เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Juveniliaผู้เฝ้ามอง
[Pennywise] Eat You Alive 1

  • มันมีชีวิตอยู่มากว่าสามล้านปี

    แต่มันไม่เคยเจอเหยื่อรายไหนที่น่ากินจนชวนให้น้ำลายสอมากเท่านี้มาก่อน


    เด็กใหม่แห่งเมืองเดอร์รี่เป็นเหยื่อชั้นดีที่เพนนีไวซ์ให้ความสนใจเสมอ เพราะคนพวกนี้เป็นพวกที่ล่อลวงได้ง่ายที่สุด เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์รักถิ่นฐานของตัวเอง การเคลื่อนย้ายถิ่นฐานจากเดิมและปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ ย่อมสร้างความหวั่นวิตกให้มนุษย์ไม่มากก็น้อยเสมอ อารมณ์เป็นเหตุผลของความอ่อนแอ สรรพสัตว์ที่อ่อนแอเป็นอาหารแก่ผู้ล่า และมนุษย์ที่เปราะบางเยี่ยงนี้จะไม่กลายเป็นอาหารให้แก่มันได้อย่างไร?


    เด็กใหม่ที่ย้ายมาจากประเทศญี่ปุ่นคือเป้าหมายของมัน หล่อนดึงดูดสายตาของมันนับตั้งแต่วินาทีแรกที่หล่อนเหยียบย่างเข้าสู่ผืนดินแห่งแดนเดอร์รี่ แม้ว่ามันจะไม่ได้พิศวาสรูปร่างหน้าตาของมนุษย์ แต่ก็จำต้องย่อมรับว่าเด็กสาวผู้นี้มีรูปลักษณ์พิลาศล้ำชวนมองยิ่ง ทั้งหู ตา จมูก ปาก ไฝเล็ก ๆ ที่ใต้ตาข้างซ้าย ผิวขาวกระจ่างและผมดำขลับตามแบบฉบับมนุษย์เอเชีย(ที่ไม่ค่อยมีมากนักในเมืองเดอร์รี่) หล่อนเหมือนกับเค้กชั้นดีในภัตตาคารที่ถูกบรรจงสร้างสรรค์อย่างงดงามด้วยฝีมือเชฟชั้นยอด ความสวยของหล่อนชวนให้มันน้ำลายสอ อยากกัดขย้ำและกลืนกินความงดงามนั้นให้สาแก่ใจ  


    นอกเหนือจากนั้น เด็กสาวผู้นี้มีกลิ่นที่แสนประหลาด กลิ่นที่มันไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนตลอดช่วงอายุขัยนับสามล้านปี ไม่เหมือนกลิ่นของอาหาร ไม่เหมือนกลิ่นของดอกไม้ และไม่เหมือนกลิ่นของน้ำหอม(ที่มันเกลียดแสนเกลียดจนอยากอาเจียนทุกครั้งที่เผลอกินเหยื่อที่ใส่น้ำหอม) กลิ่นของหล่อนเป็นกลิ่นอันหอมหวนที่ชวนให้มึนเมา ลุ่มหลง คลั่งไคล้ และกระหายเป็นอย่างยิ่ง เป็นกลิ่นที่มันสามารถสูดดมได้อย่างไม่รู้เบื่อ และในบางครั้งก็ทำให้มันแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ อยากกระโจนออกจากเงามืด เปิดเผยตัวตนและฉีกทึ้งหล่อนให้เป็นชิ้น ๆ ไปซะ นั่นไม่ใช่สิ่งที่มันเคยรู้สึกกับเหยื่อรายไหนมาก่อน และไม่ใช่นิสัยของเพนนี ไวซ์ผู้ชอบปั่นหัวเหยื่อแม้แต่น้อย ดูราวกับว่ากลิ่นของหล่อนกำลังเป็นฝ่ายปั่นหัวมันเองเสียมากกว่า


    และไม่ใช่แค่มันเท่านั้นที่คล้ายว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ผู้ชายทุกคนในเมืองเดอร์รี่ก็ไม่ต่างกัน คนพวกนั้นหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวเหยื่อคนพิเศษของมันอย่างยิ่ง เสมือนผึ้งที่สิโรราบต่อนางพญาผู้เป็นใหญ่ในรัง ไม่ว่าหล่อนจะเดินไปที่แห่งหนมุมใดในเมืองนี้ ก็ล้วนถูกจับจ้องอย่างปรารถนาและหิวกระหายจากผู้ชายทุกคนในเมือง มันสังเกตเห็นเสมอ และทำให้มันหงุดหงิดงุ่นง่านที่มันไม่ใช่แค่คนเดียวที่ต้องการหล่อน พวกมนุษย์ชั้นต่ำพวกนั้นมีสิทธิ์อะไรมาหมายตาหล่อน หล่อนเป็นเหยื่อของมันไม่ใช่เหยื่อของใครอื่น เด็กสาวคนนั้นจะต้องเป็นของมันแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น


    ความร้อนใจทำให้มันเริ่มต้นแผนการโดยทันที มันพยายามค้นหาลึกเข้าถึงความทรงจำของหล่อน ขุดค้นเอาความเจ็บปวดและความกลัวที่ซุกซ่อนอยู่ลึกใต้จิตสำนึกเพื่อเล่นกับเหยื่ออย่างที่มันชอบทำอยู่เสมอ แต่สิ่งที่มันค้นพบกลับมีเพียงความว่างเปล่า ว่างเปล่าราวหน้ากระดาษขาวสะอาดใหม่เอี่ยมที่ไม่เคยถูกแต่งแต้มด้วยหยดหมึก ไม่มีอะไรเลยในห้วงคำนึงสักอย่างเดียว มันฉงนใจอย่างยิ่ง แสนประหลาดและน่าพิศวง มันไม่เคยพบเจอมนุษย์คนใดที่ว่างเปล่าเฉกเช่นเด็กสาวผู้นี้มาก่อน แม้แต่มนุษย์ที่แสนดีที่สุดก็ยังมีความชั่วช้าอยู่ในใจ แต่หล่อนกลับไม่มี นี่เป็นมนุษย์แบบไหนกันแน่?


    มันต้องการเธอ ความคลุ้มคลั่งบีบคั้นมันจนไม่อาจสงบใจไว้ได้อีกต่อไป เฉกเช่นเดียวกับผู้ชายคนอื่นในเมืองนี้ จนกระทั่งวันก่อการมาถึง วันที่พวกเด็กนักเรียนชายหัวโจกของโรงเรียนเดอร์รี่ได้หลอกล่อหล่อนที่เป็นเด็กใหม่ไปที่บ้านร้างบนถนนเนลโบลต์29 ที่ซึ่งลับตาผู้คนและเป็นเขตแดนของมัน มันจ้องมองดูผ่านมุมหนึ่งในบ้าน มองดูหล่อนในชุดเดรสสีแดงตัดกับผิวขาวสดใส ใบหน้าเรียบเฉยราวกับไม่ยี่หระต่อสิ่งใดบนโลก หล่อนมองดูกลุ่มชายตรงหน้าด้วยแววตาแบบเดียวกับที่มันใช้มองมนุษย์เสมอ เป็นแววตาที่กำลังมองดูพวกที่ต่ำกว่าตัวเอง


    น่าสนใจ มันคิดเช่นนั้น


    เรื่องเริ่มต้นที่พวกผู้ชายพวกนั้นพยายามจะลวนลามหล่อน แต่หล่อนปัดป้องปฏิเสธอย่างเย่อหยิ่ง ไร้ซึ่งความกลัวปรากฏในความคิดและสีหน้า ทั้งยังกล่าวเหยียดหยามดูถูกดูแคลนใส่คนพวกนั้นไม่หยุดหย่อน นั่นไม่ใช่สภาพของเด็กสาวน่าสงสารที่ถูกหลอกลวงเลยแม้แต่น้อย แล้วมันก็ได้เห็นว่าพวกผู้ชายเริ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จากความลุ่มหลงเสน่หากลายเป็นความคลุ้มคลั่งเช่นเดียวกับที่มันได้รู้สึกกับหล่อน ในแววตามนุษย์ชั้นต่ำพวกนั้นมีแต่ความกระหายเลือดอันไร้สติ หนึ่งในนั้นหยิบมีดขึ้นมา และมันก็รู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ไอ้มนุษย์สารเลวกำลังคิดจะฆ่าเหยื่อที่มันหมายตามาเนิ่นนาน เหยื่อของมันเพียงผู้เดียว มันเท่านั้นที่มีสิทธิ์จะฆ่าหล่อน ไม่ใช่มนุษย์สวะชั้นต่ำพวกนี้


    มันจึงปรากฏตัวขึ้นเพื่อฆ่าเด็กนักเรียนชายพวกนั้นจนหมดสิ้น ฉีกกระชากร่างจนแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี เลือดและเนื้อกระจัดกระจายไปทั่ว ไม่ใช่การฆ่าด้วยความหิวกระจายหรือความสนุกอย่างที่แล้วมา แต่เป็นความโกรธเกรี้ยวที่เกือบจะถูกแย่งเหยื่อของตัวเองออกไป เมื่อจัดการกับเศษสวะรายสุดท้ายเสร็จสิ้น มันจึงเงยหน้ามองผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของที่นี่ หล่อนยืนอยู่ตรงนั้น เหนือซากศพของสิ่งที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อน สีแดงของเลือดกลมกลืนไปกับสีแดงของชุดเดรสหล่อน หล่อนมองมันตาไม่กะพริบ ดูไม่แปลกใจและไม่หวาดหวั่นกับรูปลักษณ์ตัวตลกของมัน


    กลิ่นของหล่อนคลุ้งในจมูก หอมหวนเสียจนมันต้องขยับเข้าไปใกล้เด็กสาวอย่างไม่รู้ตัว หล่อนอยู่ใกล้มาก ใกล้จนมันไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป ไม่มีการเล่นเกมแล้ว มันต้องการเธอเดี๋ยวนี้และตอนนี้ มันอ้าปากกว้าง โชว์แผงฟันแหลมเรียงเป็นซี่เหมือนกับฟันของฉลาม หล่อนยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ถอยหนีหรือกรีดร้องเหมือนกับเหยื่อรายอื่นมันได้พบเจอมา มันประหลาดใจล้นเหลือจนเกิดการลังเลขึ้นชั่วขณะ


    แต่ในท้ายที่สุดมันก็กินเธอจนได้ มันขย้ำเหยื่อตรงหน้าทั้งที่ยังมีชีวิต กัดกลืนเลือดเนื้ออันหอมหวานไม่แพ้กลิ่นกายของหล่อนลงท้อง มันตระหนักได้ว่าหล่อนเป็นรสชาติของมนุษย์ที่อร่อยที่สุดที่มันเคยกินมาในชีวิตนี้ รสหวานล้ำกลมกล่อมอบอวลในปากชวนให้อยากกินมากขึ้นไป และเพียงพริบตาเดียวหล่อนก็เหลือเพียงกระดูกและเศษเนื้อเล็กน้อยเท่านั้น แต่มันยังโหยหิวกายของหล่อนอยู่ดี รู้สึกว่ากินเท่าไรก็ไม่พอ และในเวลาเดียวกันมันก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง เด็กสาวผู้นี้เป็นเหยื่อที่อร่อยล้ำและน่าสนใจอย่างยิ่ง มันอยากจะเล่นกับหล่อนให้นานกว่านี้ แต่การควบคุมตัวเองช่างยากเย็นเหลือเกินสำหรับเหยื่อแสนแปลกประหลาดอย่างหล่อน


    มันเก็บซากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเด็กสาวแสนงดงามขึ้นมา ตั้งใจเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงเหยื่อที่มันชอบที่สุดในรอบล้านปี แล้วจึงล่าถอยกลับลงไปยังท่อน้ำเสียที่เป็นรังลับของมัน มันคงไม่มีอารมณ์ล่าเหยื่อรายใหม่อีกนานทีเดียว เพราะคงไม่มีเหยื่อรายไหนที่เป็นเหมือนหล่อนอีกแล้ว หล่อนคือของล้ำค่าที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น ไม่อาจหาใครอื่นมาทดแทนได้


    มันคิดว่าจะจำศีลไวกว่ากำหนดเสียหน่อย อย่างน้อยอีกยี่สิบเจ็ดปีข้างหน้าอาจทำให้มันเลิกนึกเสียดายเหยื่ออย่างหล่อนแล้วก็ได้ มันหลับตาลงอย่างสงบนิ่ง ลมหายใจผ่อนปรนเตรียมเข้าสู่ห้วงนิทราลึก ทันใดนั้นกลิ่นอันหอมหวนก็ลอยเข้าจมูก มันจำกลิ่นนี้ได้ดียิ่งนัก กลิ่นหอมเฉพาะแบบเดียวกับกลิ่นกายของเหยื่อสาวรายล่าสุดของมัน มันลืมตาโพล่ง ประกายตาเหลืองวาวโรจน์ แล้วมันก็เห็นเด็กสาวคนนั้นอยู่ในรังของมัน ในจุดที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเศษซากของหล่อนที่มันได้เก็บเอาไว้ ร่างกายของหล่อนเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม เผยผิวขาวกระจ่างใสไร้รอยตำหนิ บริสุทธิ์งดงามเหมือนเทวรูปจากแดนศักดิ์สิทธิ์


    เด็กสาวยืนขึ้น ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหามัน เป็นครั้งแรกที่มันรู้สึกได้ถึงความกลัวของตัวเอง กลัวในสิ่งที่ไม่เข้าใจและหล่อนคือสิ่งนั้น หล่อนฟื้นคืนขึ้นจากซากศพด้วยรูปลักษณ์เหมือนเดิมทุกระเบียบนิ้ว ราวกับความฝันที่กลายเป็นจริง มันรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่เหยื่อธรรมดาที่มันเคยประสบพบเจอ หล่อนเป็นเหยื่อที่พิเศษ เป็นสิ่งที่มันไม่มีวันจะเข้าใจ ไม่ใช่ทั้งมนุษย์ ไม่ใช่ทั้งปีศาจ ไม่ใช่ทั้งนางฟ้า


    หล่อนเป็นตัวอะไรกันแน่?


    หล่อนหยุดอยู่ตรงหน้ามัน ใกล้เพียงแค่เอื้อมมือเท่านั้น ใกล้จนลมหายใจสอดประสานเป็นหนึ่ง ส่งกลิ่นหอมไม่หยุดจนชวนให้มันมึนเมาอย่างบอกไม่ถูก เลือดในกายร้อนรุ่มเดือดพล่าน และเหมือนหล่อนจะรู้ดีถึงความรู้สึกของมัน รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงามล้ำชวนหลงใหล


    อยากกินฉันอีกหรือเปล่าพ่อรูปหล่อ?”


    กลิ่นกายหล่อนทำให้สติของมันเลื่อนลอย มันจ้องมองมนุษย์สาววัยแรกแย้มตรงหน้าอย่างโง่งมลุ่มหลง อยากสัมผัสผิวขาว ๆ นั่นใจจะขาด มันเลียริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงอันแห้งผากของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง


    แกเป็นตัวอะไรกัน


    เมื่อได้ยินคำถามจากปากของปีศาจตัวตลก หล่อนก็หัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของหล่อนฟังดูสดใสกังวานราวกับระฆังแก้ว หล่อนเหมือนแอปเปิ้ลเคลือบยาพิษ มันคิดเช่นนั้น มันรู้ว่าสิ่งมีชีวิตตรงหน้าแสนอันตรายแค่ไหน แต่มันก็ยังยินดีที่จะกลืนกินยาพิษนี้อยู่ดี


    ฉันคือโทมิเอะไงคะ


    เสียงกระซิบของหล่อนดังก้องในหู ชื่อของหล่อนได้สลักลึกลงในจิตสำนึกของมันตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป


    โอ้ โทมิเอะ โทมิเอะ


    ชื่อของเธอคือโทมิเอะ โฉมงามผู้ล่อลวงให้มนุษย์ลุ่มหลงคลุ้มคลั่งจนเสียสติ โฉมงามผู้ที่ไม่มีวันตายแม้จะโดนฆ่ากี่ครั้งก็ตาม


    มันจะไม่มีวันลืมชื่อนี้ของหล่อนอย่างเด็ดขาด

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in