โดยทั่วไปแล้วมนุษย์เรามีหลายอารมณ์ในหนึ่งวัน อารมณ์ดี อารมณ์เสีย ร่าเริง เศร้า ขำขัน โมโห หงุดหงิด ตอนเช้า ๆ จะสดใสถ้าได้ตื่นเช้ามาเจอกับอากาศดี ๆ แดดไม่แรง ก็จะเป็นการเปิดวันมาด้วยความรู้สึกเชิงบวก แต่ถ้าวันไหนฝนเพิ่งหยุดตก พระอาทิตย์หลบอยู่หลังเมฆ นอกจากจะอยากนอนต่อบนเตียงแล้วก็อาจจะเศร้าตามฝน
อาจารย์(วิชาการอ่าน)เคยบอกว่านิสัยและพฤติกรรมของเราอาจเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ บรรยากาศรอบตัว คงจะจริงอย่างที่อาจารย์ว่า หรือว่าตัวจะไหลไปกับอากาศก็ไม่รู้…
จู่ ๆ มาเขียนเรื่องนี้เพราะรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นไบโพลาร์... ทั้ง ๆ ที่กำลังหัวเราะอยู่แท้ ๆ พอกลับมาอยู่กับตัวเองคนเดียวก็ดิ่งอีกแล้ว รู้สึกว่าพออยู่คนเดียวแล้วควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ อารมณ์มันจะดิ่งลงอยู่เรื่อย ดิ่งลงอย่างเดียว ฮีลได้หน่อย แต่ก็จมลงไปอีก รู้สึกแย่แต่ก็ทำให้ตัวเองรู้สึกดี พาตัวเองออกมาจากจุดนั้นไม่ได้สักที
มาเล่าแบบนี้เลยเหมือนได้คุยกับตัวเองมากขึ้นอีกนิด เสียงที่อยู่ในหัวมันตีกันจนจับใจความไม่ค่อยได้ แต่พอได้พิมพ์เลยเหมือนได้เรียบเรียงความรู้สึกความคิดของตัวเองไปด้วย พยายามหาเหตุผล สาเหตุ มองไปมองมาก็อาจ(จะ)ได้คำตอบแบบเดิม นั่นก็คือ ตัวฉันเองเฮ้อ(ถอนหายใจหนึ่งครั้งอายุสั้นลงกี่ปีกันนะ) ทำยังไงถึงจะไม่จมลงไปอีก จริง ๆ มันไม่ได้รู้สึกดีเลยที่เป็นแบบนี้ แต่ทำไงได้ ฉันฮีลตัวเอง(ไม่)ได้แบบประเดี๋ยวประด๋าว อปป้าก็ช่วยได้แค่ชั่วคราว...
บางทีมันก็มีเรื่องที่อยากเล่า แต่ก็ไม่รู้ว่าใครพร้อมจะฟังเสียงเราบ้าง
เจ็บเพราะกำก้อนหินในมือตัวเองมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แทบจะไม่มีใครทำอะไรเท่าไหร่ด้วยซ้ำ แต่ก็เหมือนแก้วบาง ๆ อ่อนไหวง่ายอะไรแบบนี้กันนะ
ต่อให้พูดกับตัวเองอีกร้อยครั้ง ถ้าทำไม่ได้ก็คงเป็นแค่ลมปาก
Anymore เป็น Adverbแหละ
เพราะฉะนั้นกับชื่อหัวข้อวันนี้ มาเติมให้มันเต็มประโยคกันเถอะ
“…” ANYMORE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in