An Inspector Calls เป็น play หรือบทละครเรื่องแรกที่เราลองอ่านแล้วก็ค้นพบว่ามันสนุกกว่าที่คิด ถึงแม้ว่าจะแทบไม่ฉากบรรยายเลย แต่ก็ทำให้เราอินไปจนจบเรื่อง
บทละครภาษาอังกฤษเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของครอบครัว Birling ที่มีอันจะกินซึ่งกำลังเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข เพราะลูกสาวของพวกเขา Sheila กำลังจะแต่งงานกับ Gerald Croft ชายที่มีฐานะร่ำรวย แต่ว่าในระหว่างที่กำลังมีความสุข สารวัตรตำรวจก็มาเคาะประตูบ้าน เขาแนะนำตัวว่าเขาคือ Inspector Goole (สารวัตรกูล) เขามาแจ้งข่าวร้ายกับทุกคนที่อยู่ตรงนั้นว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งฆ่าตัวตาย และคดีนี้เกี่ยวข้องกับพวกเขาทุกคน
อันนี้เป็นหน้าปกที่เราอ่าน เป็นฉบับภาษาอังกฤษ ตอนนี้ยังไม่มีแปลเป็นภาษาไทยออกมา
บทละครเรื่องนี้เป็นแนวสืบสอนสอบสวน ดราม่าและเสียดสีสังคม แม้ว่าจะเปิดฉากมาด้วยสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความรัก อบอุ่นและความยินดีระหว่างคู่รักที่กำลังจะแต่งงานกัน แต่พอสารวัตรก้าวเข้ามา ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปในทันที เพราะว่าเขาค่อยๆเปิดเผยถึงเรื่องราวในลักษณะของเหตุการณ์ลูกโซ่ที่ทำให้เราค่อยๆรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวที่ฆ่าตัวตายกันแน่ และทุกคนเกี่ยวข้องกับการตายของ Eva ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ตัวละครในเรื่องนี้ประกอบไปด้วย Mr. Birling นักธุรกิจที่ร่ำรวยและควบด้วยตำแหน่งอดีตข้าราชการระดับสูง Mrs. Birling ภรรยาผู้แสนเย่อหยิ่งและเย็นชา Sheila ลูกสาวผู้เจ้าอารมณ์ Eric ลูกชายคนเล็กผู้ไร้ความมั่นใจ Gerald Croft หนุ่มเจ้าสำราญ สุดท้ายคือ Inspector Goole สารวัตรผู้เคร่งขรึม แต่มีอีกหนึ่งตัวละครที่ไม่ได้เปิดเผยตัวในฉากแต่ทุกคนพูดถึงคือ Eva Smith หญิงสาวที่ฆ่าตัวตาย
วิเคราะห์ตัวละคร
บทละครเรื่องนี้เป็นบทละครที่สะท้อนสังคม แสดงให้เห็นถึงมุมมองของตัวละครที่มีต่อการตายของหญิงสาว ในบทละครจะแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศของเนื้อเรื่องที่ค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นจริงจังและตึงเครียดมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็นิสัยที่แท้จริงของตัวละครทุกตัวก็ค่อยๆเปิดเผยออกมา
ตอนที่อ่านเรารู้สึกได้ว่าเราสามารถแบ่งตัวละครออกเป็นสองฝั่ง คือ ฝั่งคนรุ่นเก่าที่ไม่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเอง ทั้งยังไร้ความรับผิดชอบต่อสังคมอย่าง Mr. Birling ภรรยาของเขาและ Gerald ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ยังคงหลอกตัวเอง และอีกฝั่งคือคนรุ่นใหม่ Sheila กับ Eric เป็นคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงและมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
นอกจากนี้บทละครยังแสดงให้เห็นถึงสองแนวความคิดที่ปะทะกันระหว่าง ความคิดแบบสังคมนิยมของสารวัตรกับแนวคิดแบบปัจเจกนิยมของ Mr. Birling เพื่อแสดงให้เห็นถึงการไร้ความรับผิดชอบ ความเห็นแก่ตัวและเห็นแก่ชื่อเสียงประโยชน์ส่วนตัว ยิ่งไปกว่านั้นคนเขียนยังแอบแซะระบบทุนนิยมอีกด้วย
เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครด้วย โดยเฉพาะตัวละคร Sheila ที่มีพัฒนาการมากที่สุดในเรื่องเพราะว่าเธอรู้สึกผิดที่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ Eva ต้องจบชีวิตตัวเอง เธอก็เลยพยายามจะเตือนสติคนอื่นๆเพื่อไม่ให้พวกเขาปกปิดความจริง ดังนั้นบทละครเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องราวของสารวัตรที่มาตามหาตัวผู้กระทำผิด เพราะ Eva นั้นฆ่าตัวตายไปแล้ว แต่จะมาค้นหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตายของ Eva แทน สารวัตรจะเป็นผู้ขุดคุ้ยจิตสำนึกต่อสังคมของตัวละครและผู้อ่านออกมา ให้พวกเขาตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง รวมถึงเป็นกระจกสะท้อนต่อผู้ชมให้สำรวจตนเองด้วย
แม้ว่าทุกตัวละครจะเกี่ยวข้องกับการตายของ Eva แต่ตัวละครอย่าง Mr. Birling นั้น เขาไม่สำนึกถึงความผิดของตัวเองเลยด้วยซ้ำ เขายังคงสนใจแค่การรักษาภาพลักษณ์ทางสังคมของตัวเอง เช่นเดียวกับ Mrs. Birling ที่อ้างว่าตัวเองทำตามหน้าที่ตน จนกระทั่ง Eric ลูกชายของเธอซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องนี้ได้เปิดเผยความจริงบางอย่างออกมา แต่จนกระทั่งถึงตอนท้ายของเรื่อง เหล่าผู้ใหญ่ที่อ้างตนว่าตัวเองเป็นผู้ดีเลิศเลอ มีหน้ามีตาในสังคมก็ยังคงไม่มีท่าทีสำนึกแต่อย่างใด
โดยรวมแล้ว เราค่อนข้างถูกใจบทละครนี้พอสมควรเลย แม้ว่าช่วงแรกๆจะเอื่อยนิดๆ แต่เรื่องราวก็ค่อยๆพีคขึ้นเรื่อยๆจนอ่านไม่หยุด และตอนท้ายบทยังมีเรื่องราวที่คาดไม่ถึงเกี่ยวกับตัวตนของสารวัตรด้วย และบทละครเรื่องนี้ก็จบแบบปลายเปิดให้คิดต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวนี้
แต่ว่าถ้าไม่อ่านบทละคร ก็มีหนังให้ดูเหมือนกันนะ ชื่อ An inspector calls เหมือนกัน
อันนี้โปสเตอร์หนังเวอร์ชั่นปี 2015 แต่เห็นว่ามีของปี 2018 ด้วย
แนะนำหนังสือเล่มนี้ให้ใคร
แนะนำสำหรับคนที่สนใจพวกบทละคร ชอบเรื่องสืบสวนสอบสวน สะท้อนสังคม ปัญหาครอบครัวหรือชอบตอนจบที่หักมุม
ชื่อเรื่อง An Inspector Calls (1945)
ผู้เขียน J.B. Priestley
คะแนน
ความสนุก 4/5
ความลุ้นระทึก 3/5 ถึงจะไม่ค่อยลุ้น แต่เรื่องก็พีคขึ้นเรื่อยๆ
ความยากของภาษา 3.5/5 เนื่องจากเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาค่อนข้างเก่าแต่ก็ไม่ได้อ่านยากเกินไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in