่ข้อมือเพื่อเช็คเวลาให้แน่ใจอีกครั้งว่านี่ยังไม่ใช่ยามดึกอย่างที่ตาเห็นและหนึ่งในนั้นก็คือ 'ทอม' ผู้ที่เพิ่งย้ายมาอยู่เมืองนี้ได้ไม่นาน
ทอมย้ายมาอยู่เมืองที่มีอากาศหนาวยาวนานมากกว่าอากาศร้อนอย่างที่เขาคุ้นเคยได้เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้นทำให้ตอนนี้เขาจึงยืนสั่นแม้ว่าเขาจะห่อหุ้มร่างกายด้วยเสื้อผ้าที่หนามากแล้วก็ตาม ยังเหลืออีกตั้ง 10 เดือนที่เขาจะต้องอยู่ที่นี้เขาก็ได้แต่หวังว่าเขาจะสามารถปรับตัวได้และไม่แข็งตายไปเสียก่อน
"ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าเราจะสามารถเช็คตารางรถเมล์ได้จากไหนอีกไหมครับ? พอดีผมลองเช็คดูในแอปพริเคชั่นแล้วในนั้นขึ้นแค่ว่า real data not available นะครับ"
หลังจากคิดทบทวนอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนเขาแน่ใจแล้วว่าเขาแทบไม่เหลืออะไรให้คิดเขาจึงตัดสินใจเดินไปหยุดตรงหน้าของหญิงสาวผู้สูงอายุคนนึงที่กำลังจะเดินผ่านหน้าเขาไปอีกคนเอาไว้แล้วเอ่ยปากถามกับสิ่งที่เขาข้องใจมานานกว่าครึ่งชั่วโมง
"คุณไม่ได้ดูข่าวเมื่อเช้านี้เหรอคะ?"
"ไม่ได้ดูครับ ไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?"
"วันนี้รถเมล์ไม่ให้บริการถนนเส้นนี้ค่ะ"
"ครับ?"
"เห็นว่าเขาต้องการประท้วงเกี่ยวกับเรื่องค่าแรงหรือสวัสดิการของผู้ให้บริการอะไรนี่ล่ะค่ะ ดิฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นัก"
"อ่อ ขอบคุณมากนะครับ"
"ไม่เป็นไรจ๊ะ"
สิ้นคำบอกเล่าของหญิงสาวเขาจึงได้แต่มองไปรอบกายอีกครั้งมิน่าเล่าที่ป้ายรถเมล์ป้ายนี้ถึงได้มีเขายืนอยู่เพียงลำพังเท่านั้นทั้งที่ปกติแล้วโอกาสที่จะให้นั่งรออย่างสบายยังยากที่จะหาเจอสักครั้ง
เมื่อรู้ว่ารถเมล์ไม่ใช่ทางเลือกของเขาที่จะเดินทางกลับบ้านเขาก็คงต้องหาเส้นทางใหม่อีกครั้งโดยใช้เจ้ามือถือเป็นเครื่องนำทางให้กับเขา
'บ้าเอ้ย'
เขาสถบออกมาทันทีที่การเดินทางในมือถือบ่งบอกว่าเขาต้องออกเดินไปตามถนนมากกว่า 5 กิโลแล้วค่อยไปต่อรถไฟเพื่อไปลงสถานีที่ใกล้ที่พักของเขามากที่สุดแล้วค่อยออกเดินจากสถานีอีก 500 เมตร
เขาตัดสินใจปิดมือถือละทิ้งข้อมูลทั้งหมดที่เพิ่งได้มาแล้วเดินตรงไปที่จุดเพื่อให้คนเรียกแท๊กซี่
สายลมเย็นๆ ทำให้เขาสงบใจลงและเริ่มออกเดิน จากเดินคนเดียวก็เริ่มมีคนเริ่มเดินผ่านหน้าเขาไป มีคนเดินตามหลังและยิ่งใกล้จุดที่ให้เรียกแท๊กซี่ผู้คนก็เริ่มหนาตามากขึ้นหนาจนเวลาเขามองไปทางด้านหน้ากลุ่มคนที่ยืนออและเดินอยู่นั้นช่างเหมือนกับกลุ่มต้นไม้ที่ขึ้นเรียงกันอย่างหนาทึบใน 'ป่าใหญ่'
ปึก ปึก
"ขอโทษครับ"
"ขอโทษครับ"
เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาต้องเอ่ยขอโทษกับคนข้างหน้ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งตั้งแต่ที่การเบียดเสียดเริ่มแปลเปลี่ยนเป็นการกระทบกระทั่งและผลักดันให้เขาก้าวเดินให้เร็วกว่าเดิมจากคนข้างหลังทั้งที่เขาเองก็ไม่ได้เว้นช่องว่างไว้มากกว่าครึ่งช่วงแขนเลยด้วยซ้ำ
อาจจะเพราะเมื่อคืนเขาเพิ่งได้ดูสารคดีสัตว์ป่าผ่านตาในตอนที่เขากำลังกำลังเก็บล้างอาหารมื้อค่ำและภาพเหล่านั้นเลยยังติดตาเลยทำให้เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเขามองเห็นภาพของชัยชนะในการแย่งชิงรถแท๊กซี่จากคนที่เชื่องช้าโดยคนที่รวดเร็วและแซงคิวได้เป็นภาพของเสือชีต้าร์ที่วิ่งไปถึงฝูงกวางก่อนสัตว์ตัวอื่นและแย่งเอาเนื้อกวางอันโอชะมากินให้อิ่มท้องก่อนสัตว์ตัวอื่นที่เชื่องช้ากว่าเช่นกระทิงป่าไปได้เป็นภาพซ้อนขึ้นมา
เขาเห็นภาพของคุณลุงคนแก่ที่กำลังเอาไม้เท้าสะกิดเด็กวัยรุ่นที่แซงหน้าแกไปแล้วยังยืนเฉยนั้นซ้อนทับกับภาพของกระทิงป่าที่โดนวิ่งแซงกำลังไล่ขวิดตัวที่แซงมันแล้วไปแล้วไปเอาของเหลือจากเสือชีต้าร์โดยที่ตัวที่กำลังโดนขวิดนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาเคี้ยวชิ้นเหนือตรงหน้าโดยที่ไม่สนใจด้วยซ้ำว่ามันได้ตัดหน้าตัวไหนมารึเปล่าหรือมันกำลังเจ็บจากการโดนขวิดนั้นรึไม่
เขาเห็นภาพของหญิงสาวสองคนกำลังแย่งยุดรถแท๊กซี่โดยที่มือทั้งสองคนไม่ปล่อยออกจากประตูรถและกำลังตะโกนต่อว่ากันด้วยเสียงอันดังนั้นเป็นภาพเดียวกับภาพที่เสือชีต้าร์สองตัวกำลังต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงเพื่อที่จะแย่งเนื้อกวางจากตัวที่ล้มลงตรงหน้าของเสื้อสองตัวนั้นพอดี
"เอ้า พ่อหนุ่มสรุปจะไปเรียกแท๊กซี่ไหมเนี่ย เดินช้าเหลือเกิน คนข้างหลังแถวยาวไปถึงต้นถนนนั้นแล้วเห็นไหม"
"งั้นเชิญลุงก่อนเลยครับ"
คุณลุงที่เดินตามเขามากำลังสั่งให้เขาเร่งเดินอีกครั้ง เขาอยากจะตอบกลับไปเหลือเกินว่า 'ต่อให้เขาออกวิ่งความเร็วก็คงได้เท่านี้เช่นกันเพราะคนข้างหน้าๆ นั้นก็ไม่ได้ขยับมากสักเท่าไหร่' แต่แล้วเขาก็ยอมแพ้ไม่อธิบายแล้วปล่อยให้คุณลุงคนนั้นเดินมาแทนที่ของเขาและเห็นด้วยตัวเอง
"เดินเร็วๆ หน่อยสิ"
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดไปเมื่อคุณลุงยังคงส่งเสียงบอกให้คนข้างของข้างหน้าเร่งเดินอยู่อย่างนั้นไปเรื่อยๆ
จะว่าไปพวกเขาที่รอเรียกแท๊กซี่ตรงนี้ก็คงเหมือนฝูงกวางที่พยายามหาทางเอาตัวรอดใน 'ป่าใหญ่' สักที่สินะ
ทอมสบัดหัวของเขาเมื่อเขาเริ่มคิดไปไกลถึงขนาดเริ่มเปรียบเทียบเมืองที่แสนศิวิไลนี้เข้ากับป่าทึบที่กว้างใหญ่นั้น
"ไปไหนครับ?"
"ตึกรีจิสตรงถนนพิสครับ"
เขาทิ้งตัวลงนั่งกับเบาะหลังรถอย่างไม่ไว้ฟอร์มหลังจากที่เขายืนขาแข็งรอคิวมา 40 นาที ในที่สุดเขาก็ได้รถตามที่ต้องการและกำลังจะได้ถึงที่พักหลังจากต่อสู้มาทั้งวันสักที และแน่นอนว่าคืนนี้ช่องสารคดีสัตว์ป่าคงไม่ได้เป็นตัวเลือกในหารที่อยู่เป็นเพื่อนเขาในยามค่ำคืนนี้อย่างแน่นอน
#novelber2017 #sweetsky
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in