"
ว่าแต่ผู้สาวบ้านคุณอยู่ที่ใดถ้าว่างผมจะรีบไปต่อให้เมาแค่ไหนก็ไปหาว่าแต่ผู้สาวบ้านคุณอยู่ที่ใดขอกระซิบว่ารักใกล้ๆบ้านอยู่ไหนลองบอกอ้ายมา"
เพลงนี้พี่โอปเปิดลั่นผ่านแท๊ปเลตส่งเพลงหวานผ่านลำโพงของร้านถึง 5 รอบด้วยกัน ยิ่งถ้าฟังดีๆเพลงนี้เต็มไปด้วยภาษาเหนือยิ่งทำให้หัวใจอิฉันสั่นไหวอย่างหนักหน่วง อิฉันตัดสินใจหาเรื่องคุย
"พี่ขา น้องหมาที่ชื่อ เตี้ย มช. เขาตายเพราะว่าไรอ่ะคะ" นั่นแหละตั้งแต่นั้นมาพี่แกก็ไม่หยุดพูดเลย จนเข้าเรื่องเรียนที่มหาลัยเป็นยังไง และหนังสือจิตวิทยาที่อิฉันเสพติดหนักหนามันสนุกตรงไหน วันนี้คุยกันเป็นต่อยหอยเลย ไม่ยักรู้ว่าหน้าดุๆ กับรอยยิ้มปลาวาฬที่ทำให้หัวใจอิฉันพองโต มันส่งกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นให้สารเอนโดฟินหลั่งไหลไปทั่วสมองอย่างพรั่งพรู
แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้สาวมั่น Strong อย่างอิฉันเข่าอ่อนเหมือนสาวทั่วไปที่หวั่นไหวการสบตาชายที่หมายปองจนหน้าแดงแล้วหลบสายตา บิดเนื้อตัว กระดี้กระด๊าหรอกนะ อิฉันน่ะเคารพตัวเองมากเกินกว่าจะตกเป็นทาสความรู้สึกของใครง่ายๆ (ข้อความข้างต้น ปลอมมากค่ะ อิดอก)
ที่นี่อีกครั้ง กับเมนูยาชนิดใหม่ ยูนิคอร์น ชาเบอร์รี่สีแดงเปรี้ยวปรี๊ดผสมเป็นทูโทนตัดกับอัญชันสีน้ำเงินเข้ม เมื่อคนผสมกันกลายเป็นสีม่วงพาสเทล เพราะมีนมสดมาเจือ เมนูมันเริสมากเพราะว่า พ่อหนุ่มปลาวาฬคนนั้นชงให้ ฮ้า...อร่อยจัง
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงันเช่นเคย ไร้บทสนทนาระหว่างหนุ่มสาว อิฉันจำต้องเก็บหนังสือของพี่ฌอน บูรณะหิรัญเข้ากระเป๋าแล้วกลับบ้านเพื่อไปวิ่ง
"น้อง นี่ขยันจังเลยนะครับ อ่านหนังสือบ่อยจัง เห็นอ่านตลอดเลย"
" ค่ะ จริงๆก็อ่านทุกวัน อ่านอังกฤษบ้าง จิตวิทยาบ้าง "
ขนาดนั่งอ่านเงียบๆตั้งนานเขายังสนใจอิฉันอีก วร๊าย นังผี พี่ฌอนเห็นม้อย หนังสือพี่ทำให้หนูผู้เข้าได้ดั่งใจจริงๆ พอตอบไปเท่านั้นก็เม้ามอยอีกแล้วจ้า วันไหนเจอหน้าก็เม้าท์เบอร์สิบไปเลย เคมีเราทั้งสองเข้ากับได้ดีราวกับน้ำเบอร์รี่กับชาอัญชันในแก้วนี้จริงๆ ยูนิคอร์นแก้วนี้พาเราทั้งสองหัวเราะและยิ้มตอบรับกันตลอดเวลา แม้จะนั่งห่างกันเป็นวา แต่เหมือนเสียงเต้นหัวใจเราก็เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
และแล้ววันถัดมาอิฉันเห็นว่ามี "น้องพิม" เพื่อนของน้องปังปอนน่าตาน่ารักแบบสาวญี่ปุ่นมาเพิ่มคนนึง ใจอิฉันสั่นระรัวเกรงว่าสาวคนนี้จะเป็นแฟนพี่โอป อิฉันจิบเครื่องดื่มและอ่านหนังสืิอไปด้วยคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ก็เห็นว่าพี่โอปก็คุยน่ารักกับน้องพิมดี พอออกจากร้าน
ภายในร้าน น้องพิมที่ยืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์ชงเครื่องดื่ม ยื่นมองอิฉันผ่านกระจกอยู่ในร้าน
ส่วนอิฉันมองด้วยสายตาเศร้าอยู่นอกร้านพลางคว้าหมวกกันน๊อคมาสวมเช่นเคย และสังเกตพี่โอปที่นั่งข้างน้องปังปอน กำลังพูดคุยกับน้องพิมอย่างสนิทสนม พี่โอปพลางชี้นิ้วมาที่ฉันกำลังสตาร์ทมอไซต์ พร้อมโบกมือเช่นเคย พออิฉันโบกกลับ พี่โอปรีบคว้าหมอนบนตักตัวเองเอามาปิดหน้าเขินม้วนตัวทันที
ส่วนน้องพิมและปังปอนก็หัวเราะปฏิกิริยาของพี่โอปทันควัน ว้า...ค่อยโล่งใจหน่อยพ่อหนุ่มปลาวาฬ
แม้เราจะเจอกับบ่อยครั้ง และคุยกันทุกครั้ง แต่พี่โอปไม่เคยขอ Contract จากอิฉันเลย นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าพี่เขามีเจ้าของอยู่แล้วทำให้อิฉันกังวลใจหนักต้องโทรไปปรึกษาหมุย ชะนีที่สนิทที่สุดในชีวิต หมุยแนะนำให้ขอ Facebook พี่เขาซะ อิฉันเลยบอกหมุยว่า อิฉันไปคุ้ย Facebook พี่เขาเจอจากเพจร้านตั้งแต่วันแรกที่พี่เขาโบกมือให้แล้ว
อิหมุยถึงกับขนลุกซู่ และหวาดกลัวรัศมีความช่ำชองชะนีแรดอย่างอิฉันที่ควักสกิลโคนันได้ทุกสถานการณ์ อิฉันบอกเลยว่า ถ้าอิฉันชอบใคร ประวัติ ,Facebook หรือ Contract ทั้งหลายก็ไม่มีวันเล็ดลอดสายตาอิฉันไปได้ เพราะถึงไม่รู้จักชื่อ อิฉันก็คุ้ยเจออยู่ดี เพราะความพยายามจากต่อมเสือกของอิฉันมีพลังงานเหลือล้นดั่งปรมาณู
วันพฤหัสของสัปดาห์นี้อิฉันก็มาอีกครั้งแต่เขาไม่คุยด้วยสักแอะอาจเป็นเพราะว่า น้องปังปอนนั่งอยู่ด้วยทางเลยไม่สะดวก และพี่เขาก็เพิ่งรู้วันเปิดเทอมของอิฉันไป 22 มิถุนา ที่ใกล้จะคืบคลานมาทลายความสัมพันธ์ครั้งนี้เสียแล้ว
วันศุกร์ อิฉันกลับไปสลัดความรู้สึกจนหมดสิ้น และไม่เหลือใยดีอะไร กลับมาบอกตัวเองว่าให้ตั้งสติและรักเขาไม่ได้เด็ดขาด เรื่องของเราไม่มีวันก้าวกระโดดไปจนถึงขั้นบันไดคำว่า "แฟน" หรอก อิฉันต้องหักห้ามใจแบบหักดิบ เพราะความสุดโต่งที่มีอยู่ในตัวอิฉันทำให้หลุดจากความโหยหารอยยิ้มปลาวาฬได้ชั่วข้ามคืน พร้อมทั้งให้เพลงของศิลปินสุดโปรด Taylor Swift สวมบทเป็นเพื่อนซี้ปลอบใจในค่ำคืนสุดระทม
วันเสาร์ หลัง Big Cleaning Day เสร็จสิ้น ก็ไปที่ร้านกาแฟ "สัมมะปุ้ย" อีกครั้ง แต่ไปครั้งนี้ต้องขับผ่านหน้าร้านรอบหนึ่งก่อนว่าพี่โอปอยู่ร้านไหม ถ้าไม่อยู่อิฉันจะเข้าไปกินยูนิคอร์น และโชคช่วย น้าแก้ว น้าของน้องปังปอนอยู่ร้านแทน
อิฉันกลับสั่งโกโก้แทน เพื่อจะได้ไม่ต้องนึกถึงใครบางคนให้ช้ำไปมากกว่านี้ สุดท้ายแล้วเหลือบเห็นบัตรสะสมแตมป์ร้านในกระเป๋าตังค์มันครบสิบแก้วแล้ว พร้อมแลกฟรีหนึ่งแก้ว ก็ได้แลกยูนิคอร์นไปเลยจะได้กินเป็นครั้งสุดท้ายและสาบานว่าจะไม่หวนกลับมาที่นี่อีก
ระหว่างที่ดูดยูนิคอร์นได้ครึ่งแก้ว ตัดสินใจจะออกจากร้านทันใดนั้นฟ้าก็ร้อง เมฆครึ้มก้อนใหญ่หนักอึ้งพอที่กลั่นตัวเป็นหยดน้ำกลายเป็นเม็ดฝนโปรยปรายไปทั่วเมือง ทำให้อิฉันไม่กล้าจะเปิดประตูออกไปนอกร้านเลย อิฉันชักลำไย เพราะฟ้าครึ้มอย่างนี้มาตั้งแต่เช้า แต่ดันมาตกเอาตอนอิฉันจะกลับบ้าน
ผ่านไป 10 นาที ก็มีรถเก๋งสีขาว Eco Car จอดหน้าร้านถัดจากมอไซต์ของอิฉัน ให้ตายสินั่นพี่โอป ป้าแป๋ว น้องปังปอน และน้องชายของพี่โอปกำลังลงมาจากรถคันนั้น
" สวัสดีครับ " พี่โอปเข้ามาในร้านพร้อมทักทาย
"สวัสดีค่ะ " อิฉันขานรับและเงยหน้าขึ้นมาพบว่า เขาสวัสดีน้าแก้วนี่หว่า เสีย Look เลยเรา ดีนะไม่พูดดัง
ระหว่างที่ทุกคนเข้ามาในร้านก็เสียงดังเจี้ยวจ้าว พูดคุยกับน้าแก้วอย่างสนิทสนม ป้าแป๋วก็พูดขึ้นว่า
"หนูจ๊ะ เมื่อวานนี้ได้มาร้านแม่หรือเปล่า? " ป้าแป๋วถามด้วยใบหน้าเป็นมิตร
"มาค่ะ" อิฉันยิ้มกลับอย่างเป็นมิตรเช่นกัน
"เนี้ย แม่หนูคนนี้เขามาบ่อย" บอกน้าแก้วด้วยน้ำเสียงเหล่าแม่ๆตั้งโต๊ะเม้าท์มอยกัน
ระหว่างที่อิฉันกำลังเขี่ย Instragram เล่นก็ได้ยินเสียงดังโครมทางซ้ายมือ ปรากฏว่าพี่โอปทำอูคูเลเล่ที่ตั้งโต๊ะโชว์หน้าร้านคว่ำบนโต๊ะ
"อ่าวๆ เห็นสาวแล้วมือไม้อ่อนเชียวนะโอป" ป้าแป๋วแซวเล่น
ส่วนพี่โอปได้แต่ยิ้มแหะๆ เกาหัวด้วยความเขินอายแล้วเดินเข้าหลังร้านไป
ผ่านไป 20 นาทีเศษฝนยังไม่หยุดตก บทสนทนาระหว่างน้องชายพี่โอปและพี่ชายของเขาก็เริ่มต้นขึ้นหลังเคาท์เตอร์ชงเครื่องดื่ม
" นี่ พี่โอปไม่อยากไปร้านเหล้าหรอวันนี้ " น้องชายขี้สงสัย
" ก็อยากไปอยู่นะ ถ้าไม่ติดว่าลูกค้าสวย " อิเวง หมายถึงใครฮ้า ถ้าหมายถึงลูกค้าในร้านกาแฟร้านนี้ล่ะก็ มันคงเป็นอิฉันแน่ๆแช่แป้ง เพราะในร้านนี้มีอินี่ที่นั่งดูดยูนิคอร์นอยู่แค่คนเดียว
อิฉันยังไถมือถือนิ่งเฉย แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น จนกระทั่งสองพี่น้องมานั่งโต๊ะข้างหน้าอิฉันที่สามารถเงยหน้าแล้วเห็นได้เต็มสองลูกกะตา สองพีี่น้องคุยแหย่เล่นกันจนทำให้อิฉันสะดุดอีกประโยค
" เห้ยนี่มันไพ่ Uno นี่หว่าพี่โอป พู่กันอย่างเซียนนะจะบอกให้ " น้องชายอวดอย่างภูมิใจ
" โห ถ้าเจ๋งจริงก็ชวนพี่คนนั้นเล่นสิ " พี่โอปตอกกลับ (เดี๋ยวๆลูก พี่คนนั้นคือไผวะ? ข่อยเบาะ)
" พี่โอปก็ชวนเองดิ "
" ไม่ พี่ไม่กล้า พู่กันนั่นแหละ ท้าดวนพี่เขาเลย " ฉันเริ่มแน่ใจขึ้นมาแล้วว่าหมายถึงใคร ก็อิเจ้ที่นั่งดูดยูนิคอร์นอยู่นี่ไงเฟ้ย โอ๊ย ปริปากชวนดีๆก็ได้ลูก เจ้ก็อยากเล่นจนตัวสั่นแล้วเนี้ย
ทันทีที่อิฉันเหลือบเห็นพี่โอปเดินจากเคาท์เตอร์แล้วย้ายตูดไปแหมะข้างๆน้องพู่กัน อิฉันจึงแสร้งพูดขึ้นว่า "พี่คะ ขอดูไพ่ Uno หน่อยค่ะ " โฮะ โฮะ ไพ่บ้านฉันก็มีย่ะ 1 ตลับ ฉันแค่ทอดสะพานให้เท่านั้นเอง และแล้วพ่อหนุ่มปลาวาฬก็ตกหลุมพรางเข้าให้
"พู่กัน มาเล่น Uno กัน กับพี่เขามา มาๆๆ " พี่โอปยกเก้าอี้มานั่งแจมกันอิฉัน อิฉันทำการจัดโต๊ะให้เหลือพื้นที่ว่างสำหรับสนามวางไพ่แมทนี้ และเหลือบดูสีหน้าพู่กันดูเหวอๆ แล้วพูดว่า "ไปเร็วจังวะ เออๆเล่นด้วยก็ได้"
ระหว่างที่เราเล่นกันอย่างสนุกสนานทั้งตอนสับไพ่ จัดไพ่ที่วางทับกันสูงเป็นหอคอยที่กำลังโย้เย้ทำท่าจะล้ม ปลายนิ้วอิฉันและพ่อหนุ่มปลาวาฬก็แอบสัมผัสกันอย่างนุ่มนวลด้วยความบังเอิญ ท่ามกลางบรรยากาศเสียงหัวเราะของอิฉันผสมกับเสียงพี่โอปที่อบอวลไปด้วยรัศมีตาเขม็งของน้องพู่กัน ที่ดูหน้านิ่งเหมือน The Toys เจ้าของเพลงหน้าหนาวที่แล้ว และทำให้อิฉันรู้สึกขนหัวลุกว่างานเข้าเสียแล้ว น้องคงรู้แน่ว่าเรากำลังจีบกันอยู่ และเอาน้องมาเป็นข้ออ้างว่าเล่นไพ่ Uno หลายๆคนจะได้สนุก พี่ขอโทษลูก
แมทแรกน้องพู่กัน Uno แล้วปล่อยให้เราทั้งสองนั่งเล่นด้วยกันตามลำพัง สุดท้ายพี่โอปชนะอิฉัน และแล้วแมทที่สองก็เริ่มขึ้น แมทนี้อิฉัน Uno เป็นคนแรก ตามด้วยน้องพู่กันและพี่โอป
"หนูกลับบ้านก่อนนะคะ" อิฉันบอกพี่โอป
"ครับ ขอบคุณนะครับ" พี่โอปยิ้มปลาวาฬอีกแล้ว
"หนูหยุดอ่านหนังสือไป 2 แล้วมันดีขึ้นนะคะ"
"อ๋อ พี่ว่าเราเป็นโรค Perfectionist นะ พี่พูดถูกไหม"
"ถูกค่ะ บางทีการไม่สมบูรณ์แบบบ้าง ชีวิตก็สนุกดีนะ" อิฉันสบตาหวานซึ้งใส่
"เราหยุดอ่านตามที่พี่เคยบอกหรือเปล่า" ตาหวานกลับไม่แพ้กัน
"ใช่กัน หนูทำตามที่พี่เคยบอก" อิฉันยิ้มตอบกลับด้วยความภูมิใจ ราวกับลูกศิษย์ที่เชื่อฟังคุณครู
"บางทีการอ่านหนังสือมากไปอาจทำให้น้องเครียด แต่ว่าแบ่งความอ่านหนังสือมาให้พี่บ้างก็ได้นะ" สายตาแบบนี้เหมือนอ้อนกันเบาๆ
พออิฉันออกจากร้าน เสียบกุญแจรถ พี่โอปที่กำลังจัดเก้าอี้ที่สะเปะสะปะให้เข้าที่ใต้โต๊ะแอบส่งยิ้มปลาวาฬทะลุกระจกร้านมาให้ ทันใดนั้นเราทั้งก็โบกมือบ๊ายบายพร้อมกัน อิฉันแทบตกใจว่าทำไมถึงยกมือพร้อมกันเลย นี่ปาฏิหารย์คงเล่นกลกันอิฉันเป็นแน่ ส่วนที่เคยพูดว่าจะดูดยูนิคอร์นแล้วจะหายหัวไปเลยตลอดชีพ คืออยากตบปากตัวเองแรงๆจริงเชียว ไม่รู้ว่ามันจะจบยังไง ไม่รู้ว่าเขาคิดถึงฉันในวันที่อิฉันกลับมอไหม ต้องรอดูต่อไป พ่อหนุ่มปลาวาฬ...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in