หลงชอบตั้งแต่เทรลเลอร์แรกและตั้งใจจะไปดูให้ได้ และวันนี้ก็ได้ดูแม้ว่าตอนแรกที่ไปอ่านรีวิวมา มะเขือเทศให้คะแนนไม่ค่อยดี คนก็รีวิวไม่ค่อยดี ไม่ค่อยมีรอบอีกก็สงสัยว่าหรือมันจะไม่ค่อยสนุกหรือเปล่า แต่ด้วยความหลงภาพสวย และความโรคจิตก็หยุดเราเอาไว้ไม่ได้

เป็นหนังที่ภาพสวย แต่ว่าเข้าใจยากนิดนึง เพื่อนเราก็ต้องให้เราอธิบายให้ฟัง และมีปมที่ให้ถกอยู่หลายประเด็น ส่วนตัวคิดว่าเวลาของหนังนานมาก และบางอย่างก็สามารถตัดออกแล้วใส่เรื่องอื่นลงไปได้ทำให้หนังดูมีมิติ เราคิดว่าหนังมันยังทำลึกกว่านี้ได้อีกนะ ตอนจบสรุปง่ายๆ ไปหน่อย ไม่ค่อยเคลียร์อย่างที่คิด ไม่หักมุมเลยสักนิด เราว่ามันยังเดาง่ายมาก เมื่อเทียบกับ shutter island หรือ stonehearst asylum แล้ว และไม่มีความบ้าเท่า ออกแนวเรียบหรูมากกว่า แต่เรื่องแสงโทนและภาพ เราว่าเรื่องนี้กินขาด หลอนแทบฉากสวยมาก เล่นเอาไม่อยากกินลอดช่องที่เหมือนกับตัวเจ้าปลาไหลเลยทีเดียว น้ำเปล่าก็ดูไม่สะอาดอีกต่อไป มีฉากให้หวาดเสียวน่าปิดตาเยอะกว่าสองเรื่องข้างบน ไม่ค่อยน่ากลัวแต่ชอบทำให้คิดไปเองว่ามันจะทำให้ตกใจ ชอบนางเอกและธีมของหนังมาก 

 

แนะนำสำหรับคนชอบมองภาพ และชอบความลึกลับ 

คะแนนความหักมุมให้ 2

แต่คะแนนพิศวาสให้ 8

รวมๆ คิดว่าน่าจะสัก 6.5/10 นะ เนื้อเรื่องไม่ค่อยแปลกใหม่เลยได้แค่นี้นะ 

ตั้งแต่บรรทัดนี้ลงจะรีวิวไปแบบไม่สน*สนแตดใดๆ ทั้งสิ้น จะเป็นหมีเถื่อนพร้อมขย้ำแล้วนาจา

เรามานั่งรถไฟไปฮอกวอตกันเถอะ ที่ๆ สลิธีรินดันเป็นใหญ่ควบคุมทั้งโรงเรียน 

นี่มันสลิธีรินปลอมนี่ มันเป็นปลาไหล 

ภาพเนี่ยมีความธีม the matrix สีเขียวมากๆ พระเอกก็เป็นแฮร์รี่ ออสบอร์นมาก่อน เป็น green goblin เขาผู้ที่เคยเล่นกับ harry potter ในเรื่อง kill your darlings จะได้มาเจอกับชาวฮอกวอตอีกครั้ง

ครั้งนี้เขาได้เลยกับคุณลูเชียส มอลฟอย และนั่นทำให้เขาน่าจะไปอยู่ในบ้านสลิธีรินเรียบร้อยแล้ว

นอกจากเขาจะเล่นเป็นคุณพ่อใจร้ายไปแล้ว เขาก็จะเล่นเป็นคุณพ่อใจร้ายอีกครั้งหนึ่ง ในบทของชายผู้คลั่งเลือดบริสุทธิ์อีกครั้งหนึ่ง ผู้อยู่ในบ้านที่มีสัญลักษณ์เป็นเหมือนงูอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้มีลูกเป็นมอลฟอย เขาจึงกลายมาเป็นคุณลุงโรคจิตข่มขืนสาวๆ แทน ซึ่งตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ...

red skull แต่เปลี่ยนเป็นสีเขียวนั่นเอง ก็ว่าอยู่พล็อตมันคุ้นๆ จากที่ไหน เขาคือ green skull ที่มาสู้กับ green goblin นาจา

หลายคำถามที่ถามเพื่อนหลังออกมาจากโรงคือว่า หลังจากนี้พระเอกจะพานางเอกกลับบ้านยังไง ไม่มีเงินสักบาท พาสปอร์ตก็ไม่มี หรือว่าจะอยู่สวิสต่อไป แล้วถ้าน้ำมันทำให้แก่ช้า ทำไมไม่ให้นางเอกอายุ 18 ก่อน แล้วค่อยดื่มน้ำยา จะได้มีลูกมีหลานเต็มบ้านเต็มเมือง แล้วทำไมเด็กที่โยนลงน้ำบาดาลไม่โดนปลาไหลกิน แล้วทำไมหมอกินน้ำถึงไม่เป็นไร แล้วงูมันไปได้ทุกที่ทำไมท่อไม่ตัน ปลาไหลกินคนได้จริงหรอทำไมเข้าไปในตัวเราแล้วไม่กิน แต่ลงบ่อแล้วกิน แล้วพวกแท้งค์ที่แช่คนในน้ำเอาไว้ทำอะไร แล้วคนจะเข้าไปในโรงบาลทำไมถ้าไม่ป่วยตั้งแต่แรก ใช่ว่าโรงบาลจะใกล้มาก แวะไปแล้วแวะกลับได้

ที่สำคัญคือ.... นางเอกจะตายไหมตอนจบ จะได้รักกันไหมมมมมมม

ความจริงชอบมากอยากได้ภาคสองนะเนี่ย ถ้าเรื่องนี้ปูเรื่องมาดีนะ ถ้าทำเป็นแค่ภาคแรก แต่ดูจากรายได้แล้วน่าจะไม่มี สงสารเหลือเกิน

แอบหวังให้ตอนจบมีโควตดีๆ ที่แบบเปรียบเทียบเป็น metaphor ระหว่างสังคมการทำงานกับชีวิตที่มีความสุข ที่แท้จริงแล้วเราก็แค่หวังชีวิตเรียบๆ ไม่ต้องร่ำรวยหรือสำเร็จมากหรือมีชีวิตยืนยาวมากเหมือนที่คนขับรถว่าไว้ ยิ่งรวยมากก็ยิ่งมีปัญหามาก แต่ผกก.เล่นกับประเด็นนี้น้อยไปหน่อย อาจจะเป็นเพราะเล่นกันหลายประเด็นเลยเล่นยาก 

a cure for wellness เป็นชื่อที่ดีและตรงตัวมากอ่ะ พวกนั้นหายาให้ความสบายอยู่ไปนานๆ ของตัวเอง พระเอกก็ได้ยาจากชีวิตที่ไม่มีความสุข ทะเยอทะยานมากเกินไปจะไม่งาม สงสารคุณพ่อที่รอมาหลายร้อยปี แต่ก็โดนฆ่าเสียนี่ น่าสงสาร 

ฉากนี้ชอบมากกกกก ไปดูนะ มันสวยจริงกระทิงแดง อยากไปสวิสเลย

ปิดท้าย