เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
9Satra fanfic : Short Fic & One shotkizu_amakusa
[9Satra fanfic] One Shot : [ทารคาxพรานทมิฬ] Modern day AU : ประกาย

  • บางทีก็คิด ว่าวันที่เราจะแยกทางหรือแยกย้ายกันไป มันจะเป็นวันแบบไหน


    อากาศอาจจะดีมากหรือว่าฝนตกแบบพายุเข้า

    แต่ที่แน่ๆ คือต้องเตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆ เพราะมันอาจจะเป็นวันนี้  พรุ่งนี้ อาทิตย์หน้า หรือเป็นตอนที่เรากำลังนั่งกินข้าวด้วยกันตอนนี้ก็ได้



    อย่างน้อยถ้าความรักมันจะมีบอกวันหมดอายุบ้างก็น่าจะดี จะได้ไม่ต้องนั่งลุ้นให้เจ็บปวดใจทุกวันแบบนี้

    บากคิดไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันระหว่างเคี้ยวข้าว เขาเหลือบตามองทารคาที่กำลังเอาช้อนตักแกงตรงหน้าใส่จาน



    เสียงจากมือถือทารคาดังขึ้น ไม่ใช่เสียงเรียกเข้า แต่เป็นนาฬิกาปลุก



    ตั้งเตือนตอนหกโมงครึ่ง?

    บากมองมือถือทารคาสลับกับมองเจ้าของมือถือนั้นอย่างสงสัย



    “ไปก่อนนะ ฝากจ่ายตังค์ด้วย”

    ยังไม่ทันจะได้ถามอะไร เจ้าของผมแดงก็รีบลุกไปแบบไม่หันกลับมามอง



    เลิกงานแล้ว แต่ยังกับมีนัดสำคัญยังไงยังงั้นเลยนะ...

    เขาได้แต่นึกคำถามไว้ในใจ เพราะคนที่อยากถามเดินไปไกลแล้ว

    บากเท้าคางเอียงคอ มองเงินค่าข้าวที่วางไว้ฝั่งตรงข้าม พลางเอาส้อมเขี่ยผักในจานตัวเองเล่น


    ปกติเราทั้งคู่จะแบ่งกันจ่ายค่าข้าวไปคนละครั้งอยู่แล้ว หรือถ้าครั้งไหนใครไม่ได้พกเงินมา อีกฝ่ายก็จ่ายให้ก่อนได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ไม่แม้แต่จะถามว่าครั้งที่แล้วเป็นยังไง ถึงตาใคร


    เวลาจะไปไหนก็เคยที่จะบอกกันก่อนเสมอ แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างก็ดูเป็น “ธุระ” ไปหมด



    ปลายนิ้วสีบานเย็นอมม่วงหยิบช้อนกลางคนแกงจืดตรงหน้า บากปล่อยช้อนให้จมลงไปในน้ำซุปจนมิดด้าม



    ...คงไม่จำเป็นอีกแล้วมั้ง…



    ------------------------------------------------



    พระอาทิตย์ตกดินไปนานแล้ว ไม่มีเด็กคนไหนที่ยังอยู่ที่สนามเด็กเล่น มีแต่เสียงจั๊กจั่นที่ดังระงม จนบางทีเหมือนกับเป็นความเงียบ

    บากนั่งโยกชิงช้าที่ดูไม่สมตัวเขาอยู่ตรงใต้เสาไฟ มือก็กำลังปัดป่ายอยู่กับแมวที่ตัก มันกำลังพยายามตะปบนิ้วยาวๆ ของเขา บากโยกนิ้วหลบ เจ้าแมวก็โยกไปตะปบตาม

    ทำซ้ำๆ กันอยู่อย่างนี้จนเจ้าแมวจรเริ่มเชื่องกับเขา


    ทารคาหยุดเท้าที่หน้าสนามเด็กเล่น เสียงทรายที่บี้กับส้นเท้าทำให้บากรู้สึกตัวของผู้มาเยือน


    “ทำไมไม่รับสาย”

    ยักษาผมแดงสาวเท้าเข้ามา พร้อมกับสะบัดข้อเท้าให้ทรายที่กระเด็นขึ้นมาหลุดออกไป



    “อ่าว โทษที ปิดเสียงไว้” บากหยิบมือถืออกจากกระเป๋าแล้วก็เห็นมิสคอลอยู่ห้าสาย เจ้าแมวกระโดดหนีไปแล้ว เพราะคนที่มาใหม่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่


    ทารคามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าบากที่กำลังโยกชิงช้าน้อยๆ บากก้มหน้า ไม่ได้พูดอะไรกับเขาต่อ


    “เป็นอะไร”


    ทารคายกมือขึ้นมาลูบแก้มสีม่วงหม่น กำลังจะเลื่อนไปลูบผมสีขาวที่ดูนุ่มนั่น ก็โดนบากเอียงคอมาซบ จนต้องหยุดมือซะก่อน



    “นิดหน่อย”

    บากหลับตา ถอนหายใจเบาๆ เหมือนกับได้เจอที่พักผ่อน

    ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะหลับตรงนี้ซะเลย หลับไปตลอด



    “ช่วงนี้มันกำลังมีการเปลี่ยนแปลง” ทารคาลากมือออกมาจากไออุ่นนั่น แล้วหันหลังเดินไปอีกทาง

    บากมองตาม แต่ซักพักก็ก้มหน้ามองตามแมวที่ยืนสุ่มมองอยู่ห่างๆ



    “และมันจะแย่ลงอีก เราจะได้อยู่ด้วยกันน้อยลงไปอีก คงไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยเท่าแต่ก่อน”



    … แมววิ่งหายไปแล้ว

    บากจับโซ่ชิงช้าแน่นเหมือนมันจะหนีไปไหน แต่ก็ค่อยๆ คลายมือลงอย่างปลงใจ





    “แต่ก็ไม่ลืมวันเกิดนายนะ”

    บากเงยหน้ามอง เบิกตากว้าง เห็นเทียนเล่มเล็กๆ ที่สว่างเป็นจุดเพราะแรงลมเอื่อยๆ

    เค้กโรลชิ้นเล็กที่คงซื้อจากมินิมาร์ทไม่ไกลนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ



    ทารคานั่งลงตรงหน้าบากที่นั่งชิงช้า

    “สุขสันต์วันเกิด”

    เขายิ้มจางๆ เหมือนรู้สึกผิดบางอย่าง



    บากมองทารคาแล้วยิ้ม เขายื่นมือสีม่วงมาบิเค้กเป็นชิ้นเล็กพอดีคำแล้วเอาเข้าปาก และบิอีกชิ้นป้อนให้ทารคา บากหัวเราะขำพร้อมกับน้ำใสตรงหางตาเล็กๆ ที่ตัวเขาเองก็ไม่สังเกตุ



    “ต่อไปจะลำบากมากกว่านี้ อะไรๆ หลายอย่างที่ชั้นทำกำลังเปลี่ยนไปและชั้นไม่รู้ว่ามันจะดีขึ้นตอนไหน” ทารคาเงยหน้าพูดกับอีกฝ่าย เหมือนจะเป็นการบอกเล่า แต่ก็เหมือนกับเป็นคำสารภาพ

    บากนิ่งฟัง มองหน้าคนที่อยู่ด้วยกันมานานจนถึงตอนนี้ นี่คงเป็นวัน…..






    “ต่อให้เป็นแบบนั้นนายจะยังอยู่กับชั้นมั้ย”



    มันเหมือนมีแสงเล็กๆ เกิดขึ้นในใจ

    ใช่ มันเหมือนกับเทียนเล่มเล็กที่โดนลมนั่น มันใกล้ดับ แต่ก็ยัง

    เพราะคนตรงหน้าเอามือป้องมันไว้



    บากเลื่อนตัวลงจากชิงช้า ลงมานั่งที่พื้นกับทารคา ให้ระดับสายตาอยู่ในระดับเดียวกัน เขาดึงเทียนเล่มเล็กออกพลางหยิบเค้กขึ้นมากัดจนเกือบหมดชิ้น


    “อยู่ซิ”

    บากมองเข้าไปในตาสีเดียวกับตน มือที่สีเขียวเข้มกว่าปกติเพราะแสงไฟที่ไม่ค่อยสว่างนักยื่นมาจับมือสีม่วงหม่นที่เปื้อนครีมแล้วเลียมันออกอย่างคิดถึง



    “แล้วเค้กน่ะ ปีหน้าขอรสกาแฟนะ” พูดจบเขาก็เอาเค้กชิ้นสุดท้ายเข้าปากคนตรงหน้าไป



    “ได้”

    ทารคายิ้ม และแบ่งปันความหวานให้กับคนรักของเขา




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in