เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (3)Chaitawat Marc Seephongsai
สยามเขต: หลากหลายมิติเขตแดนสยาม By ฐนพงศ์ ลือขจรชัย บก.
  • รีวิวเว้ย (1834) "...วาทกรรมเสียดินแดนมีส่วนที่ทำให้ประเทศคู่พิพาทำไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างประนีประนอม ต่างพยายามแก้ไขเขตแดนโดยไม่เสียอะไรเลย และปัญหาเส้นเขตแดนได้ละเลยคนท้องถิ่นที่ดำรงชีวิตอยู่บริเวณชายแดน" (บทนำ เขตแดนศึกษา: การศึกษาเขตแดนไทย, น. xxiii) ข้อความดังกล่าวดูจะสะท้อนและเตือนสติผู้คนในช่วงเวลาของความ "คลั่งชาติ" ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อกระแสความคลั่งชาติดังกล่าวเกิดขึ้นจากเหล่าผู้คนที่อยู่นอกพื้นที่ และต่างก็แข่งกันแสดงออกซึ่งความรักชาติผ่าน #แฮชแท็ก (ที่ดูสะเหล่อ) เหมือนคนไม่มีการศึกษาหรือไม่ก็หยุดช่วงเวลาของสมองเอาไว้ใต้กรอบการศึกษาแบบชาตินิยมในช่วงสงครามเย็น เพราะถ้าลองใช้เหตุผลและสมองดูบ้างจะพบว่าปัญหาในเรื่องของเขตแดนและชายแดนในปัจจุบันมีการตั้งคำถาม พยายามแสวงหาคำตอบกระทั่งนำไปสู่การออกแบบกลไกต่าง ๆ เพื่อป้องกันการนำไปสู่การใช้ความรุนแรงเพื่อแย่งชิงดินแดน แต่หลายปีมานี้โลกได้แสดงให้เห็นแล้วว่าสมองของมนุษย์กำลังถอยกลับไปในยุคที่เพิ่งเริ่มใช้เครื่องมือหินกะเทาะและใช้ความรุนแรงในการแย่งชิงอาณาเขต (รูปธรรมของคำว่า "กลับสู่วานร" ที่แท้จริง)
    หนังสือ : สยามเขต: หลากหลายมิติเขตแดนสยาม
    โดย : ฐนพงศ์ ลือขจรชัย บก.
    จำนวน : 288 หน้า 
    .
    "สยามเขต: หลากหลายมิติเขตแดนสยาม" หนังสือที่ได้รวมเอาบทความ 4 ชิ้น ที่ทำการศึกษาเรื่องของเขตแดน (boundary) ชายแดน (border) หรือพรมแดน (frontier) ของไทยจากหลากหลายมุมมอง โดยในส่วนของบทนำได้มีการแสดงให้เห็นถึงการศึกษาเขตแดนไทย ที่ผ่านมาว่าอาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มที่เชื่อว่าเขตแดนรัฐไทยดำรงอยู่มานานแล้ว (2) กลุ่มที่เชื่อว่าเขตแดนรัฐไทยเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 19 จากการเข้ามาของอาณานิคมตะวันตก และ (3) กลุ่มที่ปฏิเสธการมองเขตแดนรัฐไทยจากศูนย์กลางและเชื่อว่าเขตแดนรัฐไทยไม่ได้มีค่าบังคับอย่างแท้จริงหรืออาจเรียกว่ากลุ่มชายแดนศึกษา ซึ่งการศึกษาในแต่ละกลุ่มต่างก็มีผลที่กระทำต่อเรื่องของเขตแดนแตกต่างกันออกไป
    .
    "สยามเขต: หลากหลายมิติเขตแดนสยาม" ได้ชวนผู้อ่านทำความเข้าใจเรื่องของเขตแดนผ่านวิธีการศึกษาในหลากหลายรูปแบบ และหลายกรณีศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทฤษฎีสังคมศาสตร์ การใช้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ หรือกระทั่งการลงไปเพื่อสำรวจข้อมูล ความคิดเห็นและความทรงจำของผู้คนที่อยู่ระหว่างเส้นแบ่งเขตแดนอันเป็นผลผลิตที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ (ค.ศ. 1648) และยิ่งกับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยแล้ว พรมแดน เขตแดนและชายแดนยิ่งเป็นสิ่งที่เพิ่งสร้างของรัฐต่าง ๆ ในบริเวณ โดยเนื้อหาของ "สยามเขต: หลากหลายมิติเขตแดนสยาม" แบ่งการเล่าเรื่องออกเป็น 5 บท ดังนี้
    .
    บทนำ เขตแดนศึกษา: การศึกษาเขตแดนไทย โดย ฐนพงศ์ ลือขจรชัย
    .
    บทที่ 1 ระบบเขตแดนรัฐจารีตและปัญหาการเปลี่ยนผ่านในสยาม โดย ฐนพงศ์ ลือขจรชัย
    .
    บทที่ 2 เวียดนามที่พรมแดนเขมร: การเมืองเรื่องเขตแดน ค.ศ. 1802-1847 โดย หวู ดึ๊ก เลียม
    .
    บทที่ 3 การขยับเขยื้อนของชายแดนบริเวณแม่น้ำโขงตอนบน: สยามและฝรั่งเศสในทศวรรษที่ 1890 โดย แอนดรูว์ วอล์คเกอร์
    .
    บทที่ 4 ความเปลี่ยนแปลงต่อการรับรู้เรื่องพรมแดนของผู้คนในเขตปราสาทพระวิหาร โดย พิพัฒน์ กระแจะจันทร์
    .
    การได้กลับมาอ่านทวน (ในบางบท) ของ "สยามเขต: หลากหลายมิติเขตแดนสยาม" อย่างบทนำ บทที่ 1 และบทที่ 4 ในช่วงเวลาที่ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชากำลังกลายเป็นกระแสในสังคม (มิถุนายน 2568) ที่ทำให้คนในเมืองที่ไกลจากพรมแดนเรียกร้องให้รัฐไทยใช้ความรุนแรงในการรักษาดินแดน และได้เห็นการพยายามใช้สื่อออนไลน์ของพวก ... (จงเติมคำในช่องว่าง) ที่ออกมาสร้างกระแสผ่าน #แฮชแท็ก ที่หวังสร้างสงคราม และบางกระแสเรียกร้องให้มีการรัฐประหารเพื่อหวังให้ทหารเข้ามาจัดการปัญหาพิพาทชายแดนดังกล่าว หลายวันมานี้นั่งติดตามสถานการณ์เรื่องนี้ไปก็อดแปลใจไม่ได้ ว่าการที่ธรรมชาติปรับปรุงให้สมองของมนุษย์มีขนาดใหญ่ก็เพื่อให้สมองมีกำลังพอจะใช้สติปัญญาในการคิดวิเคราะห์ กระทั่งเหตุการณ์ในหลายวันมานี้ได้แสดงให้เห็นว่าการวิวัฒนาการของธรรมชาติตลอดหลายล้านปีที่ผ่านมาดูจะเสียประโยชน์ เพราะคนบางกลุ่มทำได้มากที่สุดเพียง "มีสมองไว้เป็นเครื่องประดับ" เพื่ออวดให้โลกรู้ว่ากูมี แต่ดันใช้ไม่เป็น

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in