เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
"รีหวีด" คล้ายๆรีวิว แต่ไม่ค่อยมีสาระ เน้นหวีดอย่างเดียวSweet cocoa*
Bohemian Rhapsody : ถ้าชีวิตคือทำนอง เธอก็เป็นดังคำร้อง
  • ถ้าพูดถึงวง Queen ในความทรงจำของเราคือเพลง we are the champions , we will rock you และ หน้านักร้องนำ  Freddie Mercury  ที่มีหนวดอันเป็นเอกลักษณ์  แล้วดันไปนึกถึงเฟรดดี้ในการตูน คุโรมาตี้ โรงเรียนคนบวมอีก เพราะมีช่วงนึงติดเรื่องนี้มาก 
    อันหลังเนี่ย ความทรงจำแย่ๆ ฮือออ
    พอเรารู้มา ว่าเขาจะสร้างภาพยนต์ที่เกี่ยวกับวง Queen และ Freddie Mercury ก็ใจจดใจจ่อรอดูมากๆ แถมการปล่อยตัวอย่างแรกออกมาทำเราหวีดหนักสุด เพราะเพลงที่อยู่ในนั้น เราฮัมตามได้หมดเลย เฮ้ยยยยย เพิ่งรู้ว่าเราเคยฟังทุกเพลง แต่ไม่รู้ชื่อเลย แถวจังหวะการตัดต่อและมุมกล้อง ดีมากๆ ดูกี่ครั้งก็ขนลุก เราจึงตั้งเป้าหมายว่ายังไงก็ต้องไปดูเรื่องนี้ในโรงให้ได้ 


    Bohemian Rhapsody (2018) ภาพยนต์บอกเล่าเรื่องราวของวง Queen และ Freddie Mercury ผู้มีเสียงอันทรงพลังที่เป็นเอกลักษณ์แบบฟังปุ๊บรู้ปั๊บว่านี่ล่ะเฟรดดี้ เรื่องราวคร่าวๆเราแค่รู้มาว่า เฟรดดี้เสียชีวิตจากโรคปอดบวมซึ่งเกิดจากโรคเอดส์ และเขามีรสนิยมรักร่วมเพศ  ส่วนประวัติลึกๆทั้งหมดของเขา เราแทบไม่มีข้อมูลเลย มาดูเรื่องนี้เลยกะทำใจโล่งๆ และหวังเต็มเปี่ยมว่าหนังจะพาเราไปรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้างนะ และด้วยความที่รอคอยเรื่องนี้อย่างมาก อยากได้ตั๋วลายพิเศษกว่าตั๋วธรรมดา ก็เลยไปแย่งชิงเล่นเกมจนได้ตั๋วรอบพิเศษมาจนได้ ฮี่ๆ

    ดูทรงผมซะก่อน เฟี้ยวฟ้าวขนาดไหน
    หนังบอกเล่าโดยให้ Freddie Mercury (รับบทโดย Rami Malek) เป็นผู้ดำเนินเรื่อง หนังเล่าแบบตรงไปตรงมาตั้งแต่เริ่มต้นจนจบท่ี่คอนเสิร์ต LIVE AID ที่ยิ่งใหญ่มากกกกกกก  ดูจบแล้วรู้สึกทั้งปลื้มปริ่ม และอิ่มเอมใจ ทั้งมิตรภาพของเพื่อน ความรัก ความผูกพันธ์ของคนรอบตัว ส่วนประกอบสำคัญของการใช้ชีวิต แถมดนตรีประกอบก็ใช้เพลงของควีนมาได้จังหวะอย่างลงตัวแทบทุกซีนเลย ชอบมากๆๆ ดูแล้วรู้สึกว่า ชีวิตเฟรดดี้ทำไมมันเหมือนนิยายขนาดนี้ ถึงแม้สุดท้ายเราจะพบว่าแท้จริงแล้วในหนังมันก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริงหรือ fact ทั้งหมด แต่ในหนังก็มีเรื่องจริงประกอบอยู่เยอะพอสมควร  รู้สึกทึ่งทั้งเรื่องราวของวง Queen และ การแสดงของ Rami นอกจากนั้นหนังยังเป็นส่วนหนึ่งที่ให้เราเปิดใจกับกลุ่ม LGBT มากขึ้นมากจริงๆ
    ซีน Live AID ในภาพยนต์
    ซีน Live AID ของจริงค่ะ ขนลุกมากก คนเยอะมากกก อลังมากๆๆๆ 
    แต่ก่อนเราจะค่อนข้าง "เฉยๆ-ไม่สนใจ" กลุ่มLGBT ซึ่งเราเองก็ไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น จึงไม่สนใจเรื่องพวกนี้เท่าที่ควร แต่พอมาดู Bohemian Rhapsody กลายเป็นว่าเราสนใจชีวิตของเฟรดดี้มากขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก เพิ่งมารู้ว่าเฟรดดี้เรียนกกราฟฟิกดีไซน์(เอ๊า เหมือนกูเลยนี่) เพิ่งมารู้ว่าเฟรดดี้ก็เคยรักผู้หญิงคนนึงมากๆ(เอ๊า ไหนบอกว่าเขาเป็นเกย์) ไหนจะลักษณะท่าทางของเขาที่คนนอกจะดูว่าเขาเหมือน กระเทยมากกว่าผู้ชายแต่พอเราดูเรื่องนี้แล้วรู้สึก เฮ้ย เขาก็คือศิลปินคนนึงอะ คนที่มีศิลปะในหัวใจและเป็นคนอ่อนไหวมากๆ เขาก็คือคนเหมือนเรานี่หว่า ต้องการคนที่รักเรา และเข้าใจเราเท่านั้น ทำไมเราต้องไปตัดสินว่าเขาเป็น เกย์ กระเทยหรืออะไรล่ะ?  
    คุณ Jim Hutton คู่รักของ เฟรดดี้ ที่อยู่กับเฟรดดี้จนวินาทีสุดท้าย
    ยิ่งค้นหาไปเรื่อยก็เริ่มหลงรักเฟรดดี้และสมาชิกวงQueen ทั้งจอห์น (มือเบส เรียนวิศวะ)โรเจอร์(มือกลองเรียนทันตะ) และ ไบรอัน( ทุกคนล้วนแต่เป้นหัวกะทิทั้งนั้น) ดนตรีก็เล่นแต่ก็ไม่ทิ้งการเรียน เฮ้ย เจ๋งว่ะ เราเคยคิดว่าพวกเขาคือศิลปินแบบติสแตกสุดๆ เพราะดูคอสตูมแต่ละคนแต่งตัวก็แบบ เอิ่บบบบบ ที่ไหนได้ นี่มันตัวท็อปล้วนๆ !!! (ลุงไบรอันเป็นนักฟิสิกส์ที่อยู่ในโครงการของนาซ่าด้วยนะ แกกก) แถมทุกคนเป็นเหมือน"เพื่อนแท้" ของเฟรดดี้เลย พร้อมให้อภัยเมื่อเพื่อนตัดสินใจผิด ให้เฟรดดี้ได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก และยอมรับในสิ่งที่เฟรดดี้เป็น ถึงแม้บางทีจะมีทะเลาะกันบ้าง แต่นั่นละคือสิ่งที่เรียกว่า "ครอบครัว"  

    ลุงๆ Queen สมัยยุค 70 น่ารักมากๆเลย
    เราชอบความสัมพันธ์ระหว่างเฟรดดี้ และ Mary Austin มากๆ มันคือความรัก ความหวังดีต่อกัน แต่ไม่ใช่แฟนกัน มันคือรักแท้ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แมรี่คบกับเฟรดดี้จนสุดท้ายเฟรดดี้ยอมรับว่าตัวเองเป็น ไบเซ็กชวล แมรี่ก็เลิกกับเฟรดดี้ไป แต่เธอก็ยังไปมาหาสู่เรื่อยๆ ทั้งสองคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง แต่ไม่เคยห่างกันไปไหน ในวันที่เฟรดดี้หลงทาง แมรี่ก็เป็นคนพาเฟรดดี้กลับบ้าน กลับมาหาเพื่อนแท้ และมิตรภาพที่แท้จริง จนวินาทีสุดท้าย เธอก็ยังอยู่ข้างๆเฟรดดี้เสมอ ความสัมพันธ์แบบนี้มันหายากมากๆ เป็นความรักที่สวยงามแบบไม่ใช่เรื่องชีวิตคู่ แต่มันคือความรักอันบริสุทธิ์ เฟรดดี้เคยบอกว่า แมรี่คือ Love of my life ของเขา ประทับใจมากๆ ตอนเราดูครั้งแรกเราไม่รู้เลยว่าเฟรดดี้เคยมีแฟนเป้นผู้หญิงมาก่อน ตอนที่เลิกกับแมรี่ก็กลัวมากว่าแมรี่จะทิ้งเฟรดดี้ให้เฟรดดี้เหงา แต่สุดท้าย เธอก็คือคนที่พาเฟรดดี้กลับบ้าน โคตรรู้สึกดีเลย... 
    เฟรดดี้และคุณแมรี่ รักแท้ และ ผู้หญิงคนเดียวที่เฟรดดี้รัก


    ที่ชอบโคตรๆเลยคือเหล่านักแสดง!! เรียกว่าถอดมาจากต้นฉบับเด๊ะๆ อย่างกะพ่อลูก!! ยิ่งถ้าได้ตามอินตราแกรมของพวกนาวแล้วจะยิ่งหลงรัก เพราะพวกนางมักจะโพสรูปเบื้องหลังและรูปเล่าความสนิทสนมในกองเสมอ เหมือนได้เห็นQueenอีกรุ่นนึงเลย ตัวจริงก็รักกัน ตัวแสดงก็รักกันอีก เราเรียกพวกนางว่า "โบแรปบอย" ตามไปดูความรั่วในลิ้งได้เลย เห้นแล้วอดอมยิ้มตามไม่ได้จริงๆ  

    ดูตอนแรกนึกว่า มือกีต้าร์(พี่ Gwilym Lee) เป็นพ่อลูกกับลุงไบรอัน!! เหมือนโคตรร 
    เหล่า Bo-Rhap boys
    นำโดย Rami Malek (รับบทเฟรดดี้) Joseph Mazzello (รับบทจอห์น) Gwliym Lee (รับบทไบรอัน) Ben Hardy(รับบทโรเจอร์)
    ความประสาทแดกเริ่มต้นจากการพา แสตนดี้น้องเบน ไปพรีเมียร์ที่ญี่ปุ่นด้วย 5555555555
    และเนื่องจากความคลั่งไคล้ เลยดูไปทั้งหมด 4 รอบ!! (คือ มันเยอะมากสำหรับเรา55) แถมไปขายเพื่อนคนไหนให้ดู พอได้ดูก็กลับมาบอกว่าชอบทุกคนเลย เป็นอะไรที่รู้สึกดีมากๆ(ปกติเราชอบเรื่องไหน มันจะแป้กตลอด555) ที่รู้สึกดีอีกอย่างคือได้ไปดูกับคุณพ่อ (แกเป็นแฟนวงควีนด้วย) พ่อดูจบแล้วบอกว่าชอบมาก แถมยังแอบไปดูเองอีกรอบคนเดียวอีกแหน่ะะะะ ตอนนี้เลยติ่งแตกทั้งพ่อลูก 555

    movie journal ของเราเองงง
    สรุปเลย เป็นหนังเรื่องโปรดที่สุดในปี 2018 เลยจ๊ะ ให้ดูอีกสามสี่รอบก็ไหว ดูกี่รอบก็ปลื้ม แถมตอนนี้ร้องเพลงตามได้หมดทุกเพลงแบบไม่มั่วด้วยนะ อิอิ ออกเป็นแผ่นก็จะซื้อเก็บไว้ มีความสุขกับเรื่องนี้มากๆ 
    ได้เจอเพลงดีๆ ได้เจอนักแสดงน่ารัก และ ศิลปินที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลัง มันเป็นอะไรที่สุดยอดสำหรับเราแล้ว ขอบคุณนะคะที่สร้างสรรค์เรื่องนี้ขึ้นมา ขอบคุณนักแสดงทุกคนด้วยน้าาาา มีความสุขมากที่ได้ติ่งพวกเธอ อิอิ

    ปิดท้ายด้วยรูป Fan art เช่นเดิม ชอบมาก I want to break free 
    ใครยังไม่ได้ดู รีบไปดูนะคะ ไม่อยากให้พลาดหนังดีๆไป 
    แล้วคุณจะกลับบ้านพร้อมเพลงโปรดเพิ่มขึ้นอีกหลายเพลงเลย 







เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in