ห้องนั่งเล่นเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ในบ้านที่มีความสำคัญไม่น้อย นั้นก็เพราะห้องนั่งเล่นสามารถที่จะใช้เป็นที่ทำงาน อ่านหนังสือ หรือบางคนก็ใช้ในการนั่งดูหนังฟังเพลง ซึ่งถ้าหากตกแต่งห้องนั่งเล่นไม่ได้สไตล์ที่เหมาะแก่การพักผ่อนแล้ว ย่อมส่งผลให้ไม่อยากนั่งหรือใช้เวลาในห้องนั่งเล่นอีกต่อไปก็เป็นได้ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการตกแต่งห้องนั่งเล่นก็คือ โซฟาที่ได้คุณภาพ มีความสะดวกสบายในการนั่งหรือนอนที่สำคัญคือควรจะเป็นโซฟาอารม์แชร์ที่สามารถพักแขนได้ด้วย ลองมาดู 7 วิธีที่จะช่วยเลือกโซฟาให้เข้ากันกับห้องนั่งเล่นกัน
1. โทนสีต้องมาก่อนการแต่งห้องนั่งเล่นนั้นมักจะเลือกใช้โทนสีที่ดูสบายตา อบอุ่น และไม่ฉูดฉาดมากจนเกินไป ลองจินตนาการถึงห้องนั่งเล่นสีฟ้าที่ตัดกับสีขาว ถ้าหานำโซฟาที่มีสีดำหรือสีแดงมาใช้ในห้องนั่งเล่นก็คงจะดูแปลกตาไปสักหน่อย แถมยังทำให้เกิดความรู้สึกขัดแย้งกับบรรยากาศของห้องนั่งเล่นได้ ฉะนั้นการเลือกซื้อโซฟาอารม์แชร์เพื่อใช้ในห้องนั่งเล่นก็ควรจะเลือกจากโทนสีเป็นหลัก เช่นถ้าห้องนั่งเล่นนั้นทาสีผนังด้วยโทนสีขาวหรือสีโทนอ่อน ก็ควรจะใช้โซฟาสีโทนอ่อนด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อให้แมทช์กับบรรยากาศของห้องนั่งเล่นได้ สีโทนอ่อนในที่นี้เช่น สีขาว, สีฟ้า, สีเขียวอ่อน, สีครีม เป็นต้น
2. ขนาดต้องพอดีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนั่งเล่นของแต่ละบ้านนั้นมีขนาดไม่เท่ากัน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การเลือกโซฟาอาร์มแชร์สำหรับแต่งห้องนั่งเล่น จะต้องเลือกขนาดที่มีความเหมาะสมด้วย เพราะถึงแม้ว่าจะมีรุ่นถูกใจทั้งโทนสีและราคาก็ตาม แต่หากว่าขนาดของโซฟาชุดนั้นใหญ่และกินพื้นที่ของห้องนั่งเล่นเกิน 70% ก็ไม่ใช้ตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นแน่ เพราะจะทำให้ห้องนั่งเล่นดูแคบและอึดอัด ทางที่ดีควรเลือกชุดโซฟาที่มีขนาดพอเหมาะกับห้อง หรือถ้าพื้นที่ใช้สอยในห้องน้อยจริงๆ โซฟารูปตัว L ที่สามารถเข้ามุมกับผนังได้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่า
3. ฟังก์ชั่นการใช้งานความคุ้มค่าจากการซื้อของนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น โซฟาก็เช่นกัน เพราะถ้าต้องจ่ายเป็นจำนวนมากเพื่อความสวยงามของโซฟาอาร์มแชร์ แต่กลับไม่สามารถใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชั่นก็ดูเป็นการสิ้นเปลืองเกินไป เพราะหากได้โซฟาที่สวยถูกใจ และมีราคาค่อนข้างสูง แต่มีความแตกต่างกับโซฟาอื่นๆ ตรงที่สามารถพับเก็บให้ไม่กินพื้นที่ใช้สอยได้ หรือจะเป็นการปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นโซฟาอาร์มแชร์ที่สามารถนอนได้ ก็จะช่วยให้พึงพอใจกับชุดโซฟาในห้องนั่งเล่นได้มากกว่า และไม่ร้สึกอยากที่จะเปลี่ยนเป็นตัวใหม่เลย
4. วัสดุต้องโดนนอกเหนือจากฟัง์กชั่นเด่นๆ ของ
โซฟาอาร์มแชร์ จะดีกว่าถ้าหากว่าได้ใช้โซฟาที่มีวัสดุในการผลิตที่เหมาะสม เช่นฟองน้ำที่มีคุณภาพ มีความนุ่มสบายมากเพียงพอ ไม่ยุบตัวลงไปเอง หรือแม้แต่ความรู้สึกสบายเวลาที่ได้ลองนั่ง และเหมาะสมกับสรีระของผู้ใช้งานมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้การนั่งพักผ่อนในห้องนั่งเล่นนั้นเป็นไปด้วยความเพลิดเพลินเหมาะกับความเป็นห้องนั่งเล่นนั่นเอง
5. เข้ากันกับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ห้องนั่งเล่นนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ห้องสี่เหลี่ยมกว้างๆ กับโซฟาอารม์แชร์เท่านั้น แต่มันยังมีของตกแต่งอื่นๆ ด้วย เช่นตู้เก็บของ ชั้นวางหนังสือ ชั้นวางทีวี หรือของสะสมที่ใช้ตกแต่งห้อง การเลือกโซฟาให้แมทข์กับเฟอร์นิเจอร์ชนิดอื่นๆ ในห้องจะเป็นตัวช่วยเสริมความน่าสนใจและเพิ่มความสวยงามให้กับห้องนั่งเล่นได้ เช่นนิยมตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ หากเลือกโซฟาอาร์มแชร์แบบที่เป็นโครงสร้างไม้ก็จะช่วยให้ห้องนั่งเล่นมีสไตล์มากขึ้นด้วย
6. สร้างความโดดเด่นได้ด้วยโซฟาจริงอยู่ที่ว่าการเลือกสีของโซฟาอาร์มแชร์นั้นหากเลือกในโทนสีที่เข้ากับผนังห้องก็จะช่วยสร้างบรรยากาศที่น่าหลงใหลได้ แต่ถ้าหากเจ้าของบ้านเป็นคนที่หลงใหลในสีสันและความแตกต่าง การจะเลือกโซฟาที่ให้โทนสีร้อนแรงสะดุดตามาเป็นตัวช่วยเสริมบรรยากาศในห้องนั่งเล่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด ถ้าจะให้อาจเลือกเป็นโทนสีที่ตรงข้ามหรือตัดกันก็ทำให้ห้องดูเท่ไปอีกแบบ
7. ความเรียบง่ายดีที่สุดถ้าหากยังไม่รู้ว่าสไตล์ไหนคือสิ่งชอบจริงๆ การซื้อโซฟาอาร์มแชร์สำหรับห้องนั่งเล่นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องตามกระแสหรือตามสไตล์ของใคร หากเพียงแต่เลือกเอาจากความเรียบง่ายที่สุด เช่นโซฟาอาร์มแชร์สีเทา ที่มีขนาดพอเหมาะแต่ครบฟังก์ชั่นการใช้งาน อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่เรียบๆ แต่นั่งแล้วสบาย เพียงเท่านี้ก็เป็นการใช่ชุดโซฟาอร์มแชร์ที่เข้ากันกับห้องนั่งเล่นได้แบบง่ายๆ ไม่ต้องคิดเยอะกันแล้ว
ใครที่กำลังมองหาโซฟาอาร์มแชร์มาใช้งานและตกแต่งห้องนั่งเล่นอยู่ก็อย่าลืมนำเอาวิธีเลือกซ้อทั้ง 7 ข้อนี้ไปปรับใช้กันดู แล้วจะรู้ว่า การแต่งห้องนั่งเล่นนั้น “ง่ายนิดเดียว”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in