เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กบฏไร้เดียงสาccttiana
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน 10 ข้อเสนอที่ทับซ้อน (1/2)
  • ตึง!

     

    หลังจากกระดกน้ำลงคอดับกระหายร้อน เกรเทลจงใจกระแทกแก้วน้ำเปล่าลงบนโต๊ะไม้เสียงดังจนคนละแวกนั้นหันมามองกันเป็นตาเดียว เธอหงุดหงิดความกวนประสาทของวอลล็อคมากยิ่งนึกถึงยิ่งฉุนเฉียว คนบ้าอะไรว่างงานมากนักหรือ 

    ตั้งแต่ตื่นเช้าแล้วออกมาจากบ้านพักเธอยังไม่ได้เจออารอล์ฟเลยตลอดทั้งวันเธอมีเรื่องอยากถามจากเขาสองสามประโยค สุดท้ายก็เปลี่ยนเป้าหมายไปถามไรเดอร์แทน

    ก่อนหน้าที่เกรเทลจะเดินมายังโรงอาหารเธอถามเขาไปว่าปกติวอลล็อคมีนิสัยกวนประสาทอยู่แล้วหรือเปล่าทำไมเอาแต่เล่นงานเธออยู่คนเดียว คนอื่นก็ดูปกติดี เธอไม่ได้รู้สึกไปเองแน่ ๆ แล้วคำตอบของชายหนุ่มร่างใหญ่ทำเอาเด็กหนุ่มหน้าเหวออ้าปากค้างไปเรียบร้อย

     

    …นายวอลล็อคเป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่กับทุกคน ถ้าคนไหนที่นายหมายหัวเตรียมรับกรรมได้เลยว่านรกแตก…

     

    เกรเทลแทบจะเอาตีนก่ายหน้าผากนี่หมายความว่าเธอโดนปักธงแดงสินะ งามหน้าแล้วแบบนี้จะหาทางปลีกตัวหนีออกไปได้ยังไง เพราะเมื่อเขาเล็งจับตาเธอแบบนี้จะกระดิกตัวไปไหนก็ยากลำบากน่ะสิ สถานการณ์ไม่ค่อยดีแล้วเธอต้องคิดแผนใหม่เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ภายในค่ายตลาดค้าทาสชุลมุนที่สุด เอาไว้คืนนี้ค่อยคิดแผนปฏิบัติการหลบหนีหลังจากเธอทำงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วกัน

    งานต่อไปคือเอาขนมปังและน้ำไปส่งให้พวกทาสตามกรงขัง ซึ่งมันพอดีกับเวลาคนงานพักเที่ยง ฉะนั้นเธอตัดสินใจว่าจะแวะไปเอาข้าวกลางวันส่วนของเธอก่อนที่มันจะหมด เธอจะอดข้าวสักมื้อไม่ได้เด็ดขาดร่างกายนี้ขาดสารอาหารรุนแรงมาก เธออยากแข็งแรงเร็ว ๆ ให้ทันเวลาก่อนการหลบหนี

    แต่เมื่อเธอก้าวเข้าไปภายในโรงอาหารแล้วเดินไปต่อปลายแถวสุด จังหวะนั้นเองที่มีชายวัยกลางคนเบียดแทรกคิวเข้ามากลางแถวทำให้คนทั้งแถวเกือบล้มทับกันหมด ซึ่งเกรเทลเป็นคนสุดท้ายก็รับแรงกระแทกแรงมากกว่าใครแถมน้ำหนักผู้ชายแต่ละคนไม่ใช่น้อย ๆ เลย

    “โอ๊ย!” 

    “เฮ้ย! ไอ้เวรเอ็งเข้ามาแทรกคิวทำไมวะ?” 

    “ตาบอดเรอะไม่เห็นหรือไงคนเขาต่อคิวกันอยู่เว้ย!” 

    เสียงดังโหวกเหวกโวยวายเริ่มทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อไม่มีใครชอบใคร เหล่าชายฉกรรจ์ลุกขึ้นปัดฝุ่นตามกางเกงหันมายืนประจันกันซึ่ง ๆ หน้าถลึงตาจ้องเขม็งกำหมัดแน่นเตรียมซัดหน้า

    “ก็ข้าจะยืนตรงนี้มีปัญหาเหรอ หึ” 

    “เออข้ามีปัญหากับคนไม่มีมารยาท” 

    เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมกันแถมเรื่องชักจะเริ่มบานปลายกลายเป็นเหตุทะเลาะวิวาททันตาเห็น เกรเทลรีบคลานถอยหลังโดยด่วนเตรียมลุกขึ้นเพื่อที่จะได้ออกมาจากบริเวณอันตราย เธอยังไม่อยากโดนลูกหลงอย่างการถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพวกเดียวกันกับใครสักคนในนี้เหตุการณ์นี้

    แต่แล้วพระเจ้าก็ดันชอบประเคนแกมยัดเยียดความฉิบหายวายวอดมาให้เธอได้ตลอดเวลาเสียด้วยสิ

    “เฮ้ย! ไอ้เด็กทาสจะไปไหนมาคุยกับพวกข้าก่อน” 

    เด็กสาวส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอไม่ชอบใจเลย มีคนอยู่บริเวณนี้เป็นร้อยทำไมต้องดวงซวยเป็นเธอด้วยนะ ดวงตกหรือเปล่าวะเนี่ย…

    “เจ้าตอบมันไปสิว่ามันเป็นคนแซงคิวพวกเรา” 

    ชายร่างยักษ์พูดขึ้นพร้อมทั้งพยักหน้าปากยื่นไปทางชายวัยกลางคนที่แทรกคิวเมื่อกี้ เหมือนกับว่าเขาจะให้เธอเป็นพยานในเหตุการณ์นี้

     

    …ใคร? ไหนเรา? ไม่!! ฉันไม่ใช่พวกใครทั้งนั้นโว้ย ไอหนุ่มอย่ามาเหมารวมดิวะ!…

     

    เด็กสาวนิ่งเงียบเม้มปากไม่พูดอะไรออกมานาน เธอไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี ถ้าเธอตอบว่าใช่เธอจะโดนหางเลขไปด้วยไหม แต่ถ้าตอบไปว่าไม่ใช่เธอจะถูกกาหัวไว้อีกหรือเปล่า

    “เอ็งจะเอาพวกมาสักกี่คนข้าก็ไม่สนโว้ย ถอยออกไปไอเตี้ย” 

    “…” 

    ร่างเล็กโดนด่าว่าเตี้ยเฉยเลย บอกตามตรงว่าสภาพเธอในตอนนี้เนื้อตัวสั่นกลัวจับใจจนไม่กล้าปริปากพูดหรือทำอะไร แม้กระทั่งหายใจแรงเธอยังต้องกลั้นใจไว้เลย

    “ข้าไม่ได้อยากจะมีเรื่องกับแกนักหรอก แต่แกเล่นแซงคิวเองนิ่งหรือไม่จริง มาทีหลังก็ไปต่อท้ายแถวแบบไอเด็กทาสนี่” 

    “หน๊อย! นี่แกซักหมัดไหม?” 

    เมื่อเธอถูกพูดขึ้นในบทสนทนาดูแล้วไม่จบแน่ ๆ สายตาก็สาดส่องไปมาซ้ายขวาไม่มีใครคิดจะเข้ามาช่วยเธอสักคน พวกเขาต่างยืนนิ่งอยู่กับที่ป้องปากคุยซุบซิบเบา ๆ กันเป็นกลุ่มก้อนกระจายทั่วบริเวณ บางคนก็นั่งบนโต๊ะกำลังตักอาหารส่งเข้าปากเคี้ยวข้าวส่วนตาก็มองภาพตรงหน้าเหมือนละครทีวีสักเรื่องที่กำลังออนแอร์

    “เออ คือว่า…” 

    ” พวกเจ้าทะเลาะไรกันจนวุ่นวายไปถึงด้านนอก! “

    “?!” 

    นายใหญ่ตลาดค้าทาสเดินเท้าเข้ามาภายใน ด้วยสีหน้าบึ้งตึงไม่สบอารมณ์อย่างมากจนไม่มีใครกล้าเดินเข้าใกล้สักคน เขาดูแลที่นี่มานานไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทมาก่อนทำไมวันนี้ถึงเกิดขึ้นได้ วอลล็อคกวาดสายตาไปรอบ ๆ ก็สะดุดเข้ากับเด็กหนุ่มทาสที่เดิมยืนตัวสั่นหงิกเป็นลูกแมว

    “อ้าวไม่ทะเลาะกันต่อแล้วหรือข้ากำลังรอดูอยู่พอดี” 

    เสียงดังกัปนาทกึกก้องไปทั่วอาณาบริเวณเสียงสันหลังลุกวาบ ผู้คนทั้งโรงอาหารต่างย่อตัวลงทำความเคารพนายใหญ่ทันที เกรเทลไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าเขาจะน่ากลัวได้ขนาดนี้ ชายคนนี้มีไอทมิฬบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจแทรกเข้ามาทุกอณูร่างกายจนสั่นไหว แน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก พลังงานมาจากเขาเหรอมันเป็นไปได้ยังไง

    “นิ่งอีกเมื่อกี้ยังจะซัดกันอยู่เลยมิใช่หรือ? ใยไม่รีบลงมือเล่า?” 

    เหล่าชายฉกรรจ์ต่างนิ่งเงียบไม่กระดิกปริปากพูดดีแบบเมื่อครู่อีกแล้ว วอลล็อคมองไปยังเกรเทลไม่คิดว่ามันจะถูกดึงเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์วุ่นวายนี้นึกว่ามันเอาขนมปังไปแจกทาสแล้วเสียอีก

    “เกรเทลไยเจ้ายังอยู่ที่นี่อีก?” 

    เมื่อถูกเรียกชื่อเธอจึงเงยหน้าไปมองเจ้านายตนเองพร้อมอธิบายเหตุผล

    “คือข้ากลัวอาหารหมดจึงแวะมารับกล่องข้าวไปเก็บไว้ที่บ้านพักก่อนขอรับ แล้วค่อยไปแจกขนมปังและน้ำให้ทาสต่อจากนั้น” 

    วอลล็อคพยักหน้าในหัวก็คิดไปด้วยว่าเจ้าหนูนี่รู้จักจัดสรรลำดับความสำคัญได้ดี อยากรู้จนเนื้อเต้นแล้วว่างานถัดไปมันจะทำสำเร็จตามที่เขาคาดหวังไว้ไหม

    “ในเมื่อตรงนี้ไม่ใช่ธุระกงการอะไร เจ้าก็รีบไปทำงานส่วนของเจ้าเถอะ” 

    “ขอรับ” 

    เมื่อเจ้านายสุดหล่อของเธอบอกว่าไปได้เธอก็รีบสับตีนหมาไปรับข้าวกล่องของวันนี้ทันที โดยไม่ได้หันมามองสถานการณ์ด้านหลังอีกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแล้ว เลิกหาเหาใส่หัวแล้วทำแค่หน้าที่ตนเองพอ

     

    ------

    กดหัวใจ ❤️ หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ

    หากพบคำผิด แปลพลาด แก้ไขหรือติชม โปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ

     

    𝑻𝒂𝒍𝒌 𝒘𝒊𝒕𝒉 𝒘𝒓𝒊𝒕𝒆𝒓

    แหม่ ๆ พ่อคุณสรรหาข้ออ้างไปเรื่อยแต่สนใจเขาอยู่ชิมิล่ะ🤭

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in