OS : MYSTERY OF THE UNIVERSE IN HIS HAND
pairing : Max/ Tul
genre : one-short , fluff
note : inspired by the book Aristotle and Dante discovers the secret of the universe.
“Maybe one could find all answers to any mysteries in the universe in someone's hands.”
บางทีโลกก็สับสนวุ่นวาย
บางทีโลกก็สงบและผ่อนคลาย
บางทีโลกก็สดใสและเจิดจ้า
บางทีโลกก็ร้องไห้และเหงาหงอย
แต่ตลอดเวลา
โลกคือปริศนา
เขาคิด
ขณะที่จับจ้องไปที่ร่างของคนที่กำลังเล่นเปียโนอยู่ที่มุมห้องนอน
พี่ตุลย์มีเปียโนหลังใหญ่สีขาวตั้งอยู่ที่คอนโด เขาเคยถามว่ามันจำเป็นถึงขั้นที่ต้องสู้อุตส่าห์มาตั้งไว้ที่นี่เลยเหรอ ไว้เล่นที่บ้านอย่างเดียวก็ได้มั้ง คำตอบคือกำปั้นที่เขกลงมากลางศีรษะเขาเบา ๆ
“สำคัญสิ เปียโนเป็นเพื่อน”
“เหงาขนาดต้องไปเป็นเพื่อนกับเปียโนเลยเหรอ”
“อื้อ เหงามาก” ดวงตาสีเข้มคู่นั้นวูบไหวคลับคล้ายมีหยดประกายน้ำใสคลออยู่ก่อนจะเลือนหายไป
คนแก่กว่าหัวเราะแผ่ว เขาส่งยิ้มให้อีกทีก่อนจะหันกลับไปทำงานต่อ
แต่ณัฐพลรู้ดีว่ารอยยิ้มนั่นไม่ใช่รอยยิ้มจริงใจอย่างที่เขาเคยได้รับอยู่เสมอ
เสียงเปียโนดังก้องทั่วห้อง
นิ้วมือเรียวยาวที่เขาชอบมองหนักหนาพลิ้วไหวอยู่บนแป้นเปียโน
เหมือนผีเสื้อ
เขาคิด
ผีเสื้อที่ระบำอยู่กลางอากาศ
สองขายาวก้าวลุกจากเตียงที่เขานั่งอยู่เดินไปหาคนที่กำลังพุ่งความสนใจทั้งหมดที่มีกับเครื่องดนตรีตรงหน้า พี่ตุลย์อาจจะไม่ทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำตอนที่เขาเดินเข้ามาใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อย
แต่ตอนที่เขาเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังและลำตัวของเขาชิดกับแผ่นหลังอีกฝ่าย
ภากรหันมายิ้มให้เขา
ยิ้มสดใสแบบที่เหมาะกับความหมายชื่อจริงของเจ้าตัว
ภากรแปลว่าดวงอาทิตย์
เขายิ้มตอบ
กลางคืนที่มืดมิดอยู่นอกหน้าต่างเหมือนจะสว่างขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล
เสียงโน้ตตัวสุดท้ายดังขึ้นและจบลงภายในเสี้ยววิแต่ฝ่ามือทั้งสองข้างกลับยังนิ่งค้างอยู่บนแป้น
ภากรไม่ได้ลงน้ำหนักให้เกิดเสียง เพียงแต่วางนิ่งอยู่แบบนั้น
คราวนี้เป็นฝ่ายณัฐพลที่ก้มตัวลงเล็กน้อยก่อนจะยกฝ่ามือของตัวเองมาประทับลงบนมือของอีกฝ่าย
เขาได้ยินเสียงลมหายใจที่ติดขัดน้อยๆ เสียงดังแผ่วของเครื่องปรับอากาศ
ได้กลิ่นแชมพูและกลิ่นแป้งจางๆ จากตัวอีกฝ่าย
กลิ่นแป้งเด็ก
พี่ตุลย์ชอบทาแป้งเด็กหลับอาบน้ำ
นั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาตกหลุมรักอีกฝ่ายมากกว่าเดิม
ผู้ชายอายุยี่สิบห้าที่ชอบทาแป้งเด็กหลังอาบน้ำเสร็จ
น่ารักจนอดใจไม่ไหวทุกที
เขาออกแรงกดน้ำหนักเบาๆ ลงบนฝ่ามืออีกฝ่ายก่อให้เกิดเป็นเสียงโน้ตดนตรีดังแปลกหู
เขาเล่นเปียโนไม่เป็น
และไม่เคยคิดจะเรียน
การได้มองพี่ตุลย์เล่นให้ฟังเท่านั้นก็เพียงพอ
คนโตกว่าหัวเราะจนเขาสัมผัสได้ถึงแรงสั่น
“อะไรของมึงเนี่ย”
เขายิ้มตอนที่ขยับแขนมาโอบรอบลำคอของอีกฝ่ายไว้หลวมๆ พลางกระซิบชิดริมใบหูแผ่วเบา
“ตอนนี้ก็ไม่ต้องเหงาแล้วนะ..” น้ำเสียงนั้นเรียบเอื่อย เขาเว้นจังหวะชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยต่อ
“มีผมอยู่ด้วยแล้วทั้งคน”
______________________________
เขาคิด
ตอนที่ลอบมองอีกฝ่ายขณะกำลังขับรถอยู่
แม็กซ์บอกว่าจะมาส่งเขาที่คอนโด (เหมือนอย่างที่ทำตลอดช่วงสามเดือนมานี้)
เขาเคยถามว่าทำไม เขาขับรถเป็นนะ ไม่เห็นจะต้องลำบากขับมาส่งแบบนี้เลย
อีกฝ่ายเพียงยิ้มและตอบว่า
“ก็มันเป็นหน้าที่ของแฟนที่ดีนี่นา”
เขาหัวเราะและไม่คิดจะต่อความยาวสาวความยืดอะไรอีก
ก็ดีเหมือนกัน มีคนมาขับรถให้จะไม่ต้องเปลืองแรงและค่าน้ำมัน
อีกอย่างคือเขาชอบมองเวลาอีกฝ่ายขับรถ
ชอบเวลาที่สายตาทั้งสองข้างจับจ้องไปที่ถนนตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ
ชอบเวลาที่บางทีตอนรถติด แม็กซ์จะหันมาหาเขา ยิ้มให้ ชวนคุยสัพเพเหระ
ชอบเวลาที่มือทั้งสองข้างจับอยู่ที่พวงมาลัยขณะเลี้ยวรถตรงสี่แยก
ชอบเวลาที่บางครั้งเขาก็จับพวงมาลัยแค่มือเดียว ตอนที่ถนนโล่งและขับได้สะดวก
ส่วนมืออีกข้างที่ว่างก็ใช้แหย่เขาเล่นแทน
ชอบเวลาที่อีกฝ่ายจะถอยรถจอด มือข้างนึงจะจับอยู่ที่พวงมาลัย ส่วนมืออีกข้างก็จับที่พนักพิงศีรษะของเขาพลางหันมามองทางด้านหลัง
เขาชอบ
ชอบสายตาเป็นจริงเป็นจังขณะไปทางกระจกหลัง
ชอบคิ้วที่ขมวดเป็นปมน้อยๆ ตอนที่กำลังตั้งใจทำอะไรสักอย่าง
และที่สำคัญสิ่งที่เขาชอบที่สุดก็คือ
บางที ตอนที่เขาบ่นว่าแอร์หนาว
ในขณะที่ถนนว่างและมือข้างซ้ายไม่ได้ถูกใช้งาน
แม็กซ์จะส่งมือมากุมมือข้างขวาเขาไว้เสมอ
พร้อมกับพูดประโยคที่ทำให้แก้มเห่อร้อนและหัวใจเต้นถี่เร็วเป็นพิเศษ
“ถ้ากุมมือไว้แบบนี้ก็ไม่หนาวแล้วใช่ไหมล่ะ”
เขาไม่เคยตอบคำถามนั้น
แต่ก็ไม่เคยคิดจะปล่อยมือเลยสักครั้ง
และทุกครั้งที่อีกฝ่ายผละไปเพราะต้องเลี้ยวรถ
เขาก็อดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจด้วยความเสียดาย
มือคู่นั้นน่ะ
อุ่นกว่าถุงมือทั้งหมดในโลกมารวมกันเสียอีก
คุณฮีทเตอร์ประจำตัว
______________________________
เสียงหัวใจเต้นรัวตอนทีเขาเตรียมตัวอยู่หลังเวทีเพื่อจะขึ้นแสดงในงานแฟนมีตติ้งที่ต่างประเทศครั้งแรก
เขาเฝ้าบอกตัวเองว่าไม่ต้องตื่นเต้นเพราะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องขึ้นเวทีเจอกับผู้คนเยอะๆ เสียเมื่อไหร่
แต่เหมือนยิ่งบอกตัวเองว่าไม่ต้องตื่นเต้น เขากลับยิ่งตื่นเต้นกว่าเก่า
ภากรพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะปล่อยออกช้าๆ เพื่อเรียกให้สติกลับคืนมา
แต่เจ้าหัวใจไม่รักดีกลับเต้นระรัวเหมือนรัวกลองอยู่วันยังค่ำ
เผลอๆ เหมือนจะเต้นถี่มากกว่าเดิมเมื่อเวลาเริ่มงานกระชั้นเข้ามาทุกที
เขาไม่ทันได้สนใจสิ่งรอบข้างเลยด้วยซ้ำ
สิ่งที่ได้ยินมีเพียงเสียงหัวใจที่กระหน่ำเต้นอยู่ในอก
กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆ ของฝ่ามือของใครอีกคน
เขาก้มลงมองมือที่เคยสั่นน้อยๆ ของตัวเองแล้วก็พบว่าตอนนี้มันไม่ได้สั่นอีกแล้ว
มีมือของใครบางกอบกุมมือข้างขวาของเขาไว้แน่น
เจ้าของมือที่ว่ากระชับฝ่ามือตัวเองให้แน่นกว่าเดิม สอดประสานนิ้วทั้งห้าเข้ากับอีกฝ่าย
มันลงล็อคพอดิบพอดีราวกับว่าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกันและกัน
เหมือนกับล็อคเก็ตชิ้นสำคัญที่ปิดได้สนิท
“หายตื่นเต้นแล้วใช่ไหมล่ะ”
“อื้อ ขอบคุณนะ”
เขายิ้ม
พลางกระชับฝ่ามือตัวเองให้แน่นขึ้น
“He found all answers of the universe in someone’s hands.”
end.
________________________________
สวัสดีนี่คือความวูบครั้งที่สองค่ะ
Home ที่ลงไว้ยังไม่จบเลย แหะๆ จะพยายามมาต่อน้า
อ่านให้สนุกลุกนั่งให้สบายค่า สวัสดีค่ะ.
ปล. สวัสดีปีใหม่ 2561 ย้อนหลังทุกคนนะคะ มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งกายใจ
อยู่เพ้อเจ้อเป็นเพื่อนกันไปนานๆ นะคะ 55555555555 ขอให้เป็นปีที่ดีของทุกๆคนเลย ( :
contact me : twitter @bmbayah_
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in