1.Hello, My Twenties! / Age of Youth
บ้านเช่าเบลเอป็อก (Belle Époque) ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ช่วงเวลาอันแสนงดงาม เปรียบเสมือนช่วงเวลาของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน คนรัก ครอบครัว หรือช่วงเวลาวัยเยาว์ของตัวละครในเรื่องนี้ เรื่องราวของสาววัยรุ่นมหาวิทยาลัยทั้งห้าคนที่แชร์บ้านพักด้วยกัน ทว่าบุคลิกภาพ นิสัย ความคิด ความหนักหนาของปัญหาชีวิตแตกต่างกัน บางทีการอยู่ร่วมกันทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา ซีรีส์ถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องเล่าผ่านมุมมองชีวิตของห้าสาวอย่างเรียบง่าย ผ่อนคลาย ดูแล้วอมยิ้มกับอารมณ์ขันของตัวละคร อินไปกับเรื่องราวเศร้า ต่างคนต่างค่อย ๆ เผยความลับของตัวเอง ลึกซึ้งกินใจไปกับมิตรภาพสวยงามท่ามกลางคนแปลกหน้าที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว
หลังดูจบเรานึกถึงชีวิตวัยเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย ได้รับแง่คิดการใช้ชีวิต ปลอบประโลมเราด้วยถ้อยคำแสนอบอุ่นอย่างเช่นประโยคที่เราชอบที่สุดว่า บางทีตอนเป็นตัวอ่อนอาจจะมีความสุขกว่าตัวจั๊กจั่นที่มีอายุขัยเพียงแค่เจ็ดวันแล้วก็สูญสิ้นไป สอนให้เรียนรู้ปรับตัวต่อการเติบโตก้าวผ่านช่วงวัยสำคัญของชีวิต (Coming of Age) รวมถึงสาระสำคัญที่คุณจะได้รับกลับไปอีกมากมายจากเรื่องนี้ สามารถติดตามได้ทาง Netflix (SS1 - 2)
2.Because This Is My First Life
เรื่องราวของชายหญิงที่จับพลัดจับผลูแต่งงานกันเพื่อผลประโยชน์ ความสัมพันธ์เชิงตกลงสัญญาบางอย่างร่วมกัน นั่นก็เพื่อหาเพื่อนร่วมบ้านช่วยดูแลความสะอาดบ้าน คัดแยกขยะ, ดูแลแมว ที่สำคัญคือแชร์ค่าห้องด้วยกัน เจ้าของบ้านเป็นผู้ชายหนุ่มโปรแกรมเมอร์ที่มีปมรักฝังใจในอดีตจนปิดตายต่อความรักใดใด สิ่งที่เขาให้ความสำคัญมีแค่สองอย่าง เจ้าแมวเหมียว สอง บ้านที่เป็นเซฟโซนของเขาเท่านั้น กับเพื่อนร่วมห้องหญิงคนใหม่ สาววัยสามสิบตอนต้น ผู้มีความฝันอยากเป็นนักเขียนบทละครที่ประสบความสำเร็จ และไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนมาก่อน เธอมีเหตุให้ต้องย้ายออกจากบ้านพักของตัวเอง ด้วยคอนเนคชั่นจากเพื่อนทำให้เธอได้ห้องพักนี้ในราคาดี
ซีรีส์ชวนขบคิดประเด็นการแต่งงานว่า บางทีการแต่งงานกันอาจไม่ใช่ความรัก แต่เป็นเรื่องของคนสองคนที่มีเงื่อนไขบางอย่างร่วมกันมากกว่า ประเด็นอิทธิพลการมีบทบาทของคนในครอบครัว บางครั้งความหวังดีของคนรอบตัวกลับทำร้ายเรามากกว่าที่คิด บางทีพวกเขาไม่ได้ทำสิ่งที่ถูกใจเรา พวกเขาเองก็เพิ่งเป็นพ่อแม่ครั้งแรกเหมือนกัน หลายครั้งความผิดนั้นก็เกิดขึ้นเพราะความรักที่มีต่อลูก หรือสะท้อนความรู้สึกความรักของแม่ที่มีต่อลูกสาวออกมาได้เป็นอย่างดี อีกสิ่งที่เราชอบมากคือตลอดการเล่าเรื่องตอนแรกจนถึงตอนจบ มีการแทรกบทประพันธ์, บทกลอนจากหนังสืออีกด้วย “ทุกคนมีห้องลับหมายเลข 19” เปรียบว่าเราทุกคนต่างมีห้องลับในใจของตัวเองที่ไม่อยากเปิดให้ใครเข้ามา (จากหนังสือ To Room Nineteen, Doris Lessing) แล้วก็มีหนังสือดีอีกหลายเล่มที่ไม่ได้ยกมาพูดถึง เผื่อใครสนใจอ่านเราจะเขียนรายละเอียดไว้ข้างล่างนะคะ สามารถติดตามเรื่องนี้ได้ทาง Viu / Netflix
https://www.netflix.com/title/81167119
https://www.viu.com/ott/th/th/vod/217077/Because-This-Is-My-First-Life
3.Welcome To Waikiki
สำหรับเรื่องนี้ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่มีเรื่องนี้ไม่ได้เลยจริง ๆ เพื่อนสนิทสามคนร่วมหุ้นกันทำธุรกิจบ้านเกสต์เฮ้าส์ วาดฝันไว้ว่ากิจการจะไปได้สวย ทว่าโชคร้ายดันเจอพิษเศรษฐกิจเข้าไปเต็มเปา ทำให้ธุรกิจที่หวังว่าจะรุ่งเรืองกลับจวนจะปิดตัวลงอยู่รอมร่อ บ้านพักกำลังเจอวิกฤตอย่างนักถึงขั้นถูกตัดน้ำตัดไฟ ไม่มีรายได้จากห้องพัก เงินหมุนเวียนติดลบ อีกทั้งยังไม่มีใครประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างที่วาดฝันไว้สักคน ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงชื่อดัง ผู้กำกับหนัง นักเขียนนิยาย ถ้าคุณคิดว่าเรื่องที่พวกเขาเจอนั้นซวยแล้ว แต่ทว่ายังมีเรื่องให้ซวยกว่านั้นอีก ซีรีส์ตลกร้ายนี้เป็นเรื่องที่คุณสามารถรับชมเพื่อความผ่อนคลาย เนื้อเรื่องไม่เครียดไม่หดหู่ ฮาจนท้องคัดท้องแข็งกันเลยทีเดียว เอาเป็นว่าไม่พูดเยอะ เรามาลุ้นเอาใจช่วยให้พวกเขาสามารถกอบกู้กิจการบ้านเกสต์เฮ้าส์ไปพร้อมกันได้ทาง Viu / Netflix (SS1, 2)
https://www.netflix.com/title/81029926
https://www.viu.com/ott/th/th/vod/75239/Welcome-to-Waikiki
4. Be Melodramatic
ซีรีส์แนวรอมคอมเล่าเรื่องราวชีวิตธรรมดาของเพื่อนสาวสุดซี้สามคนในวัยสามสิบที่ใช้ชีวิตอยู่บ้านพักหลังเดียวกัน เพื่อนนักเขียนบทละคร เพื่อนผู้กับกับสารคดี เพื่อนเจ้าหน้าที่การตลาดบริษัทผลิตละคร ทุกคนมีความฝัน ความรัก กรอบความคิด การใช้ชีวิต ปัญหาช่วงชีวิตวัยสามสิบที่ถาโถมเข้ามาในแต่ละวันต่างกัน พล็อตเรื่องเรียบง่ายไม่หวือหวาเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เราและหลายคนก็เผชิญเรื่องราวนี้คล้ายกัน ทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครเป็นเพื่อนที่คอยปลอบโยนเรา เป็นหนึ่งในซีรีส์แนว Slice of Life จังหวะเล่าเรื่องดี โดดเด่นเรื่องมุกตลกร้าย เสียดสีชีวิตคนวัยทำงาน บทพูดเข้าใจง่าย อบอุ่น แต่บางทีก็ปักคมเหมือนมีด บางฉากดูแล้วอมยิ้มตาม บางทีในความธรรมดาก็มีสิ่งที่น่าใจ นักแสดงถ่ายทอดคาแรกเตอร์ความต่างของเพื่อนสามคนได้อย่างมีเสน่ห์เป็นความต่างที่ลงตัว
“เดี๋ยวพอสามสิบแล้ว ทุกอย่างก็จะดีเอง” ประโยคนี้เปิดประเด็นให้เราชวนคิดตามว่าเคยจินตนาการอนาคตของตัวเองเป็นอย่างไรบ้าง แล้ววัยสามสิบไม่ใช่ช่วงอายุที่หมดหวังเกินกว่าจะมีความฝัน
“อย่าไปสนว่าความรู้สึกเธอ จะอยู่แค่หนึ่งวันหรือพันปี เพราะต่อให้เธอพร้อมจะรักเขาไปอีกพันปี ร่างกายเธอก็ไม่ไหวอยู่ดี” - อีอึนจอง
หลังดูจบเรารักเรื่องนี้มากจริง เป็นความรู้สึกอิ่มเอมใจเหมือนเราถูกเติมเต็มทางด้านจิตใจ ทั้งถ้อยคำปลอบโยนให้กำลังใจ ช่วยเยียวยาให้รู้สึกดีกับตัวเอง ข้อคิดที่ย่อยให้เข้าใจง่าย เพลงประกอบทุกเพลงความหมายสวยงามมาก ทุกอย่างอยู่ในเรื่องเดียว แล้วก็เป็นเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกเห็นคุณค่าความหมายของชีวิต ทุกคนสามารถรับชมได้ทาง Viu หรือ Netflix วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป
https://www.viu.com/ott/th/th/vod/190303/Be-Melodramatic
https://www.netflix.com/title/81211284
เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับซีรีส์ที่เรามาแนะนำกันในวันนี้ หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับซีรีส์ที่นำมาฝากกันนะคะ ครั้งหน้าเราจะมาชวนดูซีรีส์เรื่องอะไรอีก ฝากติดตามด้วยน้าา
ปกและภาพประกอบโดยผู้เขียน ทีเล็ก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in