เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
"ALWAYS"Nuynyaloners
ความทรงจำที่สวยงามจนเจ็บปวด
  • ชี้แจงก่อนอ่าน

    #คนเขียนได้เคยอัพเรื่องนี้ลงเว็บ storylog เมื่อ 3 เดือนก่อน


    ชายคนหนึ่ง รูปร่างสูง ผมดำและมันเงา หน้าตาอันเรียบเฉยแต่ดวงตาแฝงไปด้วยความเจ็บปวด เขาช่างดูทรมานเหลือเกิน

    ท่ามกลางสภาพอากาศอันเลวร้าย ฝนตกกระหน่ำราวกับซ้ำเติมความรู้สึกเจ็บปวดที่มีอยู่ และดูเหมือนมันจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

    เขายืนอยู่ตรงหน้าหลุมศพของใครสักคนในก็อดดริกส์ โฮลโล่ เขาไม่รู้ตัวเลยว่ายืนอยู่ตรงนี้มานานเท่าไหร่ ราวกับไร้จิตวิญญาณ แต่ยังคงมีความรู้สึกอยู่

    จู่ๆ เขาก็คุกเข่าลงต่อหน้าหลุมศพ ท่าทางดูจะทรมานมากกว่าเดิมเมื่อเขาเริ่มเสกดอกลิลี่สีขาวแล้วนำไปวางตรงหลุมศพของใครสักคน

    เขาเก็บไม้กายสิทธิ์ลงในกระเป๋าข้างในผ้าคลุม

    ดวงตาของเขามีน้ำใสๆ เอ่อล้นออกมา
    น้ำตาไหลลงมาเงียบๆ

    เขาก้มหน้าลงพร้อมกับร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทา

    เวลาดำเนินผ่านไปสักพัก ฝนหยุดตกแล้ว

    เขาเงยหน้าขึ้น น้ำตาก็หยุดไหลแล้วเช่นกัน

    เขายื่นมือไปที่ป้ายหลุมศพ มืออันสั่นเทาลูบไปยังชื่อของใครสักคนอย่างเบามือและทะนุถนอม
                  
                    “…
                      ลิลี่ พอตเตอร์
                       ชาตะ 30 มกราคม ค.ศ.1960
                        มรณะ 31 ตุลาคม ค.ศ.1981
                      …”
         

    “เธออยู่ข้างบนนั้น คงสบายดีสินะ…ลิลี่” จู่ๆ เขาก็พูดขึ้น
    “เธอจากไป 10 ปีแล้ว แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันเนิ่นนานเหลือเกิน ราวกับเวลาผ่านไป 100 กว่าปี”

    เขาลุกขึ้นยืน หยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาจากกระเป๋าที่ข้างในผ้าคลุม ชี้ไม้กายสิทธิ์ไปตรงทางเดิน พร้อมกับเสกคาถาผู้พิทักษ์

    “เอกซ์เปกส์โต พาโตรนุม” กวางสาวสีเงินออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของเขา มันเดินอย่างสง่างามและเชื่องช้า

    เขามองกวางสาวตัวนั้นจนกระทั่งมันจางหายไป

    เขาหันหน้ากลับมายังหลุมศพของลิลี่อีกครั้ง “ฉันแค่จะบอกว่า ผู้พิทักษ์ของฉันยังคงเป็นกวางสาวสีเงินเหมือนของเธอ มันยังคงเหมือนเดิม…ถึงแม้เธอจะไม่เคยรับรู้เลยก็ตามว่าผู้พิทักษ์ของฉันเป็นตัวอะไร” เขาเอ่ย สีหน้าเริ่มดูเจ็บปวด
         
    เขาหันหลัง และเดินออกมาจากหลุมศพตรงนั้น

    “เธอรู้อะไรมั้ย ลิลี่” เขาพูดขึ้น
    “ตั้งแต่เธอจากไป แสงอาทิตย์ยามเย็นก็ไม่เคยสวยงามอีกเลย…ตั้งแต่วันนั้น”
    น้ำเสียงช่างดูเจ็บปวดเหลือเกิน

    เขาเดินออกมา ผ่านมาหลายก้าว และจู่ๆ ก็หยุดเดิน
    เขานึกถึงภาพความทรงจำวันนั้น ความทรงจำที่ตัวเขาคิดว่ามันสวยงามและทำให้เจ็บปวดใจมากที่สุด

     ………………………………………………………………………………………………………

    วันหนึ่ง หลังจากที่นักเรียนชั้นปีที่ 3 แห่งโรงเรียนพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ ฮอกวอตส์ ได้ทำการสอบวิชาแปลงร่างกับศาสตรจารย์มักกอลนากัลเสร็จ เวลานั้นเป็นเวลาบ่ายโผล้เผล้ เซเวอร์รัส สเนป ได้เดินตรงไปยังทะเลสาปเพื่อที่จะพักผ่อนคลายความเมื่อยล้าของตน

    เมื่อเขาเดินไปถึงทะเลสาป ก็พบว่ามีนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 10 คน พากันมาพักผ่อนที่ทะเลสาปเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศที่นี่เย็นสบาย แต่ก็พอมีแสงแดดส่องรบกวนอยู่บ้าง เขาเดินไปหามุมสงบมุมหนึ่ง เป็นมุมที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ริมทะเลสาป
         
    เขานั่งลงเอนกายพิงต้นไม้ใหญ่พร้อมกับถอนหายใจ สเนปคิดว่าการสอบครั้งนี้เขาทำได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก

    สเนปหลับตาลง ในขณะนั้น สายลมเอื่อยๆ ก็พัดผ่านตัวของเขาไป นั่นทำให้สเนปคลายความกังวลของตนลงได้บ้าง

    เวลาผ่านไป แสงแดดยามเย็นกำลังส่องมาโดนยังคนที่อยู่บริเวณทะเลสาป และตัวเขาเองก็พลอยโดนแสงแดดส่องโดนร่างกายไปด้วย

    เขาจึงลุกขึ้นยืน เปลี่ยนที่นั่งพักผ่อนเพื่อหลบแสงแดด นักเรียนคนอื่นๆ ที่อยู่บริเวณใกล้ๆ นั้น ก็ทำเช่นเดียวกันกับเขา

    เมื่อสเนปนั่งลงอีกครั้ง ใต้ต้นไม้ต้นใหม่ คราวนี้เขาไม่ได้หลับตาลงเหมือนครั้งที่แล้ว แต่กำลังสังเกตนักเรียนกลุ่มนั้นอยู่

    นักเรียนกลุ่มนั้นต่างพากันลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เพื่อหาที่นั่งพักผ่อนที่หลบแสงแดดที่เหมาะสม

    มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งในกลุ่มนั้น กำลังพูดกับเพื่อนๆของเธอว่า ทำไมวันนี้แสงแดดถึงได้ร้อนนัก เธอไม่ชอบเลยเพราะว่าร้อนเวลาแสงแดดส่องกระทบโดนตัวของเธอนั่นเอง

    สเนปได้ยินคำพูดของนักเรียนหญิงคนนั้น เขาคิดว่าทำไมเธอคนนั้นถึงไม่ค่อยชอบใจเวลาที่แสงแดดส่องโดนตัวของเธอ ทำไมกันนะ ทั้งๆ ที่แสงแดดนั้นไม่ได้ร้อนมากเมื่อเทียบเท่ากับเวลาเที่ยงและบริเวณทะเลสาปก็มีอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายพอสมควร ทำไมกันนะ สเนปได้แต่สงสัย

    ขณะนั้นเอง ลิลี่ เอฟเวนส์ เดินตรงมายังที่สเนปนั่งอยู่

    ลิลี่นั้นอารมณ์ดีและมีความสุข เธอยิ้มกว้างเมื่อได้พบสเนป

    สเนปเองสงสัยว่าทำไมลิลี่ถึงอารมณ์ดี เขาจึงถามลิลี่ “ทำไมเธอดูมีความสุขนัก เธอคงทำข้อสอบวิชาแปลงร่างได้ดีสินะ”

    ลิลี่ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายแห่งความสุข เธอตอบกลับ “อืม…สอบครั้งนี้ ฉันมั่นใจมาก เพราะฉันเองก็ทำข้อสอบได้อย่างสบายๆเลยล่ะ”
    ลิลี่ถามกลับ “แล้วเธอล่ะ สเนป เธอทำข้อสอบได้รึเปล่า”

    เขายิ้มแบบเจื่อนๆ พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
    ลิลี่นั่งลงตรงข้ามสเนป

    ลิลี่เองก็จับสังเกตอาการของสเนปได้ เธอเอื้อมมือไปจับไหล่ของเขาพร้อมกับพูดว่า “เอาน่า ในการสอบครั้งต่อไป เธอต้องทำได้แน่นอน ฉันเชื่อแบบนั้น”

    เมื่อสเนปได้ยินคำตอบของลิลี่ เขาจึงมีท่าทีที่ดูสบายๆ ขึ้น

    เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ทั้งสเนปและลิลี่นั่งหันหลังพิงกันอยู่

    จู่ๆ ศีรษะของลิลี่เริ่มตกลงมายังตรงไหล่ของสเนป เธอกำลังหลับอยู่
    “เธอหลับแล้วสินะ” สเนปพูดเบาๆ “ฉันอยากหยุดเวลาตอนนี้จัง ฉันไม่อยากให้มันผ่านไปเลย…”

    สเนปมองไปยังทิวทัศน์ แสงของดวงอาทิตย์ยามเย็นช่างสวยงามเหลือเกิน

    สเนปรู้สึกมีความสุขมาก มากจนทำให้เขายิ้มออกมา

    บริเวณริมทะเลสาปไม่มีใครนอกจากตัวเขาเองและลิลี่
         
    สเนปพยายามนั่งนิ่งให้มากที่สุด เพื่อให้ลิลี่ได้หลับอย่างสบาย
         
    เวลาดำเนินผ่านไป จนกระทั่งแสงของอาทิตย์เริ่มหมดลง
         
    ลิลี่ตื่นขึ้น พร้อมกับยกมือขยี้ตาอย่างงัวเงีย เธอนั่งหันหน้ามายังสเนป ซึ่งสเนปเองก็ทำแบบเดียวกัน
         
    “นี่ฉันหลับไปนานแค่ไหนแล้ว” ลิลี่ถามสเนป
    “ไม่รู้สิ ฉันก็นั่งมองทะเลสาปเพลินเหมือนกัน” สเนปตอบ
          
    ลิลี่ลุกขึ้นยืน เดินมายังตรงหน้าสเนป “เฮ้อ…ช่างมันเถอะ ไปกินข้าวกัน นี่ก็ได้เวลามือค่ำแล้ว” ลิลี่พูด
    "อืม ฉันก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน" สเนปตอบ พร้อมกับที่เขาลุกขึ้นยืน
         
    ทั้งสองเดินกลับเข้าไปในปราสาทพร้อมๆ กับที่แสงอาทิตย์ยามเย็นหมดลง
    ………………………………………………………………………………………………………

    “ไม่มีอีกแล้วรอยยิ้มที่สดใสของเธอ... และคงไม่มีอีกแล้วที่แสงอาทิตย์ยามเย็นจะสวยงามแบบวันนั้น” สเนปพูดขึ้น พร้อมกับที่เขาค่อยๆเดินออกจากสุสาน และหายตัวไป
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in