จดหมายรัก ♥
นี่มันก็ผ่านวาเลนไทน์มาหลายเดือนแล้วนะ
แล้วไอ้ซองจดหมายสีหวานแหววที่อยู่ใต้เก๊ะโต๊ะเรียนเค้านี่มันคือ
อิมยองมินนักเรียนชั้นมอปลายปีสามกำลังนั่งนิ่งกระพริบตาปริบๆพร้อมกับซองจดหมายสีสันน่ารักที่อยู่ในมือเขาที่เขาพึ่งหยิบมันออกมาจากโต๊ะเมื่อกี้
จั่วหน้าว่า ถึงอิมยองมิน ปีสามห้องA
มีรูปหัวใจด้วยโว้ยยยยยยยยยย
“ เชี่ย ยองมินนี่มันจดหมายรักนี่หว่า ” เสียงของเพื่อนร่วมห้องที่ชื่อคิมซังกยุนดังขึ้นมาจากทางข้างหลังพร้อมกับคว้าจดหมายที่อยู่ในมือเค้าเอาไปพิจารณาในแบบที่เขาแทบจะรีบคว้ากลับคืนมาไม่ทัน
“ หวงไรวะ จดหมายรักจริงดิไหนเอามาดูดิ๊ ” เป็นคังดงโฮอีกคนที่เข้ามาดูร่วมวงหยิบเอาจดหมายที่อิมยองมินจะคว้ามาจากซังกยุนคืนไปต่ออีกทอดจนได้
“ เอามาเลยพวกมึง ”
“ อ่ะๆไหนๆมันก็จ่าหน้าซองมาถึงมึง ก็ต้องให้มึงเป็นคนเปิดอ่านล่ะวะ ”
ดงโฮส่งคืนจดหมายน่ารักๆนั่นให้ยองมินแต่โดยดีแต่แน่นอนว่าทั้งดงโฮและซังกยุนก็ล้อมรอบอิมยองมินที่กำลังเปิดจดหมายนั่นอย่างไม่วางตา
เมื่อยองมินเปิดจดหมายนั่นออกมาอ่าน...
“ถ้าไม่รังเกียจก็มาหาที่รูปปั้นตรงสวนหลังโรงเรียนตอนสี่โมง... เชี่ย นี่มันจดหมายรักชัดๆเลยนี่หว่ายองมินโห เพื่อนกู ร้ายนี่หว่า ” ดงโฮว่าพลางตบไหล่ยองมิน
“ เออ จริงมึงแอบไปหว่านสเน่ห์ในสาวตอนไหนวะ วันๆกูเห็นมึงมาแค่ห้องเรียนกับห้องชมรม ”
“ ... ”
“เออ...หรือว่า.... จะเป็นสาวๆในห้องเราวะ ”
“หรือไม่ก็...สาวจากชมรมมัน กูเห็นก็มีคนน่ารักๆอยู่นา ป่ะวะยองมิน ”
“ ... ”
“ ยองมิน เฮ้ยยองมิน! ”
“ ยองมิน
“มึงจะตะโกนทำเหี้ยอะไรกัน ”ยองมินว่าตัดขึ้นเมื่อเพื่อนร่วมห้องทั้งสองตะโกนเข้าข้างหูสองข้างได้ยินชัดเจน
“ ก็เห็นมึงนิ่งๆไปกูก็นึกว่าช็อคจนหัวใจวาย555 ”
“ เปล่าก..กูแค่... ”
“ แค่..? ”
“ ตื่นเต้น ”
เมื่อยองมินพูดจบเพื่อนตัวดีทั้งสองของเขาก็หัวเราะลั่นออกมาพร้อมกัน
“ ก็นั่นแหละครับเพื่อนผมขายออกแล้วครับ หลังจากเหี่ยวแห้งมาตั้งนาน ” เพื่อนทั้งสองของเขาต่างพูดคุยแซวกันไปมาอย่างสนุกสนานโดยอิมยองมินก็ตอบกลับไปตามปกติทั่วไป
แต่ใครจะรู้ว่าที่จริงแล้วก้อนเนื้อข้างซ้ายของยองมินแม่งสั่นรัวๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ดีใจ...ดีใจแทบแย่
ไม่ว่าเธอคนนั้นจะเป็นใครก็ขอขอบคุณไว้ก่อนเลยที่ทำให้ช่วงชีวิตมอปลายของอิมยองมินรู้สึกตื่นเต้นได้ขนาดนี้
อยากให้ถึงสี่โมงไวๆจังเลยนะ...
--- youngmin x donghyun ---
“ ดงฮยอนวันนี้พี่ขอเลิกชมรมเร็วหน่อยนะ ” อิมยองมินพูดพร้อมกับเก็บของตัวเองลงกระเป๋าพูดกับรุ่นน้องชมรมที่อยู่ในห้องตอนนี้กับเขาสองคนคิมดงฮยอน
“ อ้อ ได้ครับทำไมหรอครับพี่ยองมินมีธุระหรอ ” ดงฮยอนถามขึ้น
“ อ..อ้อ เออ ใช่ ”
“ แหนะ! ผมได้ยินนะพี่ดงโฮเอามาเล่าให้ผมฟังว่าพี่ได้จดหมายสารภาพรักมาอ่ะ ” ชี้หน้าอย่างจับผิดยองมินยิ้มออกมาแห้งๆแบบคนที่ถูกจับได้และโกหกไม่เป็น
“ อะ..อ่า ”
“ จะไปตามนัดเขาหรอพี่ยองมิน”
“ อื้อ ก็คงงั้น ” ยองมินตอบพร้อมพยักหน้าดงฮยอนยิ้มบางๆก่อนจะหลบตาต่ำครู่หนึ่งแล้วค่อยเงยหน้าขึ้นมาสบตารุ่นพี่ตรงหน้าอีกครั้ง
“แล้ว...พี่จะคบกับเธอเลยมั้ย? ”
จู่ๆน้ำเสียงที่เปล่งคำถามก็ดูจริงจังขึ้นมาทำเอายองมินชะงักไปเล็กน้อย
“ อ..เอ่อก็ไม่รู้สิ ” มือพลางลูบท้ายทอยตามนิสัยเจ้าตัว “ ทำไมหรอดงฮยอน? ”
“ เปล่าครับ ผมแค่ถามน่ะ...เพราะผมก็ยังไม่เคยเห็นพี่ยองมินคบกับใครเลยนี่นา~ ”
“ อ๋อ พี่ไม่ใช่คนที่ประเภทจะเข้าหาใครไง”
“ก็เลยตื่นเต้นจะแย่เลยอ่ะดิพี่ยองมิน ”พูดเย้าแหย่ให้รุ่นพี่ของตนหัวเราะด้วยความเขินอาย
“ เออแต่ยังไงวันนี้พี่ก็คงดูหน้างานเลยว่ายังไง แต่จากจดหมายแล้วเธอต้องเป็นคนน่ารักแน่ๆ ” ยองมินพูดบ่นมุบมิบพลางนึกไปถึงจดหมายฉบับที่เขาได้มา
“นี่พี่จินตนาการถึงผู้หญิงตัวเล็กๆมัดผมสองข้างเลยป่ะเนี่ย ” ดงฮยอนพูดพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ
“ บ้าน่าไอ้ตัวแสบแซวเก่งจริงๆ ” ยองมินว่าพลากเข้าไปขยี้หัวรุ่นน้องคนสนิทด้วยความหมันเขี้ยว
“ แล้วพี่...ชอบแบบนั้นรึเปล่า?” ดงฮยอนถามขึ้นมาอย่างแผ่วเบา แต่ก็กังพอที่ยองมินจะได้ยิน
“ อันที่จริงพี่ก็ไม่ได้สนใจภายนอกมากหรอก ไม่ว่าผู้หญิงแบบไหนก็ตาม ถ้าได้รู้จักแล้วคุยถูกคอกันก็โอเค” ยองมินพูดตามความรู้สึกตัวเองจริงๆออกมาเขาไม่ใช่คนที่ตัดสินคนด้วยจากรูปลักษณ์ภายนอกหรอก เขาไม่ใช่คนแบบนั้น
“ อ่า...งั้นหรอครับ” ดงฮยอนพยักหน้าอย่างรับรู้
“ อื้อ เอาล่ะ พี่ไปก่อนนะ”
ยองมินพูดพร้อมโบกมือลาก่อนจะเดินออกจากห้องชมรมไป
--- youngmin x donghyun ---
อิมยองมินคิดว่าตัวเองกำลังโดนหลอก
โดนหลอกเรื่องอะไรนะเหรอ?
ก็ไอ้จดหมายนัดให้เขามาหาที่รูปปั้นตรงสวนหลังโรงเรียนเพื่อจะสารภาพรักนี่ไง
ตอนแรกก็คิดว่า เออ เธออาจจะมาเลทนิดหน่อย
แต่แม่งไม่ใช่ละ...
เขารอมาตั้งแต่สี่โมงจนตอนนี้ห้าโมงครึ่งแล้วโว้ย
กูโดนต้มจนเปื่อยเป็นหมูตุ๋น
ทำไมถึงคิดไม่ถึงนะ เขามันก็แค่นักเรียนธรรมดาไม่ได้หน้าตาดีเด่หรือฮอตหรือมีบทบาทอะไรในโรงเรียนมากมายแทบไม่ได้โผล่หน้าไปไหนนอกจากห้องเรียนและห้องชมรม ลืมคิดไปเลยว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จู่ๆจะมีคนมาแอบชอบถึงขนาดเขียนจดหมายให้เขาแบบนี้
หน้าไอ้ซังกยุนกับดงโฮแม่งผุดขึ้นมาในหัวทันที
ไอ้พวกบ้าาาาา! กูอุตส่าห์ตื่นเต้นไม่เป็นอันเรียนทั้งวันนี้แทบตายยยยยยยยยยย
แทบจะทรุดตัวลงไปกับพื้น คือก็อุตส่าห์จริงจังตอนแรกยังแอบคิดดีใจที่อีกฝ่ายมาไม่ตรงเวลาเพราะเขาจะได้มีเวลาระงับความตื่นเต้นไว้ได้อีกแต่พอมาถึงตอนนี้...
ป่านนี้ไอ้ซังกยุนกับไอ้ดงโฮคงหัวเราะร่วนแล้วมั้งที่แกล้งเขาได้ขนาดนี้
“ พี่ยองมิน ”
ในขณะที่กำลังทึ้งหัวพร้อมกำลังจะเดินออกไปจากตรงนั้นเสียงนุ่มๆก็โผล่มาเรียกชื่อเขาจากทางด้านหลัง ยองมินหันกลับไปมองตามเสียงเรียกตน
“ อ้าว ดงฮยอน มาทำอะไรที่นี่ ” เมื่อเห็นหน้ารุ่นน้องในชมรมก็ทักทายขึ้นพร้อมกับเอามือที่ถือจดหมายน่ารักๆ(แต่ทำร้ายจิตใจกูเหลือเกินไอ้เพื่อนชั่ว)เอาไว้ด้านหลังตัวเอง
“ ผมกำลังจะกลับบ้านน่ะสิ แล้ว...ทำไมพี่ยืนอยู่ตรงนี้คนเดียว...”
“ ... ”
“ อย่าบอกนะว่า เธอเลทเป็นชั่วโมงแล้วพี่ก็ยังยืนรอตรงนี้อยู่”
“ อืม.. ” ยองมินพยักเพยิดหน้าไป
“ ห..โห พี่... ”
“ ทำไม จะล้อพี่รึไงดงฮยอน ที่พี่ดันโดนหลอกซะได้เออ ก็ลืมไปว่าคนแบบพี่ ใครจะมาชอบวะ ”ยองมินว่าพลางเกาท้ายทอยตัวเองอย่างไม่รู้จะเอามือไม้ไปไว้ตรงไหน
“ ป่าว ซักหน่อย ”ดงฮยอนอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับมองยองมินที่ดูตัดพ้อเหลือเกินพลันก็เหลือบมองไปเห็นจดหมายในมือที่ยองมินพยายามซ่อนหลบเอาไว้ข้างหลัง “ ไหนเอาจดหมายมาดูซิ
“ เฮ้ย เอาคืนมานะ ”
“ โห กำไว้ซะยับเชียว ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยหรอพี่ ”พูดเชิงหยอกเย้าเมื่อเห็นกระดาษสีหวานแหววนั้นยับไม่เป็นท่าจากรอยมือที่กำแน่น
“ เอาคืนมาเถอะเจ้าตัวแสบ” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่แน่นอนว่าเจ้ารุ่นน้องตัวแสบก็ไม่มีทางคืนจดหมายนั่นง่ายๆ
“ สวัสดีอิมยองมินเรารวบรวมความกล้ามากๆเลยที่เขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมา ”
ซ้ำเสียงเจื้อยแจ้วนั้นยังอ่านข้อความในจดหมายขึ้นนั้นอีก
จะให้เขาอายไปถึงไหนเนี่ย
“ หยุดอ่านเถอะดงฮยอน น่าอายชะมัดเลย ”
“ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันตรงทางเดินที่โรงอาหารตอนนั้นหลังจากนั้นเราแอบมองยองมินอยู่ตลอด จนในที่สุดความรู้สึกเล็กๆนี้เมื่อมันเพิ่มขึ้นทุกวันๆมันก็ทนไม่ไหว ”
ไม่มีวี่แววว่าจะหยุด
“ ดงฮยอน ”
“ ถ้าไม่รังเกียจก็มาหาที่รูปปั้นตรงสวนหลังโรงเรียนตอนสี่โมงนะ แล้วเราจะบอก ”
“ ... ”
" ว่าเราชอบเธอ "
หลังจบประโยคใบหน้าของยองมินก็เห่อร้อนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าอายเพราะคำสารภาพรักที่มีนั่นหรืออายเพราะตัวเองดันไปหลงเชื่อจดหมายหลอกๆนี่ซะได้
“ เอามาได้แล้วหน่า เรื่องโกหกทั้งเพ ” ยองมินเอามือที่ปิดหน้าด้วยความเขินอายพร้อมลูบใบหน้าตัวเองแรงๆสองสามครั้ง“ คงหนีไม่พ้นไอ้พวกซังกยุนดงโฮมันแกล้งพี่แน่ๆ ”
“ พี่ยองมิน ”
“ หืม? มีอะไร ”
“ ...ไม่ใช่เรื่องโกหกนะ ”
“ .........ห๊ะ? ”
“ เราบอกว่า...เราไม่ได้โกหก ”
สรรพนามที่ดงฮยอนพูดเปลี่ยนไปเป็นแบบในจดหมายนั่น...
“ ห...ห๊ะ ”
“ ที่เราพูดเมื่อกี้น่ะ...ไม่ได้โกหก ”
“ ... ”
“ จดหมาย... ข..ของเราเอง”
“ ... ”
“ เราชอบยองมิน วันแรกที่เราได้เจอพี่ เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายขนาดนี้แต่พอเราได้อยู่ชมรมเดียวกัน เราได้มีเวลาด้วยกันมากขึ้นยองมินทำดีกับเรามากๆจนเราไม่รู้จะต้องทำยังไง... ”
สิ้นเสียงดงฮยอนที่เปล่งคำสุดท้ายออกมาน้ำใสๆก็หยดออกมาจากดวงตาคนที่กำลังพูดทำเอาคนฟังทำตัวไม่ถูกเข้าไปอีก
“ ร..ร้องไห้ทำไมเจ้าตัวแสบ” ยองมินที่กำลังจับต้นชนปลายไม่ถูก สมองกำลังประมวลผลด้วยความมึนงงแต่พอเห็นหยดน้ำตาที่ปลดปล่อยออกมาพร้อมกับความรู้สึกอันมากล้นของคนตรงหน้าก็อดไม่ได้ที่จะใช้นิ้วปาดน้ำตาใสนั่นให้
“ ก..ก็เราไม่รู้ต้องทำยังไงกับความรู้สึกนี้ ถึงเราจะเป็นผู้ชายขอโทษที่เราไม่ใช่ผู้หญิงน่ารักๆตัวเล็กๆที่ไหนเลย แต่เราชอบยองมิน ฮึกชอบยองมินจริงๆนะ ”
ทนมองร่างที่กำลังสะอึกสะอื้นตรงหน้าไม่ได้เลยเดินเข้าไปคว้าหัวกลมๆนั่นมาซบลงที่ไหล่ของตัวเองมืออีกข้างโอบกอดอัตโนมัติ
ด้วยหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้กัน
“ไอ้เจ้าเด็กบ้าเอ๊ย รู้ไหมว่าทำพี่ตื่นเต้นจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ” ยองมินลูบเรือนผมนิ่มนั่นเบาๆ“ แล้วก็เรียกรุ่นพี่ด้วยสิตัวแสบเอ๊ย ” ไม่รู้ว่าพูดออกไปเพราะแก้ขัดแก้เขินหรืออะไรก็เมื่อกี้ที่ดงฮยอนพูดความรู้สึกออกมา จู่ๆก็เอาแต่เรียกแค่ชื่อของเขาทื่อๆแบบนั้น
อันตรายชะมัด
มันทำเอาเขารู้สึกใจสั่นเป็นบ้าเลย
“ ก็ไม่อยากเรียกแล้ว...ไม่อยากเป็นแค่รุ่นน้อง ”
แต่คำตอบที่คนในอ้อมกอดพูดออกมา...มันทำให้เขาใจสั่นมากกว่าเดิมอีก
เหลือเชื่อเลยคิมดงฮยอนทำไมทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดออกมาได้ขนาดนี้
“ เข้าใจแล้วหน่า ”
“ ผม..ฮึก ”
“ ไม่ต้องร้องแล้วๆ พี่เข้าใจแล้วๆ ”
ยองมินตอบเสียงอ่อนลงเหลือบมองคนในอ้อมกอดก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย ดงฮยอนละออกจากอ้อมกอดยองมินแล้วมองคนตรงหน้าแบบไม่น่าเชื่อ
“ พ..พี่ไม่ปฏิเสธเรา.. ”
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาคิมดงฮยอนทำได้เพียงแค่ต้องมองอิมยองมินในฐานะรุ่นพี่ตลอดแม้ในใจจะมีอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น แต่ด้วยความไม่กล้า ความกลัว..กลัวที่จะถูกปฏิเสธ กลัวที่ถูกเกลียดหากเขาพูดมันออกไปกลัวที่จะไม่ได้เห็นยองมินในแบบทุกวันนี้อีก
“ ก็...ไม่เสียหายอะไรซักหน่อย... ”
ยองมินพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบางเบาใช้มือใหญ่วางลงบนศีรษะเจ้าเด็กตรงหน้าอย่างอ่อนโยน
“ ... ”
“ ล..แล้วทำไมร้องไห้หนักกว่าเดิมละเนี่ย ” ยองมินพูดด้วยความทำตัวไม่ถูกปนความเอ็นดูมองดงฮยอนที่เอาแต่เช็ดน้ำตาป้อยๆ
“ ก..ก็เรากลัวว่ายองมินจะเกลียดเราถ้ารู้ความรู้สึกเรา...”
ใครจะไปคิดล่ะว่ารุ่นน้องในชมรมที่สดใสน่ารักกับเขามาโดยตลอดจะเก็บซ่อนมุมนี้ของตัวเองเอาไว้จนมันอัดอั้นขนาดนี้แล้วเรื่องนั้นดันเป็นเรื่องของเขาซะอีกด้วย
น่ารัก..ชะมัดเลย
ใครจะไปเกลียดได้ลง
“ ดงฮยอน ”
ยองมินขยับใบหน้าเข้าไปใกล้คนที่กำลังตาแดงก่ำมือแกร่งค่อยๆจับมือที่กำลังขยี้ดวงตากลมสวยจนแดงไปหมดนั่นออก จับมือนั้นเข้ามาทาบกับหน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง
“ อันที่จริง... ถ้าพี่ไม่รู้สึกอะไรด้วย ”
จนสัมผัสได้ถึงก้อนเนื้อข้างซ้ายของอิมยองมินที่กำลังเต้นสั่นไหวและสั่นรัวราวกับวิ่งมาราธอนมา
“ มันก็คงไม่เต้นแรงขนาดนี้หรอก”
สิ้นคำพูดนั้น...
ก็มีเพียงแค่อิมยองมินเท่านั้นแหละนะ
ที่ได้เห็นใบหน้าที่แก้มขึ้นสีแดงฝาดอย่างน่ารักนั้น
แค่คนเดียว
-Special- First time I met you.
“โอ๊ะ ”
โครม
“ข..ขอโทษครับ! ” คิมดงฮยอนมองจานชามที่เต็มไปด้วยข้าวลอยขึ้นแล้วหล่นโครมลงบนพื้นกระจัดกระจายไปหมดอย่างเละทเดูก็รู้ว่ามันเป็นข้าวที่เจ้าของพึ่งซื้อมาเมื่อเหลือบไปเห็นชุดยูนิฟอร์มก็เห็นว่าเป็นรุ่นพี่ของเขาจึงรีบก้มหัวขอโทษเป็นการใหญ่ พลางคิดว่าซวยแน่ๆเขาต้องโดนด่าไม่ก็มีซักตื้บสองตื้บแน่ๆ เพราะในโรงเรียน เรื่องรุ่นพี่เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเคารพตามลำดับอย่างชัดเจนเขาทำอะไรแบบนี้ ต้องแย่แน่ๆ
ดงฮยอนรีบเก็บจานชามตรงนั้นที่มีบางส่วนแตกกระจายอยู่อย่างรวดเร็วพรวดพราดด้วยความกลัวรุ่นพี่มือรีบหยิบจับจานชามทั้งหลายให้เข้าที่อย่างรวดเร็ว
ควับ
“หยุด อย่าจับ ” มือของเขาถูกดึงขึ้นมาดงฮยอนเอาแต่ก้มหน้างุดๆไม่กล้ามองรุ่นพี่ด้วยความกลัว
“ผมขอโทษครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงข้าวคืนก็ได้ ”
“อืม ไม่มีแผล นี่ เห็นว่าจานชามมันแตกก็อย่าไปจับสิเดี๋ยวเป็นแผลขึ้นมานายจะแย่เอานา ”
มือแกร่งจับมือเขาพลิกไปมาอย่างเบาๆราวกับกลัวเขาเจ็บเสียงอันอ่อนโยนที่พูดทำให้เขารู้สึกสั่นไหว ไม่ได้สั่นไหวด้วยความกลัวแต่สั่นไหวด้วยความรู้สึก
อบอุ่น
“เดี๋ยวตรงนี้ให้แม่บ้านจัดการเถอะ นายไปกินข้าวเถอะ พี่โอเค ”
“ผ..ผมขอโทษ ”
“ไม่เป็นไร เฮ้ย ไม่ต้องกลัวพี่ขนาดนั้นๆ พี่ไม่น่ากลัวซักหน่อย ”
“ค..ครับ ”
“เอาแต่ก้มหน้างุดๆนะเรา ไหนเงยขึ้นมาหน่อยซิ พี่ชื่ออิมยองมินนะ อยู่ปีสองเราล่ะชื่ออะไ... ”
“เฮ้ย ไอ้ยองมิน พวกกูนั่งนี่นะเว้ย ” ยังไม่ทันจได้พูดจบเสียงของผู้ชายสองสามคนที่กำลังจะนั่งโต๊ะกินข้าวก็ตะโกนเรียกชื่อชายหนุ่มพร้อมกับโบกมือให้ไปนั่ง
“เออๆ เดี๋ยวตามไป ”ยองมินหันไปตอบก่อนจะหันหน้ามาเจอผู้ชายร่างบางๆที่กำลังก้มหน้างุดๆอยู่เช่นเคย
“... ”
“พี่ไปก่อนนะ ไว้เจอกัน ”
“ครับ ”
แผ่นหลังที่เดินจากไปแต่กลับทิ้งความรู้สึกบางอย่างราวกับเป็นปุ๋ยที่ค่อยๆทำให้หัวใจดวงน้อยๆดวงนี้กำลังค่อยๆเติบโตและงอกงามขึ้นมา
ก้อนเนื้อข้างซ้ายแอบเต้นแรงอยู่ภายในที่ไม่สามารถมีใครรับรู้ได้นอกจากเจ้าของมันเอง
คิมดงฮยอนเม้มริมฝีปากอย่างสะกดกลั้นแต่ก็ไม่อาจควบคุมความร้อนผ่าวที่ทำให้พวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีได้
รุ่นพี่อิมยองมิน
END
ปล.อยากให้มีต่อจังเลยจ้า;-;