เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสไปงาน #FungjaiCrossplay3 มา ซึ่งเราเองเคยไปครอสเพลย์ปีก่อนมาแล้วรู้สึกได้เลยว่าประทับใจในปีนี้มากๆ
.
งานครอสเพลย์นี้เป็นงานที่เราชอบมากเราว่าคอนเซปท์เจ๋งดี คือการเอาศิลปินมาจับคู่แล้วเลือกเพลงของอีกวงที่คู่กันมาคัฟเวอร์ใหม่ เรียบเรียงใหม่ให้เป็นตามสไตล์ของวงตัวเอง
.
ในปีนี้ก็มี
Zweed n’ Roll x SLUR
Greasy Café x Moving and Cut
Max Jenmana x Phum Viphurit
Young Bong x Yellow Fang
Bomb at Track x Srirajah Rockers
.
ที่พิเศษในปีนี้คือมีการพ่วงวงที่เคยมาเล่นในงานครอสเพลย์แล้วของปีก่อนๆมาเล่นเวทีเล็กอีก 5 วง! Safeplanet, electric.neon.lamp, Summer Dress, The Whitest Crow, Solitude is Bliss อีกด้วย!
.
โดยปีนี้งานได้มาจัดที่ Voice Space ตัวสถานที่นี่ขอชื่นชมแบบที่สุดคือในฮอลล์ใหญ่ ห้องกว้างพอที่คนอยู่หลังสุดติดซาวด์เอนจิเนียร์ยังมองเห็นเวทีได้ไม่ยาก ซาวด์ในฮอลล์ก็ค่อนข้างดีมาก แอดอยู่กลางๆฟังแล้วเพราะสุด ส่วนตัวสเตจนี่ก็ทำได้เท่มาก เป็นโครงเหล็กเปลือยๆแล้วก็มีจอวิชวลยาวๆอยู่สองจอล่างและหลังศิลปิน และที่ประทับใจมากๆอีกอย่างคือ Lighting ทีมไฟนี่คือโคตรดี เล่นใหญ่อลังการมาก
.
ตัดภาพมาที่เวที Leo Stage เวทีเล็กที่จัดใน canteen(โรงอาหาร)ของสถานที่ จะว่าเล็กก็เล็ก จะว่าโอเคก็โอเค แต่หนักตรงแฟนๆวงเวทีนี้ไม่ได้มีน้อยๆซะด้วย เล่นเอาล้นมาข้างนอกตั้งแต่ Safeplanet เลย
.
อีกอย่างที่อยากชื่นชมคือคนดูงานนี้แทบไม่มีคนถ่ายวิดีโอแช่เลย อาจจะเพราะฟังใจออกมาบอกแล้วว่าอย่าถ่ายเกิน 1 นาที(ซึ่งก็เจอคนเกินเยอะอยู่แต่น้อยคนที่แช่จนจบเพลง)
.
ที่ชอบมากอีกอย่างคือการจัดไลน์อัพ มีการไล่โทนเพลงตั้งแต่ฟังกันเบาๆแบบสวีดไปถึงโคตรหนักแบบบอมบ์แอทแทร็กแล้วปิดโชว์ด้วยความผ่อนคลายแบบศรีราชา อารมณ์ของคนดูในงานก็ตามไลน์อัพเลย แรกๆชิวกันมากดูเปื่อยๆหน่อย แต่ยิ่งนานยิ่งคึก ช่วง3-4วงท้ายนี่คือบ้าคลั่งกันไปหมดทุกสเตจเลย ไม่แน่ใจว่ามู้ดเริ่มมาหรือลีโอทำเครื่องติดก็ไม่รู้
#ชอบก็ฟัง #FungjaiCrossplay3 #Fungjai
Zweed n' Roll
วงแรกของวันเปิดด้วยสวีด มู้ดในฮอลล์คือเงียบๆเหงาๆมืดๆซึมๆ แล้วรอบนี้มีเครื่องสายจาก STOIC(ถ้าฟังไม่ผิดนะ)มาร่วมเล่นด้วย ซึ่งพูดได้เลยว่าฟังแล้วดนตรีมีมิติยิ่งขึ้นและโคตรส่งให้แต่ละเพลงของวงไปไกลถึงอารมณ์มากๆ ส่วนตัวจากที่เคยดูสวีดมาน่าจะเกือบสิบครั้งพูดได้เต็มปากเลยว่าครั้งนี้คือโชว์ที่ดีที่สุดของวงและเป็นโชว์ที่ Perfect ที่สุดของวงเท่าที่เคยไปดูมาเลย แค่ครึ่งโชว์ก็ทำเอาน้ำตาซึมได้ไม่ยากเลย ยิ่งเพลง "โปร่ง" ที่ครอสกับ Slur ยิ่งพาซึม ท้ายๆโชว์คือเกือบตายแต่บ่ายเลย
SLUR
ไม่ได้ดูวงนึ้มาพักใหญ่มาก ล่าสุดน่าจะปีที่แล้ว โชว์ยังแน่น Performance ยังมาเต็มตลอดเหมือนเคย ด้วย Visual ที่มีความ Glitches และ lighting ที่ตระการตายิ่งทำให้แต่ละเพลงมันขึ้นไปอีก แล้วโชว์นี้ได้เกสท์มาคนนึงคือพี่เอิง Summer Stop มาเล่นกีตาร์และคอรัสเพลง "ช่วงเวลา" ให้ ยืนดูอยู่ด้านหลังนี่คือแดนซ์กับเพื่อนยับๆครับ
Moving and Cut
วงดนตรีไม่มีเพลงรักอย่าง Moving and Cut ฟังสดกี่ทีก็จะตาย แล้วยิ่งครั้งนี้ซาวด์ในฮอลล์ดีมากๆก็ทำเอาปางตายอยู่หลายจังหวะเหมือนกัน และคือแฟนก็ช่วยกันร้องได้อย่างพร้อมเพรียงยิ่งทำให้ทุกอย่างเศร้าเข้าไปอี้ก โชว์นี้เป็นครั้งแรกที่วงเล่นเพลงใหม่ "ฉันยอม" โดยที่ท่อนแร๊ปพี่ต้นหยางมือเบสเป็นคนแร๊พเองด้วย เท่แบบสุดจะขาดใจ ส่วนเพลงที่ครอสกับพี่เล็กอย่าง "นิรันดร์" นี่ก็เหมือนกับขุดหลุมฝังคนอกหักในงานเลย ด้วยเนื้อหาและแนวดนตรีที่วงเล่นทำเอาโคตรอินไม่ยาก ฮือ
Max Jenmana
พี่แม็กซ์เป็นศิลปินที่เราดูเค้าเล่นสดแบบนับครั้งได้ ครั้งนี้ที่ได้ดูน่าจะเป็นครั้งที่ 3 ได้ ส่วนตัวรู้สึกว่าพี่แม็กซ์เล่นสดดีกว่า audio file มากๆ ลูกเล่นเยอะและความมีเสน่ห์ของพี่แม็กนี่ถ้าไม่ดูสดก็จะไม่มีวันเข้าใจจริงๆ โชว์นี้รวมเพลงไว้สุดขั้วมาก บทจะสนุกก็สนุกเลย บทจะชิวก็ชิวเลย บทจะเศร้าก็เศร้าเลย ที่ชอบใจสุดๆคงเป็นเพลงที่ครอสกับภูมิจริงๆ เป็น"(bad) Lover Boy" เลยก็ว่าได้ ในทำนองและการร้องมีความรู้สึกแอบๆแบดแบบรู้สึกกันได้ชัดเลย เป็นอีกมิติที่ดีม้าก และในโชว์นี้นอกจากความเท่และเก่งของพี่แม็กซ์เราติดใจกับมือเพอร์คัชชันกับซินธ์มาก รู้สึกว่าทำให้เพลงต่างๆสมบูรณ์และออกมาดีมากๆ
Safeplanet
วงนี้ขึ้นชื่อเรื่องแฟนคลับล้นหลามอยู่แล้ว ครั้งนี้มาเล่นในสเตจรองคนก็ล้นออกมาเลยไปถึงบู๊ท Leo กลางงานมาเลยจ้า แอดได้แต่ยืนร้องร่วมกันกับแฟนๆข้างนอกแทนเพราะเข้ากันไม่ได้ กว่าเข้าได้ก็จบแล้ว แต่ความเจ๋งมันอยู่ที่ว่าครั้งหน้าเวทีว่าร้องดังออกมาข้างนอกแล้ว คนข้างนอกก็ร่วมกันร้องดังออกไปไกลอีก เป็นโมเมนท์ที่แปลกใหม่สำหรับแอดมาก แต่รู้สึกดีมากๆเช่นกัน รักครับ
electric.neon.lamp
ณีอรคืออีกหนึ่งวงที่ทุกคนควรไปดูเล่นสด ย้ำ! ควรไปดูเล่นสดมากๆไม่ว่าคุณจะอินหรือไม่อินกับเพลงเค้าก็ตาม เพราะวงนี้เล่นสดดีม้าก ม่วนกันถ้วนหน้าไม่ว่าคุณจะเข้ามาแล้วมองเห็นหรือไม่เห็นวงก็ตามคุณก็เต้นยับได้ไม่ยากเลย ในงานวันนั้นคือทุกคนไม่มีใครยืนนิ่งแม้แต่คนเดียวเลย ต้องขยับไม่มากก็น้อยอ่ะเพลงพี่แกแต่ละเพลงเร้าๆให้เต้นทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น "เจ็บแล้วไง", "เธอที่ร้าย", "นางรอง" และ "โทรจิต" แต่ถึงกระนั้นวงก็มีเพลงช้าที่ยืนฟังเฉยๆก็จะร้องไห้ได้เหมือนกันแบบเพลง "บางครั้งแค่บางครั้ง" หรือ "ภาวิณี" เพลงดังที่เรียกเสียงตะโกนและน้ำตาจากคนดูของวง เรียกได้ว่าครบรสจริงๆอีกวงนึงเลย
The Whitest Crow
วงนี้คือวงที่เราตั้งใจมาดูเป็นอันดับ 1 ของในงานนี้เลยด้วยความหาดูยากระดับนึง และครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะพักวง ต้องยอมรับเลยว่าทำใจยากเหมือนกันสำหรับคนที่เป็นแฟนวงนี้มานานและชอบเพลงเค้ามาก ยืนฟังวันนั้นก็มีเพลงโปรดพาโยกคอหักมากมายแบบ "I.C.S.T.O.Y", "Give Up On Love" รวมถึงเพลงไทยเพลงใหม่อย่าง "รู้ก็เหมือนไม่รู้" แต่การได้ฟังเพลงที่วงเลิกเล่นสดไปแล้วครั้งสุดท้าย "Forever hide and seek" และปิดด้วยเพลงให้กำลังใจที่ช่วยชีวิตแอดมาหลายรอบแล้ว "ไม่เป็นไร" เป็นครั้งสุดท้ายในตอนนี้ หรืออย่างน้อยก็รอบสุดท้ายในช่วงปีได้มันทำให้เราน้ำตาไหลออกมาแบบที่ไม่เคยเป็นเลย เคยดูสดแล้วอินมากแค่ไหน เคยร้องไห้บลาๆไงก็พอมีหลายครั้งอยู่ แต่ครั้งนี้คือที่สุดแล้ว ก็หวังว่านี่จะไม่ใช่จุดจบอย่างที่พี่ๆบอกนะครับ จะรักและรอคอยเสมอ
ปล.อยากให้การเจอกันครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายนะครับ
Solitude Is Bliss
และวงสุดท้ายที่แอดดูในวันนี้ก็คือหนุ่มเจียงใหม่โซลิจูดอิสบลิส ไม่ได้ดูวงนี้มาพักใหญ่เหมือนกัน รอบนี้กลับมาพร้อมเพลงใหม่จากอัลบั้มสองด้วย แล้วหลายๆเพลงก็มีการเรียบเรียงใหม่เพื่อการเล่นสดที่ต่างจากเดิมขึ้นอยู่ รู้สึกได้เลยว่าโชว์สดใหม่ขึ้นมาก ที่ชอบที่สุดตอนนี้คือคนดูบ้าคลั่งกันมาก โยกกันคอหัก กู่ร้องกันคอแตก ยิ่งเพลง "04.00 am", "กระดาษ" และ "Vintage Pic" นะ เวทีแทบแตกบอกเลยจริงๆ ไม่รู้ว่าผ่านมาทั้งวันแล้วพวกเค้าเอาพลังมาจากไหนกัน ไม่แน่ใจว่าพลังจากลีโอหรือเปล่าถึงดีดกันขนาดนี้!
ภาพรวมงานนี้ออกมาได้ดูดีมากๆ คิดว่าคนที่ไปเกิน 90% น่าจะเอนจอยและชอบงานนี้มาก แต่เสียดายที่หลายวงชนกันเลยต้องมีการเสียสละกันบ้าง
.
จริงๆนอกจากที่เขียนก็มีแอบไปดูวงอื่นมาเหมือนกันพวก พี่เล็ก กรีซซี่(ทันเพลงสุดท้ายเข้าฮอลล์เกือบไม่ได้คนล้นจัด), Yellow fang(ดูไปประมาณ 2 เพลงเพราะจะรีบไปดู TWC ต่อ) และศรีราชาร็อคเกอร์(หลังจบโซลิจูดแวะไปเก็บศพเพื่อนเลยทันช่วงเมดเลย์ปิดท้าย)แต่ดูนิดหน่อยเลยไม่ได้ถ่ายคลิปอะไรมาแปะ
.
สิ่งที่เสียดายในงานปีนี้คือทำไมไม่มีแผ่นรวมเพลงครอสมาแจกอีก แอดเก็บมาสองปีแล้วเสียดายไม่มีปีที่สามให้เก็บ ;0; แล้วก็เรื่องสถานที่ รู้สึกแคบไปหน่อยเพราะคนล้นมากๆ ยิ่งเวทีเล็กคือล้นออกมาเลย ใจแอบอยากให้ไปเปิดเวทีที่สองตรงลานจอดรถไปเลย มันจะได้มีสเปซหน่อย แต่ก็เข้าใจว่ารถทีมงานก็ต้องจอดไรงิ ไหนจะเรื่องพายุฝนที่เข้ามาอีก เลยอาจจะขยับขยายไรได้ยากหน่อย
.
ปีนี้เป็นปีแรกที่งานครอสเพลย์เรียกตัวเองอย่างเต็มปากว่าเป็น Festival จากที่ปีก่อนยังเป็นแค่ Project ซึ่งอาจจะดูไม่มีอะไรก็แค่ชื่อเรียก แต่จริงๆตรงนี้ก็เป็นตัวบ่งบอกถึงความสำเร็จของโปรเจกท์นี้ได้เลยนะ มันยิ่งใหญ่ขึ้นและคุณภาพส่วนตัวว่าก็ดีขึ้น(สารภาพว่าไม่ได้อวยจริงๆนะ อันนี้ในฐานะคนที่ชอบงานของฟังใจอยู่แล้ว) ขอบคุณทางฟังใจนะครับที่จัดงานดีๆอย่างนี้ขึ้นมา และหวังว่างานนี้จะยังจัดต่อไปให้ได้ไปต่อไปเรื่อยๆนะครับ รัก ?
#ชอบก็ฟัง #FungjaiCrossplay3
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in