ถือว่าเรายังโชคดีที่มีเพื่อนมีพี่คนสนิทที่เข้าใจโรคนี้ เข้าใจเกี่ยวกับการไปหาหมอ เข้าใจว่ามันคือความเจ็บไข้ที่ต้องได้รับการรักษาให้กลับมาหายปกติ เขาไม่ได้มองว่าเราแปลก (หรืออาจจะมองแต่เราไม่รู้) อย่างน้อยในครั้งนี้ เราสามารถรวบรวมความกล้าไปหาคุณหมอได้
และนี่คือครั้งแรก ที่มาหาหมอด้วยตัวเอง หาหมอจิตเวช ด้วยตัวเอง
โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านจิตเวช อยู่ไม่ไกลจากที่พักสักเท่าไหร่ ขับรถยี่สิบนาทีก็ถึง สิบนาทีก็ได้ถ้าซิ่ง
ด้วยความที่ปกติจะปิดไฟนอนตอนตีหนึ่ง แต่ได้หลับจริงๆ คือประมาณตีสี่ตีห้า วันนั้นเลยเล่นตื่นซะสิบโมงกว่าเลย กว่าจะถึงโรงพยาบาล (ขับรถหลงไปรอบหนึ่ง) ก็สิบเอ็ดโมง แถมยังโดนรับน้องด้วยการเลี้ยวเข้าลานจอดรถทางหน้าโรงพยาบาล ได้เจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง วัยประมาณมัธยมต้น นั่งโวยวายจะไม่ไม่มาหาหมอโดยมีพ่อกับแม่ช่วยกันฉุดให้ลุกขึ้น คือถึงกับยกมือทาบอกเบาๆ
กว่าจะหลุดจากจุดนั้นและได้จอดรถก็เกือบๆ ห้านาทีพอไปถึง เราเข้าไปติดต่อพยาบาลตรงจุดคัดกรอง พยาบาลถามคร่าวๆ ว่าเป็นอะไรถึงมาหาหมอ มาคนเดียวเหรอ นี่ก็บอกไปว่ามีอาการดาวน์ ร้องไห้หนัก และโทษตัวเอง บอกแค่คร่าวๆ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากนัก พี่พยาบาลจึงให้ไปติดต่อขอกรอกเอกสารเกี่ยวกับผู้ป่วยใหม่
เราทำตามขั้นตอนง่ายๆ รับเอกสารมาหนึ่งแผ่นเพื่อกรอกข้อมูล มาเองก็ติ๊กช่องว่ามาเอง กรอกเอกสารไปยื่นและรับบัตรคิวสรุปคือไปติดเที่ยงพอดี ได้บัตรคิวมา ให้มานั่งรอตอนบ่ายเพื่อเรียกคิวรับบัตรผู้ป่วย
ในตอนนั้นตื่นเต้นจริงๆ นะคะ ลุ้นมากว่าจะเจออะไรบ้าง
ที่จริงก็กลัวเจอแอดมิทนะคะ แต่ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก แต่เอ๊ะอะไรก็เกิดขึ้นได้
ถ้าแอดมิทก็ไม่ได้เล่นเกมสิ ไม่เอาอ่ะ แต่กดาสฟห่กดาส่ฟหาสกด่สฟ กรี๊ดดดดดดด (เป็นบ้าไปสองนาที)
โรงพยาบาลศรีธัญญา โรงพยาบาลที่ตอนเด็กๆ มันเอาไปล้อเลียนกับเพื่อเป็นประจำ ถูกปลูกฝังความคิดประหลาดๆ พวกนั้น
เรากำลังจะเป็นคนไข้ที่นี่แล้วค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in