"การคิดถึงสิ่งหนึ่งคือการทำให้สิ่งนั้นเป็นจริงขึ้นมา เพราะฉะนั้นถ้าไมเคิ่ลคิดว่าเขาโอบดวงจันทร์ที่แท้จริงไว้ในอ้อมแขน--ก็แสดงว่าเขาทำเช่นนั้นจริง"
- สุริยเทพ 225น. -
.
"แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ กลับมาแล้ว" คือเรื่องราวต่อจาก "แมรี่ ป๊อปปิ้นส์" หลังจากที่แมรี่จากไปในเล่มแรกนั้น บ้านเลขที่ 17 ซอยต้นเชอรี่ก็มีแต่ความวุ่นวาย ไม่มีอะไรเข้าที่เข้าทางสักอย่าง ในขณะที่นางแบ๊งค์สผู้เป็นแม่ของพวกเด็กๆ กำลังกลัดกลุ้มนั้น แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ปลายสายป่านของว่าวที่ล่องลอยอยู่บนฟ้า กลับมาเป็นพี่เลี้ยงแสนมหัศจรรย์ของเด็กๆ ตระกูลแบ๊งค์สอีกครั้ง
.
ถ้าจะมีวรรณกรรมสักเรื่องที่เราคิดว่าเปี่ยมไปด้วยจินตนาการแสนบรรเจิด แน่นอนว่าแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ต้องติดอันดับอย่างไม่ต้องสงสัย ในหนังสือเล่มนี้แมรี่กลับมาพร้อมกับเรื่องราวเหมือนเวทมนตร์มากมาย เรื่องราวในแต่ละตอนนั้นถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่าค่อนข้างขนานไปกับเรื่องราวในเล่มแรก เช่นว่าในเล่มแรก มีวันอังคารโชคไม่ดี ที่ไมเคิ่ลเจ้าอารมณ์จนเกิดเรื่อง ในเล่มนี้ก็มีวันพุธสุดยุ่งที่เจนเป็นฝ่ายเจ้าอารมณ์บ้าง เรายังได้พบกับญาติของแมรี่ผู้เป็นอย่างคุณเทอร์วี่ ผู้ซึ่งมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นในทุกวันจันทร์ที่สองของเดือนเช่นว่าทุกอย่างจะกลับตาลปัตรไปหมด และยังได้พบกับเพื่อนเก่าอย่างเจ้านกสตาร์ลิ่งที่แวะเวียนมาดูสมาชิกคนใหม่ของบ้าน
.
"แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ กลับมาแล้ว" เป็นหนังสือที่ให้ความรู้สึกในเวลาอ่านเหมือนได้ย้อนกลับไปในยุคเกือบร้อยปีก่อนที่อังกฤษ แทบสัมผัสได้ถึงเหตุการณ์ในเรื่องว่ามีอยู่จริงไม่ว่าเรื่องราวนั้นจะแสนมหัศจรรย์เกิดฝันแค่ไหน ได้กลิ่นผ้ากันเปื้อนลงแป้งแข็งของแมรี่ทุกครั้งที่หยิบหนังสือมาอ่าน และรู้สึกอบอุ่นเหมือนตอนนั่งละเลียดข้าวโอ๊ตต้มยามเช้าที่อากาศเย็นสบาย หนังสือเรื่องแมรี่ ป๊อปปิ้นส์มีความวิเศษเช่นนี้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in