เวลา 11:20 น.
เสียงกดคีย์บอร์ดดังไปทั่วบริเวณห้อง ใครบางคนกำลังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างใจจดใจจ่อ ในห้องนอนที่มีสิ่งของกระจัดกระจาย สภาพห้องดูไม่รู้ว่าเป็นห้องนอนเท่าไรนัก หากไม่มีเตียงตรงหัวมุมห้องให้เห็น เด็กสาวนั่งจ้องคอมพิวเตอร์ตาไม่กระพริบ ดูเหมือนว่าเธอยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนด้วยซ้ำ เพราะรายงานที่ต้องส่งอาจารย์ตอนบ่ายนี้ทำเอาเด็กสาวปวดหัวทั้งคืน เสียงแม่ตะโกนเรียกเธอให้ลงไปกินข้าวทว่าเด็กสาวยังคงเงียบไม่ตอบกลับไป รายงานของเธอใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงแค่ตรวจทานเท่านั้นทุกอย่างก็จะสำเร็จ ทุกครั้งที่เด็กสาวทำงานเธอจะไม่ให้ใครเข้ามากวนเธอแม้แต่ผู้เป็นแม่สุดที่รักของเธอเอง จนกว่ารายงานนี้จะเสร็จ
เวลา 12.59 น.
เด็กสาวทำรายงานจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนส่ง ไม่นานนักเสียงแม่ก็ตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้น้ำเสียงกลับดูจริงจังมากกว่าเดิม ทำให้เธอรีบปิดคอมพิวเตอร์ก่อนจะวิ่งลงไปหาเจ้าของเสียงข้างล่างทันที เมื่อเด็กสาวลงมาจากห้องเธอเห็นแม่สุดที่รักของเธอกำลังยืนหันหลังอยู่ในครัว แม่กำลังล้างจานอยู่ เด็กสาวในชุดนอนเดินเข้ามาในครัวอย่างช้า ๆ ทว่าไม่ทันที่จะหยิบนมในตู้เย็นผู้เป็นแม่ก็ทักเธอเสียก่อน
“ตื่นแล้วเหรอ กว่าจะลงมาได้นะ”
“ทำรายงานส่งอาจารย์อยู่ค่ะ”
เด็กสาวตอบแม่ไปพร้อมกับหยิบนมจากตู้เย็นออกมาวางบนโต๊ะ แม่หันมาหาเธอพลางยกจานข้าวมาวางตรงหน้าเด็กสาวก่อนจะบอกกับเธอเรื่องของที่มาส่งตั้งแต่เมื่อเช้านี้ เด็กสาวทำหน้างงกับสิ่งที่แม่พูดทว่าไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เธอลงมือจัดการของกินตรงหน้าจนหมดเกลี้ยง หลังจากนั้นเด็กสาวก็ตรงไปที่หน้าบ้านทันที ระหว่างทางเดินไปหน้าบ้านเด็กสาวนึกถึงของปริศนาที่มาส่งให้เธอตลอดทาง เธอเองก็ไม่แน่ใจนักเรื่องสั่งของออนไลน์ เพราะตัวเธอมักจะใช้เวลาว่างหาร้านค้าลดราคาเพื่อจับจองสินค้าที่ตนเองสนใจเสมอ ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยสั่งของชิ้นใหญ่ขนาดเท่าตรงหน้ามาก่อน เด็กสาวตะลึงงันกับกล่องใบใหญ่ตรงหน้า กล่องนี้ใหญ่พอ ๆ กับตัวของเด็กสาว เธอยืนนิ่งมองกล่องที่วางอยู่อย่างนั้น และเธอก็สังเกตเห็นที่มุมขวาของกล่องมีกระดาษเล็ก ๆ แปะติดมาด้วย เด็กสาวไม่รอช้าเธอนั่งลงไปอ่านข้อความในกระดาษทันที ในกระดาษเขียนข้อความสั้น ๆ ไว้เพียงว่า “ขอให้โชคดี” ข้อความที่อ่านทำเอาเธอถึงกับงงหนักกว่าเดิมเสียอีก เธอไม่เคยสั่งของชิ้นนี้อย่างแน่นอนใครกันที่แกล้งเธอ หรือบุรุษไปรษณีย์ส่งผิดหลังกันแน่ ทว่าเมื่อดูข้อมูลที่ติดมานั้นมันเป็นชื่อของเด็กสาว มีคนตั้งใจส่งมาให้เธอจริง เด็กสาวนั่งทบทวนกับตัวเองเรื่องการสั่งของออนไลน์ก่อนจะตัดสินใจนำกล่องปริศนานี้ขึ้นไปบนห้อง
เธอยกกล่องนี้ขึ้นห้องมาด้วยตัวเอง เด็กสาวแกะกล่องอย่างรวดเร็วเมื่อเปิดมาก็พบว่ามันเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์สีดำ สภาพดูเหมือนยังไม่เคยผ่านการใช้งานจากที่ไหนมาก่อน เธอตะลึงกับภาพตรงหน้าแล้วเธอก็วิ่งออกไปนอกห้องก่อนจะตะโกนถามแม่ของเธอ
“แม่ซื้อคอมมาใหม่เหรอ”
“คอมอะไร ไม่ได้ซื้อ”
เด็กสาวแปลกใจทว่าก็ตอบกลับไปเรื่องกล่องที่ได้มา ผู้เป็นแม่ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินและบอกกับเธอว่าอย่าไปยุ่งกับมัน ถึงแม้ว่าแม่จะพูดเช่นนั้นทว่าเด็กสาววัยมัธยมอย่างเธอต้องอยากรู้อยากลองเป็นเรื่องธรรมดา ยุ่งสักหน่อยคงไม่เสียหายอะไรหรอก เธอคิดก่อนจะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ เด็กสาวไม่รู้เลยว่าที่ตนทำไปนั้นจะมีผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไร ทันทีที่เครื่องเปิดเธอประหลาดใจกับมันอย่างมาก เพราะคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากเกมหนึ่งเกมวางอยู่ตรงกลางจอ อีกหนึ่งสิ่งที่แปลกคือมันเขียนข้อความเดียวกับที่เธออ่านบนกระดาษหน้ากล่อง เด็กสาวไม่เคยเห็นเกมที่มีลักษณะเช่นนี้มาก่อน
“ชื่อเกมขอให้โชคดีเหรอ มีที่ไหนกัน”
นี่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ปกติแน่ เด็กสาวเริ่มกลัวทว่ามือขวากลับกดไปที่ชื่อเกมกลางหน้าจอ ทันทีที่กดไปนั้นก็มีแสงพุ่งเข้ามาที่ตัวเธอราวกับเป็นแสงจากกล้องถ่ายรูป เด็กสาวหลับตาเมื่อถูกแสงสาดเข้ามา เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นทว่ากลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เธอนั่งนิ่งจ้องหน้าจอคอมอยู่สักพักทุกอย่างเป็นปกติ เด็กสาวคิดว่าต้องมีใครสักคนแกล้งเธอ ขณะที่เธอกำลังจะเดินออกไปบอกแม่ก็มีเสียงปริศนาดังขึ้นจากคอมพิวเตอร์
“ขอต้อนรับเข้าสู่เกมค่ะ คุณคือผู้โชคดีคนต่อไป” เด็กสาวสะดุ้งกับเสียงปริศนา เธอเดินเข้าไปที่คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นอย่างช้า ๆ
“นี่มันบ้าอะไรเนี่ย”
“เมื่อคุณเข้ามาในเกมแล้วจะต้องเล่นเกมให้สำเร็จตามคำสั่ง คุณจะได้รับรางวัลที่ทางเกมจะมอบให้คุณตามที่คุณต้องการ หากเล่นไม่สำเร็จคุณจะหายไปจากโลกแห่งความจริง”
“หมายความว่าไงหายไป”
“คุณจะถูกดูดเข้ามาอยู่ในเกมและจะไม่มีตัวตนบนโลกนี้อีกเลย ไม่มีใครรู้จักคุณ”
“หึ ไร้สาระ แล้วถ้าไม่เล่นจะเกิดอะไรขึ้น”
“คุณจะถูกดูดเข้าเกมภายใน 3 2 1..”
เด็กสาวตกใจกับคำตอบที่ได้ยิน เธอไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นหากเธอไม่ได้กำลังยืนคุยอยู่กับคอมพิวเตอร์
“ก็ได้! ฉันจะเล่น”
เด็กสาวยอมรับชะตาชีวิตของตัวเอง เธอไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากที่เธอเล่นเกมนี้ไปแล้ว ทว่าปฏิเสธไปก็เกิดเรื่องแย่อยู่ดี สู้วัดดวงกับตัวเองเสียดีกว่า
“ภารกิจที่หนึ่ง ทำให้จานแตกจำนวน 5 ใบ”
บ้าไปแล้วใครจะไปทำกัน เด็กสาวนึกหวังอยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น ทว่ามันคือเรื่องจริงที่เธอต้องเล่นกับมันและเธอต้องรอดจากเกมบ้านี้
“เหลือเวลาอีก 4 นาที”
เด็กสาวได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งลงไปในครัวทันที เธอเดินไปที่ชั้นวางจานยืนลังเลก่อนจะหยิบจานแล้วปล่อยให้มันตกลงกับพื้น
“เพล้ง!”
จานใบแรกตกแตกกระจายเสียงดังลั่นไปทั่วห้องครัว เด็กสาวยืนตัวสั่นเหงื่อผุดขึ้นตามตัวด้วยความรู้สึกกลัวและสับสน เธอได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่ตะโกนดังมาแต่ไกล เมื่อได้ยินดังนั้นเธอจึงจัดการกับจานใบที่สองอย่างไม่รอช้าทันที
“เพล้ง!”
“เกิดอะไรขึ้น ลูกทำอะไร!” ผู้เป็นแม่ตกใจอย่างมากกับสิ่งที่ลูกสาวตัวเองทำ
เด็กสาวไม่ตอบ กลับหยิบจานใบที่สามปล่อยมันลงพื้นต่อ ตามด้วยจานใบที่สี่ และใบที่ห้า เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นเธอหันไปมองหน้าแม่ของเธออย่างรู้สึกผิด
“ทำแบบนี้ทำไม”
แม่ของเด็กสาวถามด้วยความรู้สึกเสียใจกับการกระทำของลูกตัวเองทว่าไม่มีเสียงตอบกลับ เด็กสาวก็วิ่งขึ้นไปบนห้องทันทีปล่อยให้แม่ยืนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เด็กสาววิ่งขึ้นห้องมาด้วยความเสียใจ เธอปิดประตูห้องก่อนจะเดินไปที่หน้าคอมพิวเตอร์
“ยินดีด้วยค่ะ ภารกิจแรกคุณทำสำเร็จ ภารกิจที่สอง…”
ทางฝั่งของผู้เป็นแม่ หญิงวัยกลางคนกำลังก้มลงเก็บเศษจานแตกซึ่งเป็นผลงานของลูกสาวที่เธอรัก เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกของเธอ และไม่มีทางรู้ได้นอกจากเธอต้องไปเค้นจากปากของลูกสาวเอง ระหว่างที่ตัวเธอกำลังเก็บกวาดเศษจานอยู่นั้น เสียงของใหญ่หนัก ๆ ก็ดังขึ้นมาจากข้างบน มันดังมากจนเธอต้องรีบวิ่งขึ้นไปดู สิ่งที่หญิงวัยกลางคนเห็นทำเอาเธอแทบเป็นลม เพราะเสียงนั้นดังมาจากห้องนอนของเธอเอง และเธอกำลังเห็นเด็กสาวยืนอยู่ในห้องที่ข้าวของกระจัดกระจายเต็มไปหมด แม้กระทั่งตู้เสื้อผ้ามันคว่ำลงมา นั่นคือต้นเสียงที่เธอได้ยิน เด็กสาวไม่พูดอะไรอีกเช่นเคยเธอวิ่งออกมาพร้อมกับคราบน้ำตาบนใบหน้า เด็กสาวทิ้งผู้เป็นแม่ไว้ในห้องนั้น แล้วเธอก็กลับไปยังห้องนอนของเธออีกครั้ง
“ไม่อยากทำแล้ว พอแล้วได้ไหม” เด็กสาวพูดทั้งน้ำตา
“เหลืออีกแค่หนึ่งภารกิจเท่านั้น เกมนี้ก็จะจบลงค่ะ”
เด็กสาวหลับตาและนึกย้อนไปถึงวันที่เธอเจอเพื่อนคนหนึ่งในโรงเรียน เธอไม่ได้สนิทกับเขาและไม่รู้จักทว่าตอนนั้นเธอกำลังนั่งทำงานอยู่ที่โรงอาหารใหญ่ของโรงเรียน จู่ ๆ เด็กผู้ชายคนนั้นก็วิ่งมาชนหลังของเธอ มันทำให้เธอโกรธ เด็กสาวหันไปยังด้านหลังและก็พบเด็กชายกำลังยืนแสยะยิ้มน่ากลัวมาให้ ชั่ววินาทีเธอรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว เด็กสาวไม่เคยเห็นเด็กคนนี้มาก่อนและเด็กชายคนนั้นก็พูดกับเธอ
“สนใจเล่นเกมไหม”
“เกมอะไร”
เขายิ้มให้ก่อนจะพูดกับเธอ
“ขอให้โชคดี”
สิ้นสุดบทสนทนาเด็กสาวลืมตาขึ้นพร้อมกับเสียงหายใจแรง ทุกอย่างถูกประมวลผลในหัวอย่างรวดเร็ว เธอจำได้แล้ว เด็กผู้ชายคนนั้นทำให้เธอต้องมาทำเรื่องบ้านี้ แล้วเด็กนั่นเป็นใคร เขามีตัวตนจริงหรือ มีคำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของเธอทว่าเด็กสาวไม่อยากรับรู้อะไรอีก นอกจากต้องการทำภารกิจสุดท้ายให้สำเร็จ ทุกอย่างจะได้จบลงเสียที
“ฉันพร้อมแล้ว มาเลย”
เสียงของแข็งกระทบกับอะไรบางอย่างที่ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อลงมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอเห็นลูกสาวตัวเองกำลังนำไม้หนา ๆ ทุบไปที่รถยนต์ของเธอ สภาพของรถนั้นพังยับเยินจนแทบไม่เหลือรูปทรงเดิม หญิงวัยกลางคนวิ่งเข้าไปแย่งไม้จากมือของลูกสาวออกมา ขณะเดียวกันเด็กชายที่เด็กสาวเคยพบได้ปรากฏตัวขึ้น เมื่อเธอเห็นเขาด้วยความโกรธเธอจึงรีบวิ่งเข้าไปหาหวังจะนำไม้ในมือทำร้ายทว่าไม่เป็นผลเพราะเขาไม่มีตัวตน
“นายเป็นใครกันแน่” เด็กสาวประหลาดใจพลางเดินถอยหลังออกมาจากเขา
“ยินดีด้วยเธอทำสำเร็จ อยากได้อะไรเป็นรางวัลล่ะ” เขาตอบพร้อมกับยิ้มให้เธอ
เด็กสาวไม่ตอบพลางหันไปหาผู้เป็นแม่ก่อนจะมองไปรอบตัวก็พบเพื่อนบ้านยืนล้อมพวกเขาอยู่ ความรู้สึกผิดและละอายใจมันมากเกินกว่าที่เธอจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด เธอถูกเขาหลอก เด็กชายผู้นี้ไม่มีตัวตนอยู่จริงและมันเป็นเพียงแค่จิตใจด้านมืดในตัวเธอเท่านั้น ไม่มีใครเห็นเขานอกจากเธอ ทุกคนต้องคิดว่าเธอเสียสติไปแล้ว เพราะฉะนั้นเธอจะจบเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเธอเอง
“ไม่มีโชคดีหรอก มีแต่โชคร้ายต่างหาก นายก็แค่เป็นตัวฉันอีกคนที่ไม่มีวันจะได้อยู่ในโลกแห่งความจริง และทุกคนจะไม่รู้จักนาย รวมทั้งตัวฉันด้วย”
สิ้นเสียงของเด็กสาว เธอเห็นเขายิ้มทว่าตัวเด็กชายกลับยืนนิ่งไม่โต้ตอบ เธอจึงวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองก่อนจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป
“หนูรักแม่นะคะ”
เวลา 18:00 น.
แสงสีขาวราวกับแสงจากกล้องถ่ายรูปเหมือนครั้งแรกที่เธอเคยเปิดใช้งานมันสว่างไปทั่วห้อง ผู้มาเยือนใหม่ยกมือขึ้นเพื่อบังแสงที่สาดมาจากในห้องนั้น ทันทีที่ทุกอย่างสงบลงเธอมองเข้าไปในห้องทว่ากลับไม่พบสิ่งผิดปกติอะไรเลยนอกจากห้องเก็บของมืด ๆ กับของบางอย่างตั้งอยู่กลางห้องเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีฝุ่นจับหนา หญิงสาวประหลาดใจกับของตรงหน้าเธอเดินเข้าไปด้านในอย่างช้า ๆ ทว่าก่อนที่เธอจะได้สัมผัสมัน หญิงสาวก็ได้ยินเสียงหัวใจดวงน้อยของตัวเองเรียก
“แม่ครับ ผมหิวข้าวแล้วครับ”
หญิงสาวตัดสินใจเดินออกจากห้องเก็บของแล้วรีบลงไปหาลูกชายอันเป็นที่รักของตัวเองทันที ในเวลาต่อมาห้องนั้นก็ได้ถูกปิดตายเนื่องจากลูกชายเธอเกิดอาการกลัวอย่างไร้เหตุผล คอมพิวเตอร์ปริศนาเครื่องนั้นเมื่อผู้เป็นแม่เห็นว่าเครื่องดูไม่สมบูรณ์จึงนำไปขายให้กับคนขายของเก่า และไม่รู้เลยว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นจะมีใครนำกลับมาใช้งานอีก หรือสักวันหนึ่งมันอาจจะไปอยู่ในบ้านของคุณก็เป็นได้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in