รีวิวสอบสัมภาษณ์มศว. วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม วิชาเอกสื่อสารเพื่อการจัดการนวัตกรรม

สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การสอบสัมภาษณ์วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม วิชาเอกสื่อสารเพื่อการจัดการนวัตกรรมนะคะ!!

1. ทำยังไงถึงได้มีโอกาสเข้าสอบสัมภาษณ์

          ก่อนอื่นเราจะต้องสมัครในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยก่อนค่ะ ตามเว็บไซต์นี้เลยhttps://admission.swu.ac.th/admissions2/  จากนั้นดูคณะโครงการที่เราต้องการจะสมัคร อ่านเกณฑ์ คุณสมบัติให้ดี เตรียมเอกสารทำตามเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดให้ครบถ้วนสมบูรณ์ จากนั้นก็เริ่มต้นทำพอร์ตกันเลยค่ะ!! โดยปีการศึกษาเรามีการกำหนดพอร์ตไม่ให้มีเกิน 10 แผ่น T_T ต้องเลือกเนื้อหาแบบเนื้อ ๆ กันเลยทีเดียวเมื่อจัดการพอร์ตของเราเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ส่งพอร์ตกันเลยค่ะ!! เมื่อส่งพอร์ตไปแล้วทางมหาวิทยาลัยจะทำการคัดเลือกจากพอร์ตที่น่าสนใจเพื่อเข้าไปสัมภาษณ์ต่อนั้นเองค่ะ

2. มีสิทธิ์สัมภาษณ์แล้วต้องทำอย่างไรต่อ

          หลังจากเข้าเว็บประกาศผล แล้วขึ้นว่ามีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ลำดับต่อไปคือเตรียมเอกสารค่ะ ปพ.1 หรือสำเนาบัตร บลาๆตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด เตรียมไปให้พร้อมจะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายเอกสารขาดไม่ครบหลังจากเตรียมเอกสารแล้วลำดับต่อไปคือ เตรียมตัวเตรียมใจค่ะ ซ้อมกับตัวเองหรือเพื่อนก็ได้ว่าถ้าอาจารย์ถามแบบนี้เราจะตอบยังไง และที่สำคัญคือเราต้องเข้าใจผลงานของตัวเองให้ดีนะคะ ผลงานเรา เราต้องรู้จักมันดีที่สุดค่ะ

3. สิ่งที่ต้องทำลำดับแรกหลังจากที่ไปถึงคืออะไร?

  ตอนไปตอนแรกเค้าจะแยกโครงการก่อน เป็นเด็กดีมีที่เรียนกับผู้มีทักษะพิเศษด้านสื่อฯ ซึ่งจะแยกเพื่อเรียงลำดับการเข้าสัมภาษณ์นั่นเอง โดยมีพี่ ๆคอยจัดแถวให้ค่ะ จากนั้นก็เดินขึ้นไปในห้องบนตึกแล้วนั่งตามลำดับที่จัดไว้ค่ะ

4. ก่อนจะเข้าสัมภาษณ์ทำอะไรบ้าง

       เราก็คุยกับเพื่อน เพื่อนก็แบบดูเตรียมตัวกันมาดีมาก บางคนแบกโล่รางวัลมาใหญ่มากกก มีแฟ้ม มีเกียรติบัตรเราแบบมีแค่พอร์ตเล่มเดียวเลยตัวเปล่ามากกกกกก//ร้องไห้ ตอนนั้นก็เออ อย่าใจร้อน อย่าไฟลนนะตัวช้าน //ลูบหัวตัวเอง

5. บรรยากาศตอนเข้าสัมภาษณ์เป็นยังไง?

       มีอาจารย์6ท่าน แรนด้อมเลยว่าเราจะได้อาจารย์คนไหน เราก็แอบถามเพื่อนที่สัมก่อนหน้าเราว่าแบบเป็นไงบ้างเพื่อนคนนึงบอกว่ามีอาจารย์ท่านนึงสัมเป็นภาษาอังกฤษ ตอนนั้นแบบ อย่าเป็นชั้นเลย ไม่ได้เตรียมมาเลยแม่(สวดมนตร์)

         ก่อนเข้าไปคือ ใจเต้นแรงอ่ะ จริงไม่ล้อเล่น ทั้งกลัวโดนอาจารย์สัมเป็นอิ้ง กลัวโดนถามข่าวที่ไม่ได้อ่านมา (คืนก่อนเราอ่านข่าวมาเยอะมากกกกก เหนื่อยเหลือเกินกับการใฝ่รู้ทุกอย่างบนโลกใบเน้) 

          จนถึงคิวเรา ปรากฎว่า เราโดนเว้ย5555 อาจารย์ก็ให้แนะนำตัว ตอนนั้นก็แบบ เอาวะ อังกฤษก็อังกฤษ เราก็พูดไป อาจารย์ก็ดูแบบโอเคกับเราอยู่  จนมาถึงผลงาน อาจารย์ให้เราอธิบายประกวดเขียนเรียงความที่เราเขียนได้รางวัลมาว่าเนื้อหาประมาณไหน ซึ่งตรงนี้อาจารย์อนุญาตให้เราพูดเป็นภาษาไทย เราก็พูดเกี่ยวกับเนื้อหาที่เราเขียนไป แล้วทีนี้อาจารย์ก็เลยถามว่า ยูจะรู้ได้ไงว่าสื่อที่ยูติดตามอยู่มีความน่าเชื่อถือ? เราเลยตอบว่า อย่างเรา เราดูแบบหลายๆแหล่งประกอบกัน แล้วก็ดูจากแหล่งที่เป็นสำนักข่าวที่น่าเชื่อถือ อาจารย์เลยถามต่อว่า ตอนนี้ยูติดตามอะไรเป็นพิเศษ เราเลยตอบว่า เราชอบ thestandard กับ BBC 

          อาจารย์ถามต่อว่าทำไมเป็น 2 แหล่งนี้ เราตอบว่าเพราะว่าเราชอบ content แล้วก็การเขียนข่าวเค้าแบบดี กราฟฟิคกราฟ การเรียบเรียงการนำเสนอข้อมูล เข้าใจง่าย รวดเร็วแล้วก็บลาๆๆ มีการใช้นวัตกรรม(โยงๆๆ) บลาๆๆ อาจารย์ยิ้มแล้วก็บอกว่า ยูตอบไปทาง journalism  หมดเลย แล้วก็เปิดแฟ้มผลงานเรา แล้วก็บอกว่า งานเขียนเยอะมาก ยูเป็นคนแรกเลยนะที่เอาประเด็นการเมืองมาพูดกับเรา เราชอบมาก การพูดบุคคลิกก็มั่นใจ ยูเป็นคนเก่งและมีพรสวรรค์มากนะ (ชั้นเขินตัวบิดมากตอนนี้-////-) แต่ว่าตอนที่เราถามว่ายูติดตามอะไรอยู่ เราคาดหวังให้ยูตอบเกี่ยวกับmarketing พวกธุรกิจพวกนี้ แต่ยูตอบเป็นแหล่งข่าวหมดเลย เราอยากรับยูมาก แต่เราไม่แน่ใจแล้วว่ายูจะชอบที่นี่และเหมาะกับเราจริงๆรึเปล่า

ตอนนั้นเราแบบ อมก ฉิบหายแน้ว เป็นเหงื่อตก!!

          เราพลาดตรงที่ เราแบบลืมตัว 55555 คือเราลงสื่อสารเพื่อการจัดการนวัตกรรม ซึ่งเป้าหมายของที่นี่แล้วก็อาชีพในอนาคตมันเป็นแนว นักวางแผนกลยุทธ์ นักวิชาการด้านนวัตกรรม นักสร้างสรรค์สื่อเกี่ยวกับพวกธุรกิจเทือกๆนี้มากกว่า แต่เราแบบ เผลอใส่ความเป็น journalist ไปหมดเลย ตั้งแต่เปิดประเด็นสื่อกับอิทธิพลทางการเมืองครั้งแรก//ชั้นทำการบ้านมาน้อยเองแหละทุกคน;—; ตื่นเต้นเกินไปด้วย//

แล้วอาจารย์ก็ถามต่อเป็นภาษาอังกฤษว่า รู้ไหมว่า major ที่ยูเลือกมาเรียนเกี่ยวกับอะไร เราก็ตอบไป(เป็นงูเป็นปลาพูดอะไรไม่รู้55555) จากนั้นอาจารย์ก็แนะนำเรานิดหน่อยๆ แล้วก็บอกว่า มหาลัยนี้ๆน่าจะชอบยูนะ ยูแบบ journalist จริงๆ (journalist แต่ตอนนี้ยังไม่มีที่เรียนเลยค่าอาจารย์ //ร้องไห้เปนสายรุ้ง) เราเลยแอบบอกอาจารย์ว่า หนูยื่นรอบแรกที่นี่ที่เดียวเลยนะคะ แล้วอาจารย์ก็หัวเราะ 

แล้วก็เสร็จ 555555 งงมาก จบล่ะทุกคน ทำใจไว้แล้ว 30เหลือ9ฟามหวังช่างริบหรี่ยิ่งกว่างมหาเหรียญ50สตางค์ที่หล่นลงมหาสมุทรแปซิฟิกแต่ก็เนอะ ชีวิตมันต้องเดิมตามหาฟามฝันหกล้มคลุกคลานเท่าไหร่?? และใช่ค่ะทุกคน เราไม่ผ่านการสัมภาษณ์ค่ะ แต่ต้องบอกเลยว่าเป็นประสบการณ์การสอบสัมภาษณ์ที่ดีกับตัวเรามากๆ เลยค่ะ

และ 6. บทเรียนที่เราได้จากการสอบสัมภาษณ์ครั้งนี้ก็คือ

          1. เราควรทำการบ้านไปดีๆ แบบเตรียมตัวดีๆ อย่าทำเป็นเล่นไป ซึ่งเราแบบเตรียมตัวค่อนข้างน้อยอ่ะ ภาษาอังกฤษงี้เตรียมไปเลยถ้าเราลงหลักสูตรสองภาษาต้องเตรียมภาษาอังกฤษไปนะคะ

          2. หาข้อมูลเกี่ยวกับคณะที่เราเลือก วิชาเอกที่เราเลือกให้ท่องแท้ อย่า งูๆปลาๆ 

          3. เป็นตัวเองที่อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นธรรมชาติ แต่พยายามเผยจุดแข็งของเราออกไปให้มากที่สุด

          สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ ขอให้ทุกคนสมหวังตั้งใจกับมหาวิทยาลัยและคณะที่หวังมีคำถามอะไรสามารถสอบถามได้บล็อกนี้ได้เลยค่ะ