เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Some nights on the moon คุณผู้มาเยือนยับยง
Everything has a name for itself.

  •  

    ธาริตยืนคั้นน้ำส้มสดๆ จากนั้นผสมกาแฟกับน้ำเย็นคนให้เข้ากันพักไว้แล้วนำแก้วใส่น้ำแข็ง เทน้ำส้มลงไปด้านบนท็อปด้วยกาแฟอเมริกาโน่หลังจากนั้นก็ตกแต่งด้วยโรสแมรี่เป็นการปิดท้าย

    "อเมริกาโน่น้ำส้มของคุณจรได้แล้วนะครับ" คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่จรจรัลเข้ามารบกวนร้านกาแฟของธาริต เป็นเช่นเคยเมื่อการมาของเขาทำให้ลูกค้าที่มีอยู่เริ่มเดินออกจากร้านจนเหลือเพียงชายหนุ่มเพียงคนเดียวอย่างเขาเท่านั้น

    จรจรัลรับอเมริกาโน่น้ำส้มคั้นมาจากเจ้าของร้านเพียงหนึ่งเดียว ที่จริงนี่เป็นครั้งแรกที่เขากำลังจะได้ลิ้มรสของรสชาติกาแฟ จรจรัลอาศัยในโลกมนุษย์มาเนิ่นนานแต่เขาไม่เคยลองเครื่องดื่มอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่าทั่วไปและน้ำฝนที่ตกลงมาจากฟากฟ้านั่นแหละ แต่อยู่มาเป็นปีที่เท่าไหร่่ก็ไม่รู้ วันนั้นก็เป็นวันแรกที่นึกหงุดหงิดฝนด้านนอกที่ทำให้ตัวเขาเปียกได้ทั้งๆที่คนอื่นไม่เคยเห็นการมีอยู่ของตนด้วยซ้ำ ธรรมชาติมีพลังเหนือคนล่องหนแบบเขาสินะ

    แต่คืนวานที่เขาได้ลองช็อกโกแลตร้อนที่คุณเจ้าของร้านนำพามาเสิร์ฟให้ พอได้ลองดื่มดูแล้วเขาดันรู้สึกถึงความขมปนหวานติดลิ้นที่ไม่รู้จะสรรหาอะไรเข้ามาเปรียบถึงความแปลกใจเหล่านั้นได้ จรจรัลชอบความร้อนของมันที่ได้ไหลงลงท้อง ชั่วขณะนั้นเขารับรู้ได้ถึงความอบอุ่นข้างในมากกว่าความหนาวเย็นของเสื้อผ้าเปียกชื้นที่ตนสวมใส่ไปชั่วขณะ จากที่คิดว่าจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว กลับกลายเป็นว่าเขาโหยหาความรู้สึกแบบที่ว่ามากเหลือเกิน พอเห็นหน้าร้านที่มีไฟสว่างอยู่พอรู้ตัวอีกทีก็เดินเข้ามาเอานิ้วจิ้มสุ่มสี่สุ่มห้าไปแล้ว

    จรจรัล ยกอเมริกาโน่น้ำส้มคั้นดื่มโดยตัวเขาเองกลับไม่เคยรู้ชื่อสักเมนูที่ได้ดื่มไป แม้แต่ช็อกโกแลตร้อนเขาก็ไม่รู้มาก่อนว่ามันมีชื่อให้เรียก แม้แต่เจ้าของร้านเองก็มีชื่อเรียก ตัวเขาเองก็ยังชื่อคุณจรเสมอมานั่นแหละ พอเขาได้ลองคิดแบบนั้นแล้วก็อดจะถามคำถามออกไปโดยไม่รู้ตัว

    "นี่มันมีชื่อให้เรียกหรือเปล่าครับ"

    "มีสิครับ แก้วที่คุณจรถืออยู่เรียกว่า Orangina Espresso ครับ"

    "แล้วแก้วนั้นล่ะ ที่คุณทำให้ผมในคืนก่อนน่ะ"

    "อ้อ นั่นเรียก ช็อกโกแลตร้อนครับ คุณมีแก้วไหนที่ชอบเป็นพิเศษไหมครับ"

    "ไม่รู้สิ นี่มันแตกต่างกันมากไม่ใช่เหรอ เพราะแบบนั้นผมเลยชอบทั้งสองแก้วเลยหรือเปล่านะ" จรจรัลอดขมวดคิ้วเป็นปมไม่ได้เพียงเพราะคำถามจากเจ้าของร้าน เขายกแก้วขึ้นดื่มอีกครั้งแล้วพบว่ามันขมมากกว่าช็อกโกเลตร้อนมากและมันมีรสชาติเปรี้ยวแปร่งๆของส้มตามมาด้วย เป็นรสชาติที่ตัดกันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว

    "ผมแค่รู้สึกว่าเพราะคืนนี้ผมไม่ได้เปียกฝนเข้ามา และอเมริกาโน่น้ำส้มคั้นแก้วนี้ก็ไม่ได้อบอุ่นเหมือนช็อกโกแลตร้อน"

    "เมนูร้อนกับเย็นมันต่างกันมากเลยหละครับ" ธาริตเอ่ยขึ้นพร้อมกับชงช็อกโกเลตร้อนอีกแก้วไปด้วย เขาตั้งใจไว้ว่าอยากให้่คุณจรได้รับรู้ความรู้สึกของตัวเองในคืนนั้นเป็นครั้งที่สองด้วยบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป

    "คุณจรคงไม่รู้ว่าฝนตกแบบนี้คนส่วนมากชอบกินเมนูร้อนมากเลยหละครับ วันนี้คุณจรสั่งเมนูเย็นเป็นคนแรกเลยนะครับ"

    "คงเป็นเพราะผมขี้ร้อนสิน่า" เปล่าหรอก จรจรัลแอบทิ้งท้ายประโยคสั้น ๆนั้นไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ ตอนแรกคนก็แค่เขินเกินกว่าที่จะถามออกไปว่า 'ไอ้นั่นน่ะ ที่คุณชงให้ผมไปมันเรียกว่าอะไรแล้วนะ แล้วคุณจะชงมันให้ผมได้อีกหรือไม่' นั่นน่ะ มันน่าอายเกินไปไม่ใช่เหรอ

    "ไหนๆร้านก็ใกล้จะปิดแล้ว ผมเลยอยากให้คุณลองมันอีกครั้งน่ะ" ธาริตเดินออกจากเคาน์เตอร์เพื่อวางช็อกโกเลตร้อนไว้ที่โต๊ะของคุณจรด้วยตัวเองและแก้วอีกแก้วนั้นคืออเมริกาโน่ร้อนแบบเพียวของตัวเองนั้นก็ถูกวางลงบนโต๊ะตัวหนึ่งตรงกันข้ามกับโต๊ะคุณจร

    ธาริตรู้สึกสนใจในตัวคุณจรเป็นพิเศษ เพราะเกือบหนึ่งปีที่เขาทำร้านกาแฟแห่งนี้ไม่ค่อยมีคนสงสัยในเครื่องดื่มของตนแบบที่คุณจรสงสัยและกล้าที่จะถามโดยไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่แปลก แต่ก็คงเพราะลูกค้าแบบคุณจรนานปีมีหนถึงจะหลงเข้ามาที เขาเลยอยากจะรักษาลูกค้าแบบนี้ไว้ อยากให้คนที่หลงใหลในเครื่องดื่มพวกนี้หลงใหลมันต่อไปเหมือนที่ตัวธาริตเองก็ไม่เคยหยุดหลงใหลในการทำเครื่องดื่มเพื่อลูกค้าในแต่ละวัน

    จรจรัลยกแก้ว ช็อกโกแลตร้อนขึ้นดื่มอีกครั้ง รสชาติและควันที่ลอยอบอวลภายในร้านยังคงเป็นเหมือนคืนแรกที่เขาได้ก้าวเท้าเข้ามาเยือน

    "คืนนั้นเจ้านี่ช่วยชีวิตผมไว้หละ"

    "ผมดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น แล้วคืนนี้ล่ะ?"

    "ก็เป็นคืนที่ดีอีกคืนหนึ่ง" จรจรัลรู้สึกบิดมวลในท้องแปลกๆตอนที่เจ้าของร้านที่นั่งตรงข้ามกับเขาไปไม่กี่ก้าวดันยิ้มจนเห็นรอยบุ๋มของแก้มเข้า เขาเผลอมองแก้มที่ยกขึ้นพร้อมกับการหยีตาบนใบหน้าขาวซีดนั่นอยู่เป็นเวลานาน จวบจนเจ้าของร้านที่ว่ายกแก้วที่มีควันร้อนๆขึ้นดื่มจนปิดไปทั้งหน้า จรจรัลถึงได้รู้สึกว่าเขาน่าจะฝันกลางวันไปเมื่อครู่

    "ว่าแต่นั่นในมือคุณน่ะ--"

    "Americano ครับหรือเรียกอีกอย่างว่ากาแฟดำ "

    "คุณชอบมันเหรอ"

    "เรียกว่าเคยชินละมั้งครับ ปกติถ้าทำงานกลางคืนแบบผมเจ้านี่ทำให้ไม่ง่วงน่ะ คุณจรถ้าไม่อยากนอนแบบผมก็ดื่มเจ้านั่นให้หมดก็เกินพอแล้วหละครับ" ธาริตชี้ตรงไปที่เมนูเย็นที่เหลือน้ำและน้ำแข็งในแก้วไว้จนมันน่าจะเย็นชืดและรสชาติจืดเนื่องเพราะคุณจรไม่ยกมันขึ้นจิบมันเป็นเวลานาน

    "ต่อให้ดื่มจนหมด ผมก็ไม่ได้นอนอยู่ดี" จรจรัลไม่ขยายความไปมากกว่านั้น เจ้าของร้านอย่างธาริตเองก็ไม่ได้เอ่ยถามซักไซ้อะไรต่อ แต่ต่อให้ถามคนก็คงไม่เชื่อว่าจรจรัล ชายหนุ่มล่องหนไม่เคยได้หลับใหลเลยแม้แต่คืนเดียว เพราะพอพระอาทิตย์ขึ้นตัวของจรจรัลยังค้นหาตัวเขาเองไม่พบเลย บางครั้งเมื่อได้ยินผู้คนพูดถึงเช้าวันใหม่ต้องเตรียมตัวไปทำงาน หรือทำอาหารไว้รอใครสักคน

    จรจรัลเองก็อยากจะทำแบบนั้นบ้างอยู่เหมือนกัน แต่พอคิดดูอีกที ณ ตอนนี้เขาก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ พอพระอาทิตย์ตกก็ต้องเตรียมตัวไปทำงาน พอเลิกงานก็หามื้อค่ำเพียงแต่ไม่มีใครที่เขาต้องรอและเขาเองก็ไม่ต้องเตรียมอาหารมื้อดึกให้ใคร

    "ร้านผมใกล้ปิดแล้ว คุณจรต้องการอะไรเพิ่มหรือไม่ครับ"

    "คุณจะปิดร้านแล้วเหรอ" จรจรัลอดถามซ้ำกับคำบอกกล่าวนั้นอย่างเสียไม่ได้ เขาไม่ได้อยากดื่มอะไรอีกแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากออกจากร้านไปที่อื่น

    "นี่ก็ตีสอง ความจริงแล้วผมปิดร้านตีหนึ่งครึ่งตลอดเลยนะครับ คงเป็นเพราะคุณจรยังอยู่ที่นี่ ผมเลยเผลอคุยจนลืมเวลา" จรจรัลเผลอยกมือเกาแก้มและคอไม่หยุด เขาคือคนที่ทำให้เจ้าของร้านปิดร้านสายหรอกหรือนี่

    "ผมขอโทษนะ"

    "มัมไม่ใช่เรื่องที่ต้องขอโทษและโยนความผิดให้กันเสียหน่อยนี่ครับ " จรจรัลมองดูเจ้าของร้านเพียงหนึ่งเดียวเดินเข้าเดินออกตรงเคาน์เตอร์เป็นพัลวัน บางคราก็หยุดยืนนิ่งหากแต่มือก็ยังคงยุ่งกับการล้างและเช็ดอุปกรณ์ไม่หยุดนิ่ง เขาเผลอเอามือเท้าคางนั่งมองคนๆนั้นจนกินเวลาอยู่เกือบชั่วโมง เป็นครั้งแรกที่จรจรัลหาวออกมาโดยไม่รู้ตัว เขานิ่งไปนานจนกระทั่งระลึกได้ว่าพึ่งเคยหาวก็ยิ่งตกอยู่ในภวังค์ อเมริกาโน่น้ำส้มที่ค้างเติ่งตรงโต๊ะ เขาตัดสินใจดื่มมันจนหมดแก้วแล้ววางลงที่เดิม

    "ไหนบอกว่าไม่เคยนอน แล้วเมื่อกี๊แกหาวทำไมวะจร" จรจรัลพึมพำกับตนเองเบาๆ เขาคิดยังไงก็ไม่ตกสักที จนกระทั่งมีมือสีขาวซีดมาเก็บแก้ว ช็อกโกแลตร้อนที่จรจรัลได้ดื่มมันหมดไปตั้งแต่ชั่วโมงแรกๆ

    "ขออนุญาตเก็บถ้วยนะครับ"

    "คุณเจ้าของร้าน ไม่สิ คุณชื่ออะไรครับ"

    "คุณเรียกผมว่าธารก็ได้ครับ "

    "ครับคุณธารนะครับ ร้านคุณมีวันหยุดไหม "

    "ร้านผมหยุดทุกวันอาทิตย์ดังที่ป้ายหน้าร้านแขวนเลยน่ะครับ"

    "จะว่าไปแล้ว ชื่อร้านคุณก็แปลกดีนะ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีความหมายยังไง" จรจรัลยังคงนั่งเท้าคางมองไปรอบๆร้านแล้วสายตาดันไปหยุดอยู่ที่ชื่อร้านบนผนังใกล้กับนาฬิกาตัวเดียวของร้าน

    "กัษษากร นั่นน่ะ มันหมายถึงอะไรอย่างนั้นหรือ"

    "หมายถึงพระจันทร์น่ะครับ "

    "ผมนั่งดื่ม ช็อกโกแลตร้อนและอเมริกาโน่น้ำส้มคั้นบนดวงจันทร์หรอกหรือนี่" พอธาริตได้ยินแบบนั้นก็อดร้องคำว่า 'โอ้'ออกมาเป็นไม่ได้ เขาชอบใจเป็นอย่างมากกับคำพูดที่แฟนตาซีแบบนั้น

    "ผมเพียงแค่อยากให้มันเข้ากับร้านที่เปิดในตอนกลางคืนน่ะครับ พอมองออกไปนอกร้านแล้วเห็นพระจันทร์ก็รู้สึกว่าร้านผมคงมีดวงจันทร์เป็นเจ้าของรึเปล่านะ "

    "งั้นคุณก็เป็นเจ้าของดวงจันทร์แล้วสิ"

    "รู้สึกยิ่งใหญ่ขึ้นมาทันทีเลยครับ" ธาริตอดหัวเราะออกมาเป็นเสียไม่ได้ เปิดร้านมาก็ตั้งนานพึ่งรู้หละว่าเป็นเจ้าของดวงจันทร์มาตลอด

    "ไว้มาพบกับเจ้าของดวงจันทร์ในคืนใหม่นะครับ" ธาริตผงกหัวบอกลาให้กับคุณจรที่โบกมือให้ก่อนออกจากร้านของตนไป เขายืนมองประตูหน้าร้านที่ปิดงับลงอย่างเชื่องช้า

     

    จู่ๆเขาก็รู้สึกตั้งตารอคอยให้คืนใหม่มาถึงไม่ไหวซะแล้ว

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in