เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ReviewPeanut Butter Jelly
เกาะแห่งเวลาที่เสียไป (Review)
  • "ข้าพเจ้าโหยหาศิลปะแห่งการไม่ทำอะไร"

    เฮอร์มาน เฮสเส
    .
    อันที่จริงแล้วในหนังสือฉบับตีพิมพ์ดั้งเดิมหนังสือเล่มนี้ได้รับคำแปลชื่อเรื่องว่า "เกาะแห่งเวลาที่หายไป" แต่เมื่อได้อ่านจนจบแล้วเกิดความคิดว่าการใช้ชื่อเรื่องตามฉบับตีพิมพ์ใหม่ดูจะเป็นชื่อเรื่องที่ตรงประเด็นสำคัญมากกว่าจึงเลือกที่จะใช้ฉบับตีพิมพ์ใหม่เป็นตัวหลัก 
    .
    เกาะแห่งเวลาที่เสียไปเป็นวรรณกรรมอิตาลี เป็นเรื่องราวสำคัญของจูเลียและอเรียนนา สองเพื่อนรักที่หลงทางไปโผล่ที่เกาะแห่งเวลาที่เสียไป เกาะที่รวบรวมสิ่งของ ความทรงจำ เวลาที่สูญเสีียและสูญหายไปบนโลก บนเกาะนั้นพวกเธอได้ค้นพบว่ายังมีเด็กๆ อีกมากมายอาศัยอยู่ด้วย พวกเขาล้วนเป็นผู้คนที่หลงทางจากบนโลกทั้งสิ้น บนเกาะแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสวรรค์ของเด็กๆ ก็ว่าได้ เราได้ทำอะไรที่เราอยากทำ ไม่ต้องเร่งรีบที่จะใช้ชีวิต แค่ใช้ชีวิตไปอย่างเป็นอิสระ ปราศจากบ่วงห้วงเวลาที่รั้งกายเอาไว้ ทุกอย่างฟังดูดีและมีความสุข ถ้าจะไม่ติดว่าบนเกาะแห่งเวลานี้ยังมีอันตรายอย่างมนุษย์กินคนอยู่ด้วย
    .
    เกาะแห่งเวลาที่หายไปเล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือที่เราคิดว่าให้แง่คิดที่แตกต่างออกไปจากหนังสือเล่มอื่นๆ ส่วนมากคนเราคงได้อ่านหนังสือข้อคิดที่มักพูดว่า "เวลาเป็นของมีค่า" ไม่ควรปล่อยให้เวลาอันมีค่าไหลทิ้งไปเปล่าๆ แต่หนังสือเล่มี้กลับบอกเราว่า "ไม่ต้องรีบนักก็ได้" เวลาเป็นของเรา ค่อยๆ ใช้ไป เราไม่จำเป็นต้องหมกมุ่นอยู่กับการทำนู่นนี่นั่นเพื่อให้เวลาที่มีไม่สูญเปล่า บางทีการที่เราไม่ทำอะไรเลย ก็อาจเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าที่สุดช่วงหนึ่งเช่นกัน
    .
    ในโลกที่ทุกคนล้วนวิ่งแข่งกับเวลา วิ่งเพื่อไปให้ข้างหน้า วิ่งเพื่อให้ไปได้ไกลที่สุด การวิ่งอาจทำให้ไปสู่จุดหมายได้เร็วขึ้นก็จริง แต่ออกตัววิ่งที่ใช้แรงมากในช่วงแรกก็อาจทำให้เหนื่อยได้ง่ายมากเช่นกัน ดังนั้นแล้ว หากเหนื่อยล้าก็ลองพักสักหน่อย เอนกายลงนอน หลับตาลง ไม่แน่ว่า การปล่อยเวลาทิ้งเช่นนี้อาจทำให้เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาก็เป็นได้
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in