"เหนือสิ่งอื่นใด ฉันปรารถนาให้พวกเธอมีความหวัง ยามที่โลกมืดมนไร้หนทาง อย่าได้ลืมว่าเราเคยก่อกองไฟที่ยิ่งใหญ่ในสวนหน้าบ้าน อย่าได้ลืมเท้าเปื้อนโคลน กระโปรงปลิวลมและแขนขาที่เริงระบำให้แก่ชีวิต"
-คุณยายการเวก-
.
เมื่อไม่นานมานี้พุดดิ้งอ่านไปสอยหนังสือเล่มนี้มาจากร้านหนังสือในทวิตเตอร์ค่ะ เพราะหนังสือเล่มนี้ไม่มีวางขางตามร้านหนังสือเลย เป็นหนึ่งในหนังสือไม่กี่เรื่องที่ซื้อก่อนจะได้อ่านเรื่องย่อเสียอีกค่ะ แค่เพราะชื่อเรื่องดูแล้วถูกโฉลกอย่างบอกไม่ถูกก็เลยตัดสินใจสั่งซื้อทันที แล้วก็ไม่ผิดหวังกับเนื้อหาในแต่ละหน้ากระดาษเลย "อยู่แชร์เฮาส์กับเหล่านักเขียน" เป็นหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของสมาชิกมากหน้าหลายตาในแชร์เฮาส์ซึ่งเป็นบ้านสามชั้นซึ่งมีหญิงชราประหลาดเป็นเจ้าของโดยมีเงื่อนไขว่าคนที่จะเข้าพักที่นี่ได้นั้นต้องมีอาชีพนักเขียนหรือทำงานด้านสื่อสิ่งพิมพ์เท่านั้น เรื่องราวในเรื่องดำเนินไปแบบเรียบเรื่อยที่มีสีสัน เหล่าสมาชิกมักจะแวะเวียนกันมาเล่าชีวิตส่วนตัวให้เรา (ในที่นี้หมายถึง เรา ซึ่งก็คือคุณผู้อ่านจริงๆ) บางเรื่องฟังแล้วเหมือนจะไม่มีอะไรแต่กลับสะกิดใจคนอ่านอย่างเราจนจุกอก ยิ่งอ่านไปเรื่อยๆ ก็จะยิ่งผูกพันกับตัวละครในเรื่องเหมือนเราเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของแชร์เฮาส์แห่งนี้ด้วย
.
"อยู่แชร์เฮาส์กับเหล่านักเขียน" เป็นหนังสือที่ให้มุมมองอะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์ หากคุณรักหนังสือ หนังสือเล่มนี้มีสิ่งที่คล้ายกับอีสเตอร์เอ้กเกี่ยวกับหนังสือเล่มโปรดของเราแอบโผล่มาตลอดเวลา หากคุณรักการเขียน หนังสือเล่มนี้กำลังถ่ายทอดความรู้สึกของเหล่านักเขียนหลายประเภท ไม่ว่าจะหมดไฟ ไหลตามกระแส สูญเสียตัวตนหรือรุ่งโรจน์ หนังสือเล่มนี้เหมือนมีมนตร์วิเศษที่ทำให้จู่ๆ ก็อยากลุกขึ้นไปจับปากกาที่ฝุ่นเขรอะมาเสียนานแล้วสร้างสรรค์ผลงานออกมาสักเรื่องตามใจปรารถนา สมกับที่คุณนักเขียนได้กล่าวไว้ในหน้าแรกของหนังสือเล่มนี้ว่า
"แด่นักเขียนทุกคน ผู้เชื่อว่าเราต่างก็มีเวทมนตร์ในตนเอง"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in