หลังจากยืนดูรถไฟอยู่สักพักก็คุยกับพี่ว่าไม่ลงไปที่หาดแล้วดีกว่า  เพราะฝนยังตกอยู่  เราเลยข้ามสถานี Inamuragasaki ไปลงสถานี Gokurakuji เลย  ด้วยสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจเราเลยอดไปนั่งตรงบันไดที่พี่ซาจินั่งคุยกับคุณหมอ

และแม้ว่าสภาพอากาศจะไม่เป็นใจขนาดไหนเราก็จะไม่ยอมพลาดสถานี Gokurakuji พอถึงปุ๊บเราก็รีบลงเลย

ถ่ายรูปไปมือก็สั่นไป  ฝนยังคงตกไม่หยุด  เราเลยลองเดินไปรอบ ๆ สถานี  ฝั่งตรงข้ามมีร้านแฮมเบิร์กหน้าตาดูน่ากิน

พอเดินมาฝั่งตรงข้ามสถานีก็เจอศาลเจ้า  ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นฉากหนึ่งในหนังเหมือนกัน  นอกจากเราแล้วก็ยังมีคนญี่ปุ่นที่มาด้อม ๆ มอง ๆ แถวนี้  เข้าใจว่าน่าจะมาตามรอยหนังเช่นกัน

เดินเข้าไปข้างในไม่มีคนเลย  เจอบ๊วยบานอยู่ 1 ต้น

ขณะที่กำลังยืนมองนั่นมองนี่ก็เห็นคนญี่ปุ่นคนนึงเดินเข้ามาขอพร  สักพักก็เดินออกไป  แสดงว่านอกจากพวกที่มาตามรอยก็ยังมีคนท้องถิ่นเข้ามาที่นี่อยู่เป็นประจำ  มองไปอีกด้านก็เห็นเหมือนเป็นจุดขายเครื่องรางแต่ว่าไม่มีคนอยู่เลย

หลังจากนั้นก็มายืนตรงสะพานที่ซึสึจังวิ่งไปโรงเรียนพร้อมกับยจจัง  รอดูรถไฟออกมาจากอุโมงค์แล้วก็ถ่ายรูป  อาห์…  ชีวิตมันก็แค่นี้ ทำไมเรามีความสุขง่ายจัง

พอเดินมายืนฝั่งตรงข้ามของสถานีก็จะเห็นมุมที่คิดว่าเขาน่าจะตั้งกล้องถ่ายฉากนี้ตรงนี้แหละ  แต่เราไม่ได้เอารูปขึ้นมาเทียบตอนที่ถ่าย  เพราะมือแข็งไปหมดแล้ว ต้องถือร่มด้วย

หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟกลับมาที่สถานี Kamakura ฝนยังคงตกอยู่เลยซื้อไอติม Royce ชาเขียวมาลอง  อร่อยสมคำร่ำลือแหละ  แต่เราคิดว่าฮาเก้นดาซอร่อยกว่านิดนึงนะ

พอเติมพลังด้วยไอติมเสร็จแล้ว  เป้าหมายต่อไปคือเดินเล่นในเมือง Kamakura และไปร้าน Kibiya Bakery เห็นเด็กน้อยใส่เสื้อกันฝนวิ่งไปวิ่งมา  ดูเหมือนคุณแม่กำลังจะดุ  น่ารักดี  ว่าแต่ไม่หนาวเหรอลูก

ร้านนี้ขายแต่กระดุม  กระดุมเท่านั้น  มีทุกไซส์ทุกแบบ จะเท่ไปไหน

เราเดินดูเมืองไปเรื่อย ๆ สองข้างทางมีอะไรให้ดูเยอะ  จนกระทั่งมาถึงร้าน Kibiya Bakery ร้านนี้เราเห็นรีวิวของใครสักคนนี่แหละ  จำไม่ได้แล้ว  เขาบอกว่าเขาไปแล้วร้านปิดก็เลยอด  เราเลยลองเสิร์ชหาจากใน IG และอื่น ๆ จนได้พิกัดของร้านมา  ร้านอยู่ในซอยเล็ก ๆ น่ารัก ข้างในร้านก็น่ารัก ทุกอย่างน่ารักไปหมดเลย

ด้วยความที่ทุอย่างมันน่ากินไปหมด  เลยอาศัยความฉลาด(?)ไปถามคนขายว่าอันไหนขายดีสุดคะ 555555 เขาบอกว่าช็อกโก้ปังขายดีสุด และสังเกตจากการที่สาวญี่ปุ่นหยิบใส่ถาดไปหลาย ๆ ชิ้นเลยคิดว่ามันคงอร่อยมั้ง พอได้กินแล้วก็เออออออ อร่อยจริง ๆ ด้วย มันเป็นขนมปังไส้ช็อกโกแลตที่ช็อกโกแลตมาก อร่อยยยยยย

ภารกิจร้านขนมปังเสร็จแล้วก็เดินไปหาข้าวหน้าปลาชิราสึกินต่อ  เห็นซึสึจังกินในหนังเลยอยากกินบ้าง  ก่อนจะมาเราหาข้อมูลร้านเอาไว้แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่เจอร้านนั้น  ไม่รู้ว่าปิดไปแล้วหรือยังไง  เลยเดินมาหน้าสถานีเห็นมีอยู่ร้านนึงข้าง ๆ แมคเลยลองมั่วเข้าไปดู  เพราะตอนนั้นหิวมาก  เหนื่อยด้วย  หนาวด้วย

และความไม่คาดหวังนี่แหละทำให้เราพบรู้สึกดีมาก ๆ และมื้อนี้กลายเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดของทริป  เรากินจนเกลี้ยง  ในเซ็ตมีข้าวหน้าปลาชิราสึและเยลลี่แอปเปิ้ล  อร่อยมาก ๆ เลย  ตอนเราอยู่ในร้านเราพยายามมองหาป้ายชื่อร้าน เพราะตอนเดินเข้ามาไม่ได้สนใจ  คุณป้าแกก็เดินมาบอกเราว่าห้องน้ำอยู่ทางนี้นะคะ  เราเลยบอกขอบคุณ  555555 เขาดูใส่ใจลูกค้าดีอ่ะ  และหลังจากที่มองซ้ายมองขวาก็พบว่ามันมีชื่อร้านอยู่บนเมนูนี่หว่า  อืม… มันเขียนว่า “Kawagoe-ya”

ในร้านเราไม่เห็นชาวต่างชาติเลย  ส่วนใหญ่จะเป็นคนท้องที่มากิน  ด้วยความที่เข้ามาแบบมึน ๆ เลยไม่รู้ว่าร้านมันดังไหม  เคยมีคนไปรีวิวหรือเปล่า  แต่เราชอบร้านนี้มาก ๆ

พออื่มท้องแล้วก็เดินออกมา  แวะไปซื้อคัสตาร์ดหน้าสถานี  เขาว่ากันว่าอร่อย  ตอนนั้นอิ่มมากเลยลองซื้อมาแค่อย่างละชิ้น  พอนั่งกินบนรถไฟถึงได้รู้ว่ามันอร่อยมากกกกกกกกกกกก อยากจะกลับไปซื้ออีกจริง ๆ

นี่มันสินค้า OTOP ของคามาคุระชัด ๆ  อร่อยมาก  ไส้ชาเขียวก็อร่อย  คุกกี้ลูกเกดที่เป็น NO.2 ของร้านก็อร่อย /meร้องไห้

และก่อนจะขึ้นรถไฟ  เราเจอชานมกลิ่นเชอร์รี่ที่เป็น Limited มีขายเฉพาะฤดูนี้  เพื่อนบอกว่าฝากกดไปให้หน่อยนะ  ตอนแรกเราไม่รู้ว่ามันเป็นลิมิเตดเลยกดมาลองกินเอง 1 ขวด  กลิ่นมันหอมเชอร์รี่มาก  หอมจนกลบกลิ่นชาเกือบหมดเลย  อร่อยดีนะ แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่เจอชาจวดแบบนี้ในโตเกียวอีกเลยว่ะ  จะร้องไห้ 555555555

และตามแพลนเดิมคือเราจะนั่งรถไฟไปลง Yokohama เพื่อไป Minatomirai แต่พอมาถึงแล้วฝนตกหนักกว่าเดิม  ลมแรงกว่าเดิม  หนาวมากจนออกไปข้างนอกไม่ไหว  แต่ยังไม่อยากกลับ  เลยตัดสินใจเดินเล่นในห้างนี่แหละ  เดินไปเดินมาก็ได้รองเท้ามาคู่นึง  สาขาที่นี้มีไซส์พอดี  พนักงานก็ขายของเก่งเลยได้สเปรย์ทำความสะอาดรองเท้าติดมาด้วย ขอบคุณนะคะ 555555

พอได้รองเท้าแล้วก็ไม่รู้จะดูอะไรต่อจริง ๆ เลยคิดว่ากลับดีกว่า  ไปพักผ่อนเพื่อจะได้เอาแรงไปเดินทางพรุ่งนี้ต่อ  เพราะจะออกนอกเมืองกันอีกแล้ว  วันนี้เห็นอากาศแย่ทั้งวันเลยไม่มั่นใจเลยว่าจะได้เห็นฟูจิซังไหม  เปิดแอปฯเช็กพยากรณ์อากาศก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาหน่อยเพราะไม่มีฝน

ดูสภาพรองเท้าแล้วพรุ่งนี้ใส่คู่ใหม่ดีกว่า  (ไม่เห่อจริง ๆ )