สวัสดีค่ะ, คุณผู้อ่านที่น่ารัก

ต้องขออนุญาตเกริ่นก่อนเลย

เรื่องของ "โนรากามิ"

เป็นหนึ่งในอนิเมะที่เราดูแล้วประทับใจมากค่ะ ถึงจะไม่ใช่เรื่องแรกๆ ที่ดู แถมยังมีหลายครั้งที่เลื่อนผ่านไปแบบไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ เราเองก็เคยได้ยินชื่อมานานแล้ว แต่ก็ด้วยความที่เป็นอนิเมะที่จบไปแล้วหลายปีเลยไม่ค่อยมีคนกลับมาดู หรืออาจจะมี แต่ว่ารอบตัวเราก็น้อยเหลือเกิน y—y

จนมีวันนึงที่ไม่มีอะไรจะทำจริงๆ เลยนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ แถมใน Netflix ก็มีให้ดูทั้ง 2 ซีซั่นเลย ก็เลยตัดสินใจเลยว่าวันนี้จะลองดูเรื่องนี้ดู ได้ยินชื่อเสียงคุณยาโตะ ตัวเอกของเรื่องมาว่าเป็นผู้ชายที่เย็นชาเลยยิ่งอยากดูเข้าไปใหญ่

ยาโตะเป็นเทพเจ้า เทพเจ้าต้องมีอาวุธเทพเป็นเหมือนสหาย ส่วนอาวุธเทพของยาโตะก็แสนซนและก็น่ารักม๊ากมาก สำหรับน้องยูกิเนะคนนี้ น้องเป็นดาบคาตาคานะเล่มยาวมาก แต่น้องไม่มีฝักไม่มีด้ามเลย มีแค่ผ้าขาวที่พันไว้ให้ยาโตะสามารถจับได้ มีอีกชื่อว่า เซกกิ

ส่วนอีกคนนึงก็คือฮิโยริ, เด็กมอปลายที่เผลอจับพลัดจับผลูมาโดนอุบัติเหตุจากการช่วยยาโตะทำให้ตัวเองวิญญาณหลุดออกจากร่างได้ กลายเป็นครึ่งคนครึ่งภูตไปซะงั้น งานนี้เลยเกี่ยวกับยาโตะเต็มๆ เลย ต้องเป็นคนช่วยให้ฮิโยริหายเป็นปกติแลกกับเงิน 5 เยนที่ได้มา

เราคิดว่าความสนุกมันอาจจะอยู่ที่ตรงนี้แหละ การที่ได้เห็นทั้งสามคนฝ่าฟันอุปสรรคและร่วมผจญภัยไปด้วยกันเนี่ย ถือว่าเป็นแกนหลักของเรื่องนี้ได้เลย แน่นอนเลยว่าอนิเมะแทบทุกเรื่องต้องมีข้อคิดดีๆ ฝากกันไว้ทุกเรื่องอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็เหมือนกันค่ะ ซึ่งส่วนมากจะเกี่ยวกับเทพเจ้า การขอพร และก็ความดีความชั่ว บุญหรือบาปต่างๆ ค่ะ

นอกจากจะมีตัวละครหลักทั้งสามแล้วยังมีตัวละครสมทบเยอะแยะเลยที่ทำให้เนื้อเรื่องสนุกแล้วก็ดำเนินไปแบบสมเหตุสมผล แถมยังอิงมาจากเทพเจ้าที่มีอยู่จริงๆ เป็นเหล่าเทพที่โด่งดังและคนญี่ปุ่นก็นับถือกันด้วย

โนรากามิเป็นอนิเมะอีกหนึ่งเรื่องเลยที่ดีมากๆ สำหรับเรา ไม่ผิดหวังเลยที่คิดดูเรื่องนี้ เป็นแนวที่แฟนตาซี + คอมเมดี้ ที่มีฉากหวานซึ้งบ้างเล็กน้อย มันเลยตรงกับจริตเราเอามากๆ แถมทั้งยาโตะกับยูกิเนะก็น่ารักกันสุดๆ ! ทั้งคู่ไม่เคยทำให้เรารู้สึกเลยว่าเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง พวกเขาเหมือนกับครอบครัว เหมือนอาจารย์กับลูกศิษย์ เหมือนเพื่อนที่คอยอยู่ข้างกันเสมอ ยาโตะไม่เคยทอดทิ้งยูกิเนะเลยไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เขารักกันมากจริงๆ ทำเอาเราซึ้งไปหลายฉากเลยค่ะ

ส่วนนางเอกไม่น่ารำคาญเลย ฮิโยริเป็นที่พึ่งได้ดีมากๆๆๆ เราที่เป็นพวกที่ไม่ค่อยชอบนางเอกแบบอ่อนแออยู่แล้ว แต่ก็ยังยอมให้คนนี้เลยจริงๆ

และที่สำคัญคือยาโตะหล่อมากๆๆๆๆ ทั้งๆที่เขาก็ดูเหมือนเทพธรรมดาทั่วไป แต่จริงๆ แล้วตัวยาโตะมีอะไรมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นฉากบู๊หรืออะไร ฉากเล็กหรือใหญ่เราก็กรี๊ดไปเอาการอยู่เหมือนกัน แถมเราก็ได้รู้ว่าจริงๆ แล้วคุณยาโตะเขาก็ไม่ใช่คนเย็นชาเหมือนตามที่อ่านรีวิวมาด้วย !

บางฉากที่อาจจะทำให้เขาดูเหมือนคนบ๊องๆ กะล่อนปลิ้นปล้อนไปวันๆ และบางฉากก็ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นเหลือเกินเวลาอยู่กับฮิโยริ หรือว่าจะเป็นฉากเท่ๆ ตอนที่มือถือเซกกิ เอาจริงๆ คือชอบมันทั้งหมดเลยค่ะ

ในส่วนของเนื้อเรื่องและภาพ อนิเมะเรื่องนี้นำเสนอออกมาได้อย่างดีเยี่ยมเลยล่ะค่ะ แต่ที่สำคัญมากๆๆๆๆๆ เลย ที่สามารถทำให้เราดูต่อได้อย่างไม่ติดขัดนั่นก็คือเสียง

ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือเพลงค่ะ ยิ่งเพลง op ของทั้งสอง season ค่อนข้างที่จะเพราะและติดหูเลยทีเดียว หลายคนที่เคยอาจจะติดตามวงการเพลงของญี่ปุ่นอาจจะมีคุ้นหูอยู่บ้างเพราะเพลง op ของซีซั่น 2 ที่ชื่อ ‘Hey kids’ จากวง the oral cigarettes นี่แหละค่ะที่ค่อนข้างจะโด่งดังมาก

บวกด้วยส่วนหนึ่งที่ทำให้เราตัดสินใจมาดูเรื่องนี้ และก็เป็นส่วนสำคัญที่สุดเลย ก็คือคนพากย์ค่ะ !!

เซย์ยูของเรื่องนี้นำทัพมาโดยเทพยาโตะคือคามิยะ ฮิโรชิซังที่มีผลงานมากมายเหลือเกินเลยค่ะ อย่างเช่น อิซายะจาก Durarara, ทาเคดะเซนเซย์จาก Haikyuu!! หรืออาคาชิ เซย์จูโร่จาก Kuroko no basket

ตามด้วยน้องยูกิเนะ, ให้เสียงโดยคาจิ ยูกิซังที่เรามักจะเจอในอนิเมะชื่อดังเกือบทุกเรื่องที่ดูเลยล่ะค่ะ เช่น โทโดโรกิ โชโตะจาก My hero academia, โคซึเมะ เคนมะจาก Haikyuu!! หรือจะเป็นอาราตะ ชินโดจาก Psycho-pass 3 ก็ดีค่ะ!

ด้วยความที่เราดูแต่แนวโชเน็น จึงทำให้ไม่ค่อยได้ติดตามเซย์ยูฝั่งผู้หญิงเท่าไร y—y แต่อูจิดะ มายะซังที่ให้เสียงฮิโยริเองก็มีผลงานฝั่งของการ์ตูนที่มีผู้หญิงเยอะๆ มากมายด้วยเหมือนกันนะคะ ที่เราพอรู้จักก็คงจะเป็น น้องนอร์แมนจาก The promise neverland นี่แหละค่ะ แหะๆ ?

ส่วนตัวเราเอง มักจะไม่ค่อยได้คิดให้คะแนนเรื่องใดๆ สักเท่าไหร่เลยค่ะเพราะส่วนตัวแล้วคิดว่าถ้าชอบก็แค่ชอบ ไม่ชอบก็แค่ไม่ชอบแค่นั้นเลย เราไม่อยากตัดสินใจว่าเออ เรื่องนี้ควรดูนะ เรื่องนี้ไม่ควรนะ เลยจริงๆ ค่ะ y—y

แต่เพื่อให้เป็นประโยชน์กับทุกคน 10/10 คือ ‘ไม่เสียเวลาดู สัดส่วนโครงสร้างไม่หงุดหงิด ดีเยี่ยม’ ส่วนมากน้อยกว่านั้นก็จะลดเพิ่มตามความเหมาะสมเนอะ

ส่วนเรื่องนี้ก็ให้ 9/10 ค่ะ ทุกอย่างดีเยี่ยมตามบรรทัดฐานทั่วไป แต่ชอบที่สุดในใจมั้ยก็ยังไม่ดีกว่าค่ะ

สรุปแล้ว เรื่องนี้คือชอบค่ะ ไม่ผิดหวังที่ได้ดูเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เสียเวลาที่ได้ดู แถมยังได้มีความทรงจำที่ดีด้วยอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นแล้ว หากคุณผู้อ่านคนใดที่เหลือเวลาแล้วไม่รู้ว่าจะหาอะไรดูดี ไม่ว่าจะเป็นในวันพักผ่อนหรือช่วงปิดเทอม หากคุณยังไม่เคยได้ลองดู Noragami ละก็ เรื่องนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะค่ะ

(ปล. ใน Netflix มีให้ดูทั้งสองซีซั่นเลยนะคะ!)

ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่าน anime journey เรื่องแรกของเรา ขอให้ทุกคนมีความสุขกับวันหยุดพักผ่อนอย่างเต็มที่ค่ะ

ปล. คนที่ดูอนิเมะหรือการ์ตูนไม่ใช่คนที่มืดมนหรือต้องเป็นโอตาคุเสมอไปนะคะ!! ขอฝากไว้นิดนึงค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยเหมือนกัน ช่วยไม่ได้เนอะ 5555

แล้วเจอกันเรื่องหน้าค่ะทุกคน,

ด้วยรัก