เรานั่งเครื่องบินตรงไปลงเวียนนา ถึงประมาณเจ็ดโมงเช้าของที่นั่น ซึ่งง่วงพอสมควร
จากนั้นเดินทางเข้าเมืองโดยรถไฟ ไปลงสถานี Wien Hauptbahnhof
เพราะอยู่ใกล้ที่พัก และเป็นสถานีใหญ่ (เราพักโรงแรม Ibis ซึ่งจองล่วงหน้าจาก booking.com )
วันแรก : พระราชวัง Scholss Belvedare / โบสถ์ St.Stephen / จตุรัส Maria-Theresien-Platz / ร้านแผ่นเสียง ALT&NEU และตลาดที่ชื่อได้ว่าเป็นคลังเสบียงของกรุงเวียนนา Naschmarkt
วันที่สอง : พระราชวัง Schönbrunn Palace / Albertina / พระราชวัง Hofburg / สะพานเขียว Zollamtssteg / สวนสนุก Prater
1. Scholss Belvedare
สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1663-1736 เจ้าชายสมัยนั้นสร้างขึ้นเพื่อเป็นพระราชวังในฤดูร้อนของพระองค์เอง (Belvedere แปลว่าทิวทัศน์ที่สวยงาม) โดยวังมีสองส่วนคือ Lower กับ Upper เหมือนตอนนี้จะเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงผลงานศิลปะไปแทน เพราะที่นี่มีภาพวาด The kiss ของ Gustav Klimt ซึ่งเราไม่ได้เข้าไปข้างใน แต่ค่อนข้างใหญ่มากแถมสามารถเดินไปจากสถานี Wien Hbf.
อันที่จริงเรารู้จักสถานที่นี้จากรายการ Battletrip ที่ซึลกิและเวนดี้จากวงRedVelvet ไปออกรายการ จึงถือโอกาส(เหมือน)มาตามรอย
2. St. Stephen's Cathedral
สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1147 ตั้งอยู่ในใจกลางจตุรัสสเตฟาน เป็นการออกแบบสไตล์โกธิค(ยอดแหลมพุ่งสู่ฟ้า) อีกทั้งยังเข้าข้างในได้ฟรีและตอนเราเข้าไปคือน่าขนลุกจริง เพราะว่ามันดูเก่าแก่มาก เป็นLandmarkที่สำคัญของเมืองเวียนนาเลย ขึ้นไปด้านบนได้ด้วยนะ(เสียตังเพิ่ม) จะเห็นวิวรอบๆเมือง
3. Neue Burg (and around)
เป็นสวนที่เราเดินหลงมา เพระาอยู่ตรงข้ามกับ Maria-Theresien-Platz ในสวนมีอนุสาวรีย์โมสาร์ทเล็กๆแถมคนนั่งชิลเยอะมาก เราจึงได้มาพักขาที่นี่หลังจากเดินมาทั้งวัน
4. Naschmarkt
คลังเสบียงแห่งกรุงเวียนนาอยู่ที่นี่ มีของขายค่อนข้างหลากหลาย ตอนเราไปจะเจอกับพวกของแห้ง ผลไม้ หรือพวกของที่จะมาประกอบอาหาร (เนื้อสัตว์-สัตว์ทะเลฟรีซ-แฮมไส้กรอก) ค่อนข้างเยอะแถมมีพวกร้านนั่งชิลเป็นบาร์ไปพลางๆ แล้วก็พวกของฝากประปราย
5. Kärntner Str.
ถนนช็อปปิ้งใกล้ๆโบสถ์ St.Stephen มีร้านค้ามากมายรวมถึงแบรนด์เนมและก็ร้านอาหารด้วย แต่เรามาตอนมืดร้านจึงปิดแล้ว เลยดูบรรยากาศพระอาทิตย์ตกก็เพลินไปอีกแบบ
**ช่วงมีสาระ**
ทุกคนที่อ่านรีวิวมาจะรู้ว่ายุโรปหาห้องน้ำเข้ายากมาก แต่แถวถนนKärntner
จะมีห้างอยู่ชื่อว่า'Steffl' ขึ้นไปชั้นบนๆ จะมีห้องน้ำให้เข้าฟรี
- ถ้ามายุโรปแล้วอยากเข้าห้องน้ำที่แบบไม่เสียงตัง ต้องหาห้าง แต่จริงๆแล้วห้างมีไม่ได้เยอะแบบบ้านเรา เพราะส่วนมากจะเป็นร้านในตึกเก่า หรือ Stand Alone กันทั้งหมด ส่วนมากเรากินอาหารFastfood เช่นแมคโดนัล เคเอฟซี หรือสตาร์บัค จะมีรหัสใช้ห้องน้ำอยู่ในใบเสร็จ
.
.
2. Hofburg
หลังจากนั่งรถไฟใต้ดินจากเชินบรุนน์ เราก็มาโผล่วังHofburg ที่นี่เป็นอดีตพระราชวังหลวงของกรุงเวียนนา โดยสมาชิกพระราชวงศ์มักจะพำนักที่พระราชวังแห่งนี้ในฤดูหนาว และพำนักที่พระราชวังเชินบรุนน์ในฤดูร้อน เราไม่ได้เข้าไปดูด้านใน ถือว่าใหญ่พอสมควรกับพื้นที่ๆอยู่ใจกลางเมือง
ส่วนสถานที่อื่นๆ เราได้รีวิวไปบ้างในกระทู้แรก (ถ้าใครยังไม่ได้อ่าน คลิกที่นี่)
ในกระทู้นี้เรารีวิวสถานที่นอกเหนือจากตามรอยหนัง และการเดินทาง
เราซื้อตั๋ววันจากสนามบิน เนื่องจากเราอยู่ในเมืองนี้2วัน จึงซื้อตั๋ว48ชั่วโมง (ราคา14.10ยูโร) ใช้ขึ้นรถราง-รถไฟ-รถบัส เริ่มใช้ตามตั้งแต่ตอนที่ Validate (มันจะมีตู้เหมือนให้เอาบัตรไปติ๊ดตามสถานีรถไฟ) อย่าลืมไป Validate ตั๋วซึ่งถ้าจนท.สุ่มเจอจะโดนปรับหลายบาทเลยทีเดียว
หลายคนสงสัยทำไมถึงต้อง Validate เพราะมันจะมีเหมือนวันที่หรือโค้ดไรสักอย่างแปะบนตั๋ว ทำให้รู้ว่าเราใช้ตั๋วนี้ไปแล้ว ป้องกันคนเอามาใช้ซ้ำ (ขออภัยเราไม่ได้ถ่ายไว้)
1. รถราง : สะดวก มีหลายสายมากและก็มาตรงเวลา เราไม่รู้หรอกว่าสายไหนไปไหนบ้าง เราเลยปักหมุดในกูเกิ้ลแมป แล้วเสิชดูทำให้การเดินทางง่ายขึ้น
2. รถไฟฟ้าใต้ดิน : ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร ส่วนมากระยะใกล้จะใช้รถรางหมด แต่ก็ดูไม่อันตราย แบ่งสองฝั่งชัดเจนแถมไม่มีพนักงานคอยคุม เราเรียกว่าระบบTrust อาศัยความซื่อสัตย์ล้วนๆ มันไม่มีระบบติ๊ดบัตรแบบMRTบ้านเรา
3. รถไฟระหว่างเมือง : เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราประทับใจ เพราะมันสะอาดและเราสามารถจองล่วงหน้าได้ แถมยังเลือกที่นั่งและตู้นั่งได้อีกด้วย เราจองมาในเว็บ OBB ตั๋วสามารถชำระโดยบัตรเครดิตแล้วเขาจะส่งอีเมล์มาให้เรา ก็ปริ้นใบนั้นมา(จะมี QR code)ให้เจ้าหน้าที่สแกนได้เลย ปล.บนที่นั่งจะมีบอกด้วยว่าเราขึ้นสถานีไหนลงสถานีไหน ส่วนอันไหนที่ไม่ได้มีขึ้นแถบเล็กๆแสดงว่าไม่มีคนจองไว้ เราสามารถย้ายได้ตามอิสระ แถมมี Quiet zone ด้วยนะ
Cafe Sacher
ใครมาเวียนนาแล้วอยากชิมของหวาน เราแนะนำที่นี่ ร้านที่มีประวัติมายาวนานกว่าหลายร้อยปี สาขาที่เราไปกินคือใกล้ๆกับ State Opera ที่มีเมนูเด่นๆคือเค้กช็อคโกแลตที่ออกรสส้มๆหน่อย อย่าง Original Sacer-Torte และที่นี่โด่งดังเรื่องช็อคโกแลตร้อนอีกด้วย (จากในรูปด้านหน้าที่มีวิปครีม) ตัวร้านตกแต่งดี ดูวินเทจและคลาสสิก เรากินกันไปทั้งหมดประมาณ 30ยูโร
สรุปโดยรวมของเมืองเวียนนา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in