เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#notesเพื่อนปรึกษา
#32 ความชั่วร้าย
  • ดังเช่นคำว่า มารไม่มีบารมีไม่เกิด ทำให้ฉุกคิดได้ว่าการที่เราจะไปบอกว่าสิ่งที่ไม่ดี หรือสิ่งชั่วร้ายนั้นเป็นของไม่มีประโยชน์ซะทีเดียว ก็หาใช่ไม่ แต่กลับกลายเป็นขึ้นอยู่กับปัญญาของตัวเราเองที่จะมองความชั่วร้ายนั้นในแง่มุมใดเท่านั้นเอง หากเรายังมองสิ่งที่ไม่ดีว่าไม่มีประโยชน์ และมองเห็นว่าสิ่งที่ดีเท่านั้นที่มีประโยชน์ นั่นอาจจะหมายถึงความชั่วร้ายที่แท้จริงเสียมากกว่า การพินิจพิจารณาต่อสิ่งต่าง ๆ จึงทำได้ยากยิ่ง ต้องหมั่นฝึกปรือ ค่อย ๆ มองทีละอย่างแล้วไม่มองอย่างผิวเผิน เมื่อนั้นเราจะเจอสิ่งที่ล้ำค่าอยู่ภายในนั้น.

    ความชั่วร้ายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์

    ผู้คนมากมายอาจจะกำลังสงสัยว่า ความชั่วร้ายนี้มีคุณประโยชน์กับเขาด้วยเหรอเนี่ย แต่เชื่อเถอะว่าความชั่วร้ายนี่แหละที่มาทำให้เราทุกคนเปลี่ยนแปลงตัวเองก็มี ทำให้เราตกลงไปในห้วงของความมืดมิดก็มี หรือบางคนก็อาจจะทำให้เขาสำเร็จมรรคผลเลยก็เป็นไปได้เช่นกัน มันขึ้นอยู่กับวิธีการรับมือกับสิ่งเลวร้ายเสียมากกว่า ในอีกแง่มุมหนึ่งความชั่วร้ายก็มีโทษมหันต์เช่นเดียวกัน หากเราไม่นำมันมาปรับปรุงและแก้ไข เปรียบเสมือนเราไม่รู้จักใช้มีด วันหนึ่งมีดอาจจะบาดเราได้เพราะเราจับผิดด้าน ฉันใดก็ฉันนั้น การอยู่บนโลกใบนี้มีทั้งดีและไม่ดี เราทุกคนจำเป็นต้องมีคู่มือมนุษย์ ที่เปรียบเสมือนประทีปคอยส่องแสงไฟในยามมืดมิดฉะนั้น.

    เมื่อเราใช้ประโยชน์จากมันได้ ความชั่วร้ายก็อาจจะกลายเป็นสิ่งมีคุณค่าไปโดยปริยาย แต่หนทางที่เราจะใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ก็ไม่ใช่ง่ายดายนักหรอก เหตุผลก็คือความชั่วร้ายมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีอยู่มาตั้งแต่ต้น การจะไปเปลี่ยนวิถีธรรมชาตินั้นย่อมต้องทวนกระแสน้ำ แล้วการทวนกระแสน้ำไม่ใช่สิ่งที่คนทุกคนสามารถทำได้ การจะไปบอกว่าการทวนกระแสไม่ยากหรอก จึงเป็นความประมาทอย่างยิ่ง แล้วคนไม่มีปัญญานั้นก็จะมองอย่างตื้นเขิน ประเมินว่าตนเองนั้นสามารถเอาชนะความชั่วร้ายได้แล้ว กระนั้น ความชั่วร้ายจะครอบงำบุคคลนั้นอย่างแท้จริง การมองไม่เห็นมันเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างหาที่สุดมิได้ จึงต้องระมัดระวังเอาไว้.

    หากใช้ประโยชน์ไม่ได้มันจะให้โทษแก่ตนเอง

    ชีวิตเรานั้นเป็นเหมือนค่ากลาง เราไม่สามารถจะไปบอกว่าสิ่งที่ไม่ดีคือสิ่งที่ไม่ดีเสมอไป หากเราแปรเปลี่ยน และกลั่นกรองออกมาจากการขบคิดอย่างดีแล้วว่า สิ่งที่ไม่ดีก็สามารถเป็นสิ่งที่ดีได้เช่นกัน หากเราสามารถนำมันมาใช้ประโยชน์ได้ แต่ก็มีบางครั้งที่เราไม่สามารถจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ก็ในเมื่อสมองเราไม่สามารถขบคิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เลย เรามัวแต่มองไปว่า ความชั่วร้ายคือสิ่งที่ไม่ดี มันคอยแต่จะทำร้ายเรา หรือมันไม่เคยเข้ามาช่วยอะไรเราเลย แต่ ณ ขณะนั้นจริง ๆ ความชั่วร้ายได้ผ่านพ้นไปนานแล้ว แต่ใจเราเองนั่นแหละที่คอยกระหน่ำซ้ำเติมด้วยความทรงจำอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากความคิดของคุณเองคนเดียว.

    มุมมองเป็นบ่อเกิดของปัญญา เมื่อเหรียญยังมีสองด้าน ไฉนเล่าชีวิตจึงมีแค่ด้านเดียว หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่าชีวิตโดยรวมก็เป็นเหมือนสีเทา แต่จริง ๆ แล้วชีวิตคนเรามันไม่มีสีใด ๆ ด้วยซ้ำ เรากำหนดค่านิยามของเราขึ้นมาเพราะเราไม่อยากจะมีชีวิตสีดำไปเลย แต่บางทีเราก็ไม่คิดว่าชีวิตของเรามันจะเป็นสีขาวไปได้ เพราะยิ่งโตปัญหายิ่งเข้ามามากมาย ความเครียดก็ถาโถมมาไม่หยุดหย่อน จะไปบอกว่าชีวิตคือสีขาวก็ยังไงอยู่นะ แต่เชื่อเถอะว่า ชีวิตคือสีชมพูมาตลอด มันคือสีของความสดใส และเราเองที่เติมสีอื่น ๆ เข้าไปเอง หากเรายังมีดวงตาของความเป็นเด็กอยู่ หากเรายังเชื่ออยู่เสมอว่าเราสามารถทำได้ในสิ่งที่เรามุ่งหวังนั่นแหละ ชีวิตของเราก็คือสีชมพู.

    ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ดีเสมอไป

    บางคนได้สัจธรรมเล่มใหญ่จากความชั่วร้าย สำหรับใครบางคนอาจจะมองไม่เหมือนกัน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจำเป็นต้องมองความชั่วร้ายเหมือนกันทุกคน แล้วก็แน่นอนว่า ต่อให้เราเจอธรรมะชั้นดี เราก็อาจจะดูถูกธรรมะเหล่านั้นว่าไม่ดีก็ได้เหมือนกัน เพราะเรายังไม่เคยลิ้มรสชาติของพระธรรมอย่างแท้จริง เมื่อนั้นก็ไม่แปลกที่เราจะปฏิเสธหรือต่อต้านที่จะนำมันมาใช้ ที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องเป็นคนที่มุ่งมั่นและพยายามหาทางออกให้กับชีวิต เมื่อเราทุกข์อย่างแสนสาหัส เมื่อนั้นเราจะมุ่งแสวงหาทางออกให้กับชีวิตของเรา ถ้าหากว่าเรามีความสุขอยู่เราจะไม่อยากเปิดใจรับทางออกของปัญหาหรอก.

    ความทุกข์อาจจะเข้ามาจากสิ่งที่ดีก็ได้เหมือนกัน สิ่งที่ดีหมายความว่าสิ่งที่ยั่วยวนเราให้หลงใหล ติดงอมแงม และรู้สึกว่าขาดมันไม่ได้ นั่นแหละคือสิ่งที่ดีในนิยามนี้ โดยรวมแล้วจะให้ผลเป็นทุกข์มากกว่าสุข ก็เพราะปัญหาที่ตามมาจากสิ่งเหล่านี้ย่อมมีความแปรผันไปมากกว่าสิ่งอื่น ๆ จึงเรียกว่ากามสุข ซึ่งปัญหาของคนส่วนใหญ่ จึงแยกไม่ค่อยออกระหว่างสุขจริงกับสุขปลอม และทุกข์จริงกับทุกข์ปลอม บางครั้งทุกข์ปลอมคือการอดทนที่จะข้ามผ่านปัญหาในชีวิตไปได้ แต่กลับกลายเป็นเราไม่ยอมอดทนเพื่ออะไรสักอย่าง แล้วก็เหมารวมไปเลยว่า ความอดทนไม่มีประโยชน์หรอก แต่จริง ๆ แล้วการอดทนเป็นสิ่งที่สำคัญต่อยุคสมัยนี้มาก.

    สติคือสิ่งเดียวที่จะผ่านพ้นอุปสรรคไปได้

    อยู่กับปัจจุบัน นี่คือหลักอันสำคัญที่เราจะผ่านห้วงเวลาอันแสนยากลำบากไปได้ ในขณะที่เรากำลังทุกข์ ณ เวลานั้นเรากำลังพร่ำบอกตัวเองว่าอะไรจงนึกให้ดี ๆ หากเรากำลังก่นด่าโชคชะตาก็กำลังแปลว่าเราโดนความชั่วร้ายครอบงำเสียแล้ว หากเรากำลังขอบคุณสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาก็กำลังแปลว่าเราสามารถข้ามผ่านความชั่วร้ายนั้นไปได้ เมื่อเราสามารถเลือกหนทางเดินต่อไปได้เอง ความชั่วร้ายจักทำอะไรเราได้เล่า มีหลายคนที่อยากฆ่าตัวตายเพราะคิดว่าชีวิตนี้ไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว อยากหนีไปให้ไกล หรืออยากจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แต่เชื่อเถอะว่า ชีวิตมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นถ้าทุกข์แล้วฆ่าตัวตายได้จริง จะมีคนหลายคนยืดหยัดต่อสู้ไปเพื่ออะไรเล่า.

    เมื่อการหนีไม่ใช่ทางออก และการฆ่าตัวตายเป็นเพียงการยืดเวลาให้ความชั่วร้ายได้เอร็ดอร่อย จากที่ได้กลืนกินจิตวิญญาณของเราไม่ให้เหลือชิ้นดี การเวียนว่ายตายเกิดมีจริง และการทำกรรมและผลของกรรมก็มีจริงเช่นเดียวกัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหตุและผล จงใช้สติพิจารณาจริง ๆ ว่าการหนีปัญหาก็คือการหนีปัญหา ลองตั้งใจสักตั้งนึงแล้วผ่านไปให้ได้ ยังไงแล้วความชั่วร้ายมันก็ต้องหมดไปสักวันหนึ่ง เราต้องศรัทธาแบบนี้ ความดีเท่านั้นที่จะมาคอยปัดเป่าความไม่ดีให้สิ้นซาก การทำความดีจึงเป็นทางออกของทุก ๆ สรรพสิ่ง อย่างน้อยที่สุดเราจะมีความสุข และอย่างมากที่สุดมันจะเป็นหนทางไปสู่ความพ้นทุกข์อย่างหาที่สุดมิได้.

    __________________________________________ .

    สามารถติดตามได้หลากหลายช่องทางได้แก่ facebook or twitter

    และสามารถร่วมแชร์ประสบการณ์ผ่าน facebook messenger ได้เลยครับ.
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in