ฉันมีความฝัน ที่แม่เคยฝัน ที่ไม่กล้าฝัน
ที่คนธรรมดาคนนึงไม่กล้าฝัน
แต่เขาก็ให้มา โดยที่ฉันก็แอบฝัน
คนล้วนมีความฝัน ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าตนเองไม่เคยฝัน ไม่ว่าจะฝันที่อยากจะให้เกิดขึ้นจริงในอนาคต สิ่งที่หวังตั้งใจไว้ หรือฝัน ฝันที่เข้ามาโลดแล่นในยามที่เราหลับใหล ฝันที่กำลังจะกล่าวต่อไปนี้ เป็นปริศนาที่หลายๆท่านพยายามให้ความหมาย พยายามหาคำตอบ ว่าแท้จริงแล้วฝันคืออะไร ทำไมฝันของบางคนจึงกลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจริงได้ แต่บางคนเมื่อฝันตื่นขึ้นมาก็จำไม่ได้ซะแล้ว แท้จริงแล้วความฝันของเราคืออะไรกันแน่
"ความฝันคือการแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึก
และแรงปรารถนาบางอย่างที่ถูกกดทับและเก็บซ่อน
เอาไว้ข้างในจิตใจลึกๆ ของผู้คน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะ
ผูกโยงอยู่กับเรื่องทางเพศเป็นหลัก"
‘ความฝันคือพลังงานที่มีรูปร่างแบบหนึ่งที่เกี่ยวพันกับจิตใต้สำนึก บ่อยครั้งที่ความฝันของคนเราคือภาพสะท้อนของสิ่งต่างๆ ที่เราพบเห็นและรู้สึกนึกคิดในแต่ละวัน เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่สมองจะมีการประมวลผลและขบคิดถึงสิ่งต่างๆ’
ซิกมันด์ ฟรอยด์ นายแพทย์ด้านประสาทวิทยาชาวออสเตรีย ผู้ได้รับฉายาว่าเป็นบิดาแห่งจิตวิเคราะห์ ซึ่งศึกษาการทำงานของระบบประสาทและความคิดของมนุษย์เพื่อประโยชน์ทางด้านการแพทย์และด้านอื่นๆ โดยฟรอยด์มองว่า ‘ความฝันคือการแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกและแรงปรารถนาบางอย่างที่ถูกกดทับและเก็บซ่อนเอาไว้ข้างในจิตใจลึกๆ ของผู้คน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะผูกโยงอยู่กับเรื่องทางเพศเป็นหลัก’
คาร์ล ยุง จิตแพทย์และนักจิตบำบัดชาวสวิตเซอร์แลนด์ ผู้เสนอแนวคิดต่างๆมากมายที่มีอิทธิพลต่อองค์ความรู้ในสาขาวิชาจิตเวชศาสตร์คนสำคัญของโลกมองว่า ‘ความฝันคือพลังงานที่มีรูปร่างแบบหนึ่งที่เกี่ยวพันกับจิตใต้สำนึก บ่อยครั้งที่ความฝันของคนเราคือภาพสะท้อนของสิ่งต่างๆ ที่เราพบเห็นและรู้สึกนึกคิดในแต่ละวัน เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่สมองจะมีการประมวลผลและขบคิดถึงสิ่งต่างๆ’
ความฝันของคนเรามักจะเกิดขึ้นในช่วงผู้ที่ฝันร้ายมักเกิดภาวะดังกล่าว ตอนใกล้เช้า เนื่องจากช่วงหลับฝันกินระยะเวลาของการนอนหลับยาวขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงใกล้ตื่น ทั้งนี้ ช่วงหลับฝันเป็นระยะนอนหลับที่สมองตื่นตัวและประมวลความจำหรือเรียนรู้ข้อมูลใหม่ ส่งผลให้สิ่งที่สมองประมวลออกมานั้นปรากฏภาพเหมือนจริงและส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกเมื่อนอนหลับฝัน แต่ละคนจะฝันแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่แล้ว ผู้คนมีรูปแบบฝันร้ายที่เจอได้บ่อยเหมือนกัน ส่วนมากในเรื่องราวที่คนเราฝันนั้นมักจะเป็นความจริงถึง 3 ใน 4 เลยทีเดียว
สำหรับเราก็เคยในเห็นในหนังในละคร ที่เวลาตื่นจากความฝันแล้วร้องไห้ เราไม่เคยเข้าใจความรู้สึกนั้นเลยจนกระทั่งเมื่อเช้ามืดนี้ ประมาณตีสี่ เราฝันร้ายมาก มันเหมือนจริงจนเราไม่เข้าใจเลยว่ามันคือฝัน เรารู้สึกกลัว กลัวมากๆ จนตื่นมาเราร้องไห้ไปสักพักนึงเลยกว่าจะตั้งสติกลับมา ก็เลยนั่งเปิดอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการฝันร้ายจนเกือบสว่างแน่ะ
ฝันร้ายมันน่ากลัวนะ เราทำอะไรไม่ได้เลย เหมือนเราควบคุมตัวเองไม่ได้ มันตามจินตนาการในความฝันเองเลย บางส่วนที่เราไม่ได้เห็นภาพ แต่เราสามารถรู้สึกมันได้เองเลย เช่นแบบ ถ้ามีคนมาเล่าเรื่องอะไรให้เราในฝันฟัง เราที่อยู่ฝันจะเข้าใจความรู้สึก นึกภาพเหตุการณ์ อารมณ์ในตอนนั้นออกเลย เหมือนเป็นส่วนหนึ่งในเรื่อง ตอนที่เราพยายามจะตื่น มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกด้วย เหมือนทำยังไงก็ไม่ยอมออกจากฝันนั้นสักที เหมือนเรากำลังต่อสู้ ขัดขืนกับความคิดของตัวเอง
ฝันร้ายที่คอยเข้ามาแวะเวียน ผลัดกันมาทักทายอยู่ในทุกๆคืน หรือ จะเป็นฝันดี ที่นานๆทีจะแวะหาบ้างก็ดี แต่สุดท้ายมันก็ยังเป็นฝันอยู่ในได้แค่ในความคิดของเรา ตัวเรานั่นแหละที่สำคัญที่สุด ตัวเรานี่แหละคือกุญแจสำคัญของฝัน อย่าให้ตัวเราเองได้ทำร้ายตัวเองแม้กระทั่งในความฝันเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in