เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กบฏไร้เดียงสาccttiana
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน 5 ยินดีต้อนรับสู่วอลล็อค (2/2)
  • ตามคิวแล้วเธอจะถูกนำไปประมูลขายตอนเย็นในอีก 1 อาทิตย์ ฉะนั้นเธอต้องวัดดวง ภาวนาว่าแต้มบุญที่สะสมมาจะยังไม่หมดเอาในตอนนี้หรอกนะ ยอมไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า ยังไงเธอปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่าย

    โอ้จีซัส อมิตาพุทธ พระอัลเลาะห์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดช่วยลูกด้วย

    เมื่อเวลาที่รอคอยก็มาถึง เกรเทลจึงขอเข้าห้องน้ำบ้าง โชคดีที่คนมาคุมเธอเป็นผู้ชายร่างเล็กผอมแห้งมาก ดูเขาขี้โรคชัดเจนเหมือนว่าสวรรค์จะยังใจดีกับเธอ ก้อนเนื้อทางซ้ายเต้นตึกตักโล่งอกที่ไม่ใช่ผู้ชายหุ่นหนาตัวใหญ่ ไม่งั้นคงลำบากกว่านี้เป็นร้อยเท่า

    “เฮ้ เมื่อกี้ของที่โกดังหายช่วยไปหาที” อยู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกให้คนทั้งคู่ต้องหันไปมอง

     

    …นายหัวผัก…

     

    ใช่ มันเป็นสมญานามที่เธอตั้งให้วันนี้เองแม้ใจอยากเรียกเขาว่านายตะไคร่น้ำ แต่เวลาเอ่ยชื่อมันคงจะดูยาวเกินไปหน่อย

    “แล้วทาสคนนี้ล่ะนาย” 

    “เดี๋ยวข้าดูเอง รีบไปคนช่วยมีไม่เยอะ” 

    ไอฉิบหาย! อะไรกันไม่เหมือนที่คุยกันไว้นิพระเจ้า ไอคนขี้โกง

    เกรเทลแอบก่นด่าในใจหน้าตาที่ดูตื่น ๆ ของเธอทำให้ชายหนุ่มแอบขำในใจ

    “อะไร? เป็นข้าไม่ดีหรือไง” 

    ในบรรดาทาสทั้งหมดที่เขาดูแลไอเด็กนี้สะดุดตาเขามากที่สุด ทั้งที่รูปร่างเล็กผอมแห้งเหมือนชาวบ้านทั่วไปแต่สายตาของมันกลับเป็นประกาย มุ่งมั่น ทระนง แถมดูดื้อรั้นเอาแต่ใจ และเหมือนมีความกล้าอะไรบางอย่างที่เขาอธิบายไม่ได้

    “…” 

    ไร้ซึ่งการตอบกลับ ใครมันจะอยากเสวนาด้วยขอเก็บแรงไว้ดีกว่า

    “ช่างเถอะรีบเดินไปได้แล้ว” 

    ไม่พูดเปล่ามือเอื้อมผลักไหล่เล็กให้เดิน แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่เดินสักทีเพราะเธอไม่รู้ทาง เขาขัดใจจึงส่งเสียงจิ๊แล้วกระตุกโซ่คอให้เดินตามมา

    เด็กสาวเดินตามหลังแต่ก็ยังแอบมองมือเขาไปด้วยว่าจับโซ่แน่นแค่ไหน เธอจะได้กะแรงกระชากถูกไม่มั่นใจหรอกว่าจะทำได้ไหมแต่ต้องเสี่ยงดู

    “ข้าสงสัยว่าทำไมคนอย่างเจ้าถึงถูกนำมาขายได้” 

     

    เออ…ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

     

    เธออยากตะโกนออกไปนะแต่ทำได้เพียงตอบในใจเท่านั้น

    “ปกติมีแค่สตรี เชลย หรือพวกที่ทำผิดกฎ” 

    เธอเงยหน้ามองแผ่นหลังของชายตรงหน้าตั้งใจฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อ

    “แต่สำหรับบุรุษนั้นจะถูกเนรเทศไม่ก็ถูกส่งไปบำเพ็ญประโยชน์หรือขังคุกแทน” 

    นี่มันระบบการปกครองสมัยก่อนหรือเปล่า ถ้าใช่สถานที่นี้ไม่เหมาะกับเธอเป็นอย่างมาก ยิ่งสำหรับผู้หญิงที่ทันสมัยและมีความเป็นตัวเองสูงมันเหมือนนรกดี ๆ นี่เอง

    “ตอนที่ข้าส่งเงินให้กับคนที่พาเจ้ามาข้าตกใจมากเพราะสำหรับบุรุษแล้วการถูกนำมาขายให้เป็นทาสมันช่างน่าอดสูยิ่งนัก” 

     

    …หื้มบุรุษ? ว้อท? อะไรนะนายหัวผัก ใครเป็นอะไรนะพูดใหม่อีกทีได้ไหมเหมือนฉันได้ยินไม่ถนัด…

     

    คำถามในหัวของเกรเทลเริ่มผุดเป็นสิบคำถาม

    “แม้ว่าเจ้าจะรูปร่างผอมแห้งอย่างกับโครงกระดูก” 

    “…” 

    “แต่ผู้ชายอย่างเจ้ายังถือว่าใช้แรงงานได้อยู่ดี” 

     

    …ไอบักห่า ฉันเป็นผู้หญิง 100% นี่เอ็งตาถั่วหรือโง่กันแน่ แยกไม่ออกเหรอว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง…

     

    “ข้าสงสารเจ้า สนใจจะมาทำงานกับข้าที่นี่ไหม” 

    เธอทำหน้าเหวอใส่ ไม่ได้ฟังคำเชิญชวนของคนตรงหน้าเลยสักนิดเพราะเธอกำลังสำรวจร่างกายตนเองอย่างละเอียด คนมันจะไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าตนเองเพศไหน มีดุ้นหรือไม่มีดุ้น และเธอก็ไม่มีทุกอย่างที่กล่าวมาอย่างแน่นอน

    “ว่าไง” 

    “…” 

    เด็กสาวนิ่งเงียบไม่รู้จะตอบอะไรเพราะใจเธอแค่อยากกลับบ้าน

    “งั้นเจ้าก็เก็บข้อเสนอข้าไปคิดคืนนี้ พรุ่งนี้เช้าค่อยบอกข้าแล้วกัน” 

    ว่าแล้วเขาก็ออกแรงกระตุกโซ่ให้เธอเดินเร็วขึ้นอีก

     

    …กระตุกขนาดนี้คอขาดกันพอดี…

     

    แน่นอนว่าเธอไม่รับข้อเสนอเขาแน่นอนใจยังยึดตามแผนเดิมที่วางไว้ ชายหนุ่มพาเธอมายังห้องน้ำซึ่งมันอยู่รอบนอกไกลออกมาจากบริเวณเดิมพอสมควร

    เธอไม่รู้ว่าการไปทำงานกับเขาผลลัพธ์จะออกมาดีหรือเลวร้าย สู้หนีไปตายเอาดาบหน้าหาทางกลับบ้านยังดีกว่า

    สำหรับเกรเทลเตรียมตัวพร้อมมาสักพักแล้ว ขอแค่ได้จังหวะดี ๆ กระชากให้โซ่หลุดจากมืออีกฝ่ายก็พอ ตลอดทางเธอเหลือบมองข้างทางเพื่อหวังจะใช้เป็นตัวถ่วงเวลา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกล่องลังไม้ กรงเหล็กขนาดใหญ่เล็กวางซ้อนทับกัน เต็นท์กระโจมผ้าใบ และพวกเสาคบเพลิง

    เกรเทลเลือกที่จะจัดการธุระตนเองในห้องน้ำให้เสร็จเรียบร้อย สงบสติอารมณ์ให้ใจเย็นแก้ไขไปทีละเรื่อง

    ด้วยความที่โซ่ยาวจึงไม่เป็นปัญหาต่อการเข้าห้องน้ำ เมื่อเธอเดินออกมานายหัวผักจึงพาเดินกลับ

     

    ก้าวที่หนึ่ง

     

    “ที่นี่อย่างน้อยแกก็ยังมีที่ให้ซุกหัวนอน” 

     

    ก้าวที่สอง 

     

    “แต่ที่ข้างนอกนั้นแกก็คงเป็นได้แค่เด็กเร่ร่อน” 

     

    ก้าวที่สาม

     

    คนตัวเล็กนับก้าวในใจ ทุกคำพูดที่ผู้ชายคนนี้เปล่งออกมาไม่ได้เข้าหูเธอแม้แต่น้อย เพราะเพ่งสมาธิจับจ้องไปยังโซ่ในมือของคนข้างหน้า

    มือบางเอื้อมมือจับโซ่อย่างเบามือโดยไม่ให้เขารู้ตัว จากนั้นก็ก้าวเดินประชิดตัวอย่างช้า ๆ ผ่อนลมหายใจแล้วสูดเข้าลึก ๆ หางตาเหลือบมองทางหนี

    จังหวะนั้นเองที่คนตัวสูงเผลอหย่อนโซ่ลง เธออาศัยช่วงเวลานี้กระชากโซ่ออกจากมือคนตรงหน้าอย่างรุนแรงแล้วหันหลังสับตีนหมาวิ่งสุดชีวิต เลือกแทรกตัวเข้าไปตามช่องว่างของกล่องลังและกรงเหล็ก ลัดเลาะไปตามเส้นทางที่เห็นก่อนหน้า หลบตามความมืดที่คบเพลิงส่องไม่ถึง

    “เวร! แสบนักไอ้หนู” 

     

    ------

    กดหัวใจ ​❤️ หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ

    หากพบคำผิด แปลพลาด แก้ไขหรือติชม โปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ

     

    𝑻𝒂𝒍𝒌 𝒘𝒊𝒕𝒉 𝒘𝒓𝒊𝒕𝒆𝒓

    เปิดก่อนได้เปรียบไงล่ะ!!

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in