เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
me : 2020panpanmeme
เรื่องเล่าลำดับที่ ๐๐-๐ : ปีเดือนและความสัมพันธ์ที่หล่นหาย
  • เมื่อก่่อนฉันมาที่นี่เมื่อรู้สึกโดดเดี่ยว
    ข้อดีของฉันคือฉันรู้เสมอว่าตัวเองต้องการอะไร
    ฉันรู้ว่า ฉันควรไปที่ไหน และต้องทำอะไร
    ฉันมั่นใจในตัวเองเสมอ

    แต่จู่ๆ 
    ฉันก็กลับกลายเป็นคนไม่รู้อะไรเลย
    ฉันก็รู้สึกไม่ปลอดภัย และ ไร้ซึ่งทิศทาง
    กล่าวคือ ฉันไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป มืดมน — ทุกทิศทาง
    สูญเสียการควบคุม ไม่มีสมาธิพอจะจดจ่อ หรือรับรู้อะไรเหมือนที่เคยเป็น

    ฉันเจอคนเท่าที่จำเป็น
    และเก็บตัวเงียบเชียบ


    เพราะมนุษย์ตัวเป็นๆ ทำให้ฉันแสนเหนื่อย
    และเจ็บปวดอย่างง่ายดาย
    ราวกับว่าหัวใจของฉันเป็นสิ่งเปลือยเปล่าไร้ผิวหนังและกล้ามเนื้อห่อหุ้มอย่างที่มองเห็นอยู่

    เพราะเช่นนั้น
    ฉันจึงกีดกันตัวเองจากมนุษย์
    และเป็นเพื่อนที่หายหน้า
    เป็นเด็กหญิงของครอบครัวที่ทำเป็นงานยุ่งตลอดเวลา

    มีเพียงสมุดบันทึกกองโต ที่อยู่เป็นเพื่อนฉัน
    ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
    (จะนับน้ำตากับผ้าเช็ดหน้าด้วยก็ได้)

    “นานเท่าไหร่แล้ว ที่ไม่เจอกัน”ไม่รู้เหมือนกันว่าลมอะไรหอบมา
    ฉันถึงมาที่นี่ได้ (อีกครั้ง)
    ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเผยตัวเอง
    ยินยอมให้คนอื่นเห็นตัวเองอีกครั้ง

    คิดว่าคงจะเลิกเขียนลงพื้นที่อะไรแบบนี้แล้ว
    แล้วก็ไปเขียนลงสมุดต่อไปเรื่อยๆ
    เพราะรู้สึกว่าตัวเอง ‘ป่วย’
    อืม ป่วยนั่นแหละ นิยามง่ายสุดแล้ว
    วันนี้พอกลับมาอ่าน ที่ตัวเองเขียน
    ก็รู้สึกไม่ชอบตัวเองเลย
    แต่ก็คงทิ้งมันไว้อย่างนั้นแหละ 
    ดูเป็นหลักฐานของการเติบโตอย่างไม่สมบูรณ์
    ที่สมบูรณ์แบบสำหรับฉันที่สุดแล้ว
    จะนับเอาไว้เป็นไทม์ไลน์ชีวิตก็คงได้
    เวลาผ่านไปแล้วกลับมาอ่าน คงรู้สึกพิลึกน่าดู

    ถึงจะบอกว่าหายไปเพราะป่วย
    แต่ก็ไม่ได้ไปหาหมอรักษา กินยาหรอกนะ
    เรียกว่าหายไป ‘เยียวยา’ ตัวเองแล้วกัน
    เพราะส่วนตัวก็ดื้อไม่ยอมหาหมอ
    แล้วก็ไร้วินัยจะกินยาด้วย

    แต่ก็โชคดีของเรา
    ที่เราได้ Counseling อยู่บ้าง...
    แทนการเจอจิตแพทย์ 
    และการเขียนของฉันก็ดูจะเป็นวิธีที่เหมาะเจาะเหมาะสมกับคนอย่างฉัน 
    การเขียน พลานุภาพมาก
    ราวกับเป็นอาวุธทำลายร้าง
    และอุปกรณ์ที่ช่วยชีวิตในขณะเดียวกัน

    [เพราะความคิดแบบนั้น ก็เลยเป็นอีกเหตุผล 
    ที่เลิกเขียนให้คนอื่นเห็น — เพราะรู้สึกว่า 
    ถ้าหากจะเขียนแล้ว 
    ก็อยากให้คนที่เข้ามาอ่านชีวิตเรา 
    ได้อ่านแต่สิ่งดีดี
    หยิบยื่นกำลังใจให้แก่กันหน่ะนะ]

    เราลืมวันเวลาไปสักพัก เลิกคิดเรื่องเวลา 
    แค่อยู่รอดให้ผ่านไปแต่ละวันก็พอแล้ว — เลิกแคร์คนอื่น (ทุกคน)
    ฟังดูอาจจะแย่หน่อย
    แต่นั่นคือการพัก (ใจ) ของเรา
    เราปล่อยตัวปล่อยใจ
    และเผชิญหน้ากับตัวเองทุกวัน
    แทนการเผชิญหน้ากับคนอื่น
    ยอมรับตัวเองในแต่ละวัน แต่ละวัน
    เผชิญหน้ากับร่างปิศาจของตัวเองวันแล้ววันเล่า
    นานทีปีหน จะมีร่างยูนิคอร์นโผล่มา
    ให้ชาวบ้านแปลกใจเล่น 

    วันส่วนใหญ่หมดไปกับการร้องไห้
    และค้นต้นตอของความเจ็บปวดทั้งหลาย
    ที่ทิ่มปักทิ่มแทง ภายในเรา
    — แล้วก็เจอซะด้วย !

    อืมเป็นปีเดือนที่ผ่านไปแบบไม่สนใจใดใดในโลกนี้เลย
    ไม่สนใจมนุษย์คนไหนเลย นอกจากตัวเอง
    ก็ยังฟังดูแย่อยู่ดี :: และนี่คือการตอกย้ำตัวเองชัดๆ !!
    ก็มันเป็นแบบนั้น
    แบบนั้นจริงๆ

    ช่วงที่หายไป
    เกิดอะไรขึ้นเยอะมาก
    อยากเล่าให้ฟังมาก
    ว่า ความสัมพันธ์ของเรามันหล่นหายเพราะอะไร-
    ถึงจะไม่ค่อยแน่ใจว่าจะมีใครคิดถึงเราบ้างมั้ย
    หรือเรามีตัวตนในชีวิตใครหรือเปล่า...
    แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับ — ตอนนี้
    เรารักตัวเองมากพอ ที่จะยอมรับได้ว่า
    ต่อให้ไม่มีใครสักคนรักเรา หรือมองเห็นเรา 
    เราก็จะยังเป็นคนที่มีค่าในสายตาตัวเองได้มากขึ้นจากเดิม

    อืมและตอนที่เขียนนี้เป็นเวลาตีสองแล้ว
    เวลาที่คุ้นเคย
    และเหมาะกับการพรั่งพรูกองทัพความรู้สึกเช่นนี้

    ไว้มาใหม่แล้วกัน :P
    02.2020





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in