เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Another quiet dayCrepuscular thing
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน ว่าด้วย บุหรี่
  • เคยเห็นทวิตของนักเขียนคนนึง romantizing บุหรี่ (ซึ่งเขาก็เขียนเตือนไว้ น่ารักมากเลย) แต่เขาไม่เคยสูบบุหรี่เองจริงๆ เลยอยากลองเล่าให้ฟังจากคนที่เคยสูบ (แต่ไม่ได้สูบประจำหรอก) เป็นประสบการณ์และความเห็นส่วนตัว เพราะตอนนั้นก็มีเรื่องที่อยากรู้แต่ไม่รู้จะหาข้อมูลจากไหน ไม่สนับสนุนให้ใครสูบบุหรี่ทั้งนั้น มันไม่ดีต่อสุขภาพ ทั้งตัวเองและคนอื่น และ มัน. เหม็น.

    1.
    ขอเริ่มที่เรื่องกลิ่นหลังจากสูบ จำตอนสมัยอ่านแจ่มใสแต่ก่อน แล้วพระเอกสูบบุหรี่ นักเขียนบรรยายได้แบบ กลิ่นบุหรี่จางๆมันเท่มาก มันผู้ใหญ่ ต่างๆ ราวกับเป็นน้ำหอม ตัดภาพมาที่ความจริง มันเหม็นมาก และกลิ่นล้างออกยากมาก ส่วนใหญ่จะฝังเน้นในกลิ่นปากและ นิ้ว ที่ถือบุหรี่ ถ้าเปลี่ยนมือที่ถือก็เหม็นทุกนิ้วที่จับ ก่อนสูบไม่เคยมีใครพูดถึงเลย ขนาดแปรงฟัน ล้างมือด้วยสบู่เน้นๆยังเอาไม่ค่อยออก แถมกลิ่นติดเสื้อผ้ากับผมด้วย แต่ไม่เยอะเท่า ถามว่าเหม็นแบบไหน กลิ่นมันเฉพาะตัวมาก แต่เหม็นแบบ เบือนหน้าหนีไม่อยากได้กลิ่น แต่กลิ่นไม่ค่อยฟุ้ง ต้องดมใกล้ๆหน่อย เป็นเหตุผลหลักๆที่ทำให้ลด ละ เลิก เพราะไม่ชอบเวลามือติดกลิ่นบุหรี่

    2.
    ร้อน-เย็น บุหรี่มีหลายแบบ มีแบบเย็น ร้อน เย็นมากเย็นน้อย หลายขนาด (เช่น slim) ราคามีทั้งแพง ทั้งถูก  ให้กลิ่น(โดยเฉพาะเวลาสูบ)ต่างกันไป ที่นิยมในหมู่คนอายุไม่มากคือแบบเย็นเพราะสูบง่ายกว่า กลิ่นไม่แรงเท่า (เวลาสูบ หลังสูบก็เหม็นเหมือนเดิม..) บุหรี่แบบเย็น ให้ความรู้สึกเย็นแบบมิ้นต์ มีแบบที่ผสมกลิ่นด้วย เท่าที่เจอจะเป็นแบบเม็ดบีทกลมๆแข็งๆตรงก้นกรอง ต้องบีบให้แตกก่อนสูบ กลิ่นมีให้เลือกหลากหลาย มีแบบสองกลิ่นในหนึ่งอันด้วย ราคาก็จะสูงกว่าแบบร้อน เท่าที่เคยซื้อในไทยราคาประมาณ 150 บาท (ไม่ได้อัพเดทนานแล้ว) แต่สูบบ่อยๆแล้วรู้สึกเลี่ยนยังไงไม่รู้...

    บุหรี่ร้อนจะกลิ่นแรงกว่า ราคาก็มีทั้งถูกและแพง ถ้าอย่างแพงๆก็เช่น Malboro อย่างถูก เช่น Camel L&M รู้สึกเหมือนจะมีความเข้มหรือร้อน(?)ไม่เท่ากัน แต่ละรุ่นก็สีต่างกันไป

    # เคยอ่านเจอสักที่บอกว่า ถ้าบีบเม็ดบีททิ้งไว้นานๆกลิ่นจะเข้มขึ้น แต่ไม่รู้จริงไหม เพราะบีบแล้วก็สูบเลยตลอด

    3.
    นอกจากแบบหลากหลายที่ว่ามา ก็มีเรื่องของปริมาณนิโคติน/Tar ในรุ่นที่เคยสูบ บุหรี่เย็นที่เคยสูบจะเขียนไว้เป็นเลขหน้าซอง เคยเจอ 1 5 8 ซึ่งสื่อถึงปริมาณ Tar เป็นมิลิกรัม (mg.) ในบุหรี่ส่วนใหญ่อยู่ที่ 8-20 mg. ยิ่งเลขเยอะ ยิ่งรู้สึกมึนมากขึ้น และเร็วขึ้น

    4. 
    ความรู้สึกตอนสูบไปสักสองสามที มันรู้สึกแบบ มึนๆ เบลอๆ แต่ไม่มาก (แล้วแต่ปริมาณ) คล้ายๆตอนกินเหล้ากรึ่มๆ แต่คนละแบบกัน มึนกว่า ตึงๆ 

    5.
    ถ้าสูบบุหรี่ตอนกินเหล้า จะเมากว่าเดิม แต่ไม่ได้เมาแบบเมาเหล้ามากๆ เมาแบบมึนๆ (พูดว่ามึนไปกี่ครั้งแล้วนะ?)

    # มีเด็กวิศวะเคยบอกว่าถ้าสูบบุหรี่ตอนกินเหล้าจะทำให้ไม่เมาเหล้าแล้วกินได้เรื่อยๆ แต่เด็กวิศวะคนนั้นไม่ได้เรียนสายวิทย์สุขภาพ ในด้านของความน่าเชื่อถือนั้น ไม่รู้เลย..

    6.
    มี social smoker ที่สูบบุหรี่เฉพาะเวลาคนอื่นสูบด้วย เวลาทำงานจะมี cigarrette break ที่คนออกไปสูบบุหรี่พร้อมกัน แล้วก็จะกลายเป็นวงสนทนาเล็กๆ บางคนก็สูบบุหรี่เพื่อกระชับมิตร... มันมีอยู่จริง บางครั้งก็ได้ผลจริงๆด้วย

    7.
    chain smoker คือคนที่สูบบุหรี่ต่อกันหลายๆมวน คือพอสูบอันนึงเสร็จ ก็จุดอันใหม่มาสูบต่อเลย การสูบแบบนี้ทำให้วันนึง คนๆนึงสามารถสูบได้ปริมาณมาก (เคยได้ยินคนที่สูบวันละซอง... ซองนึงมี 25-30 มวน) 

    8.
    สูบบุหรี่ครั้งเดียวไม่ได้ทำให้ติด ถ้าไม่เจออีก เข้าถึงไม่ได้ ส่วนตัวไม่ได้ติดนะ แค่อารมณ์อยากรู้มากขึ้นมากกว่า คนที่ติดบุหรี่จริงๆคือ สมองขาดไม่ได้ ไม่ได้สูบแล้วมือสั่นต่างๆ เพราะสมองเคยชินกับปริมาณนิโคตินและต้องการมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อให้รู้สึกมึนเท่าเดิม หรืออาจจะเคยชินจนไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ถ้าไม่สูบ ถ้าเห็นคนสูบบุหรี่แล้วรู้สึกอยากสูบ จนต้องหยิบมาสูบ คุณอาจจะเข้าใกล้การติดมากขึ้นก็ได้

    มีหลายคนที่ติดเพราะสร้างเงื่อนไข (conditioning) เวลาสูบ เช่น สูบเวลาเครียดเป็นประจำ เพื่อให้ได้รับความมึน เพราะงั้นเวลาที่เครียด ก็จะมองหาบุหรี่เป็นอันดับแรก ไม่แนะนำเลย อันนี้เลิกยากขึ้นไปอีก เวลาเครียดควรหาวิธีรับมือแบบอื่นๆ (ที่ไม่ส่งผลต่อสารในสมองโดยตรง) เช่น ไปเดินสูดอากาศ ไปนั่งมองพระอาทิตย์ตก นั่งคุยกับเพื่อน นั่งคุยกับตัวเอง หาอะไรอร่อยๆกิน ไปนวด ไปออกกำลังกาย ต่างๆ

    9.
    เรื่องสำคัญมาก วิธีสูบบุหรี่ มันไม่ได้ง่ายแบบที่คิด... คนที่หัดสูบใหม่ๆต้องงมนิดนึง ก็จะงงๆว่าทำไมไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย ไม่เห็นมึน หรือเย็น หรืออะไรเลย เวลาสูบเข้า ถ้าควันอยู่ในปากจะไม่รู้สึกอะไรเลย ต้องเอาควันลงคอ (และลงปอด) วิธีคือเหมือนต้องเปิดคอ แบบเวลากลืนอาหาร แต่ไม่ใช่แบบกลืนเข้าไปเลยนะ เสร็จแล้วก็หายใจออก พ่นควันออกมา อธิบายลำบาก แต่ถ้าทำถูกวิธีจะรู้สึกมึนๆ

    10.
    สูบบุหรี่เนี่ย มันก็มีวิธีต่างๆของมัน จับแบบไหน เขี่ยยังไง พ่นควันยังไง (พ่นควันฟุ้งๆ พ่นควันแรงๆเป็นเส้น ออกจมูก ออกจมูกแล้วเข้าปากแล้วค่อยออกปากอีกที (ซับซ้อนเนอะ) คาบบุหรี่ตรงไหน สูดควันยังไง (การคาบไปสูบไป พบว่า awkward มาก ไม่สามารถเอาควันลงคอได้ ประหลาดมากๆ แปลกใจมากๆที่อาแปะทำกันได้)) แต่ละแบบก็บ่งบองคาร์เรคเตอร์ของตัวละครได้ (ถ้าจะเอาไปเขียนนิยาย) ส่วนตัวมันปลีกย่อยมาก เหมือนเอาไว้แค่โชว์สาวเฉยๆ มีค่าพอๆกัน

    # มีคนบอกว่า เวลาคาบบุหรี่ห้ามทำให้ก้นกรองเปียกน้ำลาย (คือให้คาบตรงฟัน) เพราะ ไม่เท่ หรืออะไรไม่รู้ แต่ไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่ ใครรู้บอกที

    11.
    เวลาจุดไฟ ถ้าสูดเข้าไฟจะติดเร็วขึ้น

    12.
    การพ่นควันใส่หน้าคนอื่น = หยาบคายมากๆ ยิ่งถ้าเป็นคนที่ไม่ได้สูบ อาจโดนต่อย

    จบแล้ว
    ขอย้ำอีกที ไม่สนับสนุนให้ใครสูบบุหรี่ทั้งนั้น มันไม่ดีต่อสุขภาพ ทั้งตัวเองและคนอื่น และเหม็นมากจ้า เขียนเผื่อใครอยากรู้ จะได้ไม่ต้องไปลองเอง เป็นความเห็นและประสบการณ์ส่วนตัว (อันน้อยนิด) อาจจะไม่ถูกต้องหรือตรงกับคนอื่น สามารถแชร์กันได้ อยากรู้เหมือนกัน เพราะไม่ได้อยู่ในสังคมคนที่สูบบุหรี่ อิมเมจพระเอกนิยายสุดเท่จะหล่อน้อยลงในชีวิตจริง ฮา 

    ขอย้ำอีกเรื่อง ไม่ได้ต่อต้านคนสูบบุหรี่นะ ไม่ได้มองว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี แค่ ขอสนับสนุนให้เวลาสูบต้องสูบในที่สำหรับสูบบุหรี่เท่านั้น บุหรี่มือสองเสียสุขภาพพอๆหรือมากกว่าคนสูบอีก คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเขาไม่ได้เลือกอยากเป็นมะเร็งหรือรับกลิ่นเหม็นประจำวันจากคนสูบ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in