“ลูกสาวของฉันคือบาปที่ฉันนำมาสู่โลกนี้”
ผู้เป็นมารดาได้กล่าวประโยคนี้ออกมา ก่อนจะสิ้นใจท่ามกลางลูกๆ และนักบวชที่ถูกติดต่อมาเพื่อทำพิธีขอพร หวังให้พระเป็นเจ้าเมตตายื้อชีวิตต่อไปอีก แต่ความเมตตานั้นไร้ประโยชน์ เมื่อพระเจ้าไม่แยแสต่อคำอ้อนวอน หล่อนจึงใช้ลมหายใจห้วงสุดท้ายในชีวิตไปกับการขออภัยต่อพระเจ้าที่ให้กำเนิดตัวเธอขึ้นมา
แม่เป็นคนเคร่งศาสนา แม่เชื่อในพระเจ้าสุดหัวใจ และทำให้ลูก ๆ ทุกคนเชื่อเช่นเดียวกัน ยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เป็นเหมือนใครในครอบครัว
เพราะเธอไม่เชื่อในพระเจ้า แม่จึงเกลียดชังเธอมากกว่าลูกคนอื่น ๆ แม่มักเรียกเธอว่าเด็กซาตานเสมอ แล้วจากคำด่าทอก็ค่อย ๆ พัฒนามาเป็นความเชื่ออย่างจริงจัง จนสุดท้ายแม่ก็เชื่ออย่างเต็มหัวใจว่าเธอคือซาตานมาเกิดจริง ๆ
แม่จึงเริ่มทรมานเธอ บีบบังคับให้เธอสวดมนต์ทุกวัน พยายามทำให้เธอเชื่อในพระเจ้า หล่อนคิดว่านี่เป็นหนทางเดียวเท่านั้นในการชำระบาป คือให้ปีศาจยอมสยบต่อแสงสว่างซะ หล่อนบอกว่ามันคือความรัก และเธอก็สมควรได้รับมันแล้ว
โอ้แม่เอ๋ย หากพระเป็นเจ้าผู้เมตตามีจริงแล้วไซร้ เหตุใดเขาจึงเมินเฉยเมื่อแม่ทุบตีเธอ เหตุใดเขาจึงไม่แยแสเมื่อแม่ร้องขอที่จะมีชีวิตต่อไป เขาเฉยชาต่อทุกสิ่งอย่างในโลก แต่คนก็ยังกราบไหว้สวดภาวนาต่อเขา ช่างเป็นบุคคลเห็นแก่ตัวเสียนี่กระไร แล้วอย่างนี้จะให้เชื่อได้เช่นไรว่าพระเจ้าประเสริฐจริงอย่างที่แม่ว่า
ลมหายใจแผ่วอ่อนลงทุกขณะในช่วงสุดท้ายของชีวี มารดาจ้องมองบุตรสาวคนเล็กของตนด้วยความหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจ เธอยิ้มรับความหวาดกลัวอันหอมหวานนั้น พลันดวงตาสีเขียวของตนก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสว่างดุจดั่งแมวป่า
ถึงแม้สิ่งที่แม่กระทำต่อเธอจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องตามสังคม หรือแม้สิ่งที่แม่คิดต่อพระเจ้าจะไม่จริงก็ตาม แต่มีสิ่งหนึ่งที่แม่คิดได้ถูกต้องเสมอและตลอดมา...
เธอคือซาตานมาเกิดจริง ๆ
เธอมาเพื่อทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของพระเป็นเจ้า เหมือนกับที่แม่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเธอ
(??:????????,????????'? ????,??????)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in