ปีนี้เป็นปีที่เริ่มฟังเพลงไทยมากขึ้น รู้จักวงต่างๆมากขึ้น ทำให้รายชื่อศิลปินในงาน CAT EXPO ครั้งนี้ดูน่าสนใจขึ้นมาทันที บวกกับอยากลองมีประสบการณ์ดูคอนเสิร์ตกลางแจ้งแบบนี้ดูซักครั้งด้วยทำให้ตัดสินใจกดบัตรมาอย่างรวดเร็ว แม้งานจะมีสองวันแต่ขอเลือกไปวันอาทิตย์แค่วันเดียวแล้วกันนะ เพราะวงที่อยากดูอยู่วันอาทิตย์หมดเลย ด้วยความที่ได้บัตรราคาถูกเพราะซื้อตั้งแต่รอบ Early bird ถ้าจะไปดูแค่วันเดียวก็ไม่เสียดายเท่าไหร่
วาร์ปมาวันงาน เราตั้งต้นที่หน้าห้างแฟชั่นไอซ์แลนด์และแอบเดินตามคนที่มีสายรัดข้อมืองาน CAT ไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ระยะทางไกลใช้ได้เลย เราเดินอยู่ประมาณ 15 นาทีก็มาถึงปากทางเข้าสวนสนุกที่เป็นสถานที่จัดงาน มองไปก็เห็นแถวของคนที่มายืนรอประตูเปิดอยู่หลายแถวเลย หลังจากเอาบัตรไปแลกสายรัดข้อมือมาแล้วก็ขอมาต่อแถวหลบแดดด้วยคน
คิดถูกแล้วล่ะที่ใส่เสื้อยืดมา ไม่ร้อนดี
ที่นี่มีเวทีเยอะมาก หลักๆจะแบ่งตามขนาดของคนดู เช่น เวที 1 จะเป็นเวทีของวงดังๆที่มีแฟนเพลงเยอะๆ พื้นที่จะกว้างมากกกเป็นทุ่งเลย ส่วนเวทีอื่นๆก็ลดหลั่นกันไป โชคดีวงที่อยากดูอยู่เวทีขนาดเล็กซะส่วนใหญ่ คงจะได้อยู่ใกล้ขอบเวทีบ้างล่ะ
หลังจากเปิดตารางวางแผนการดูศิลปินไปแล้วเมื่อเช้า วงแรกจะเริ่มเล่นตอน 16.40น. โอเค ยังมีเวลา ขอเดินเล่นดูบรรยากาศพลางๆก่อนดีกว่า
ชิงช้าสวรรค์ที่เดินไปทางไหนก็เห็น เป็นจุดเด่นของงานไปเลย
ถุงผ้าจาก Die Tomorrow อยากได้!
ระหว่างที่กำลังเดินไปเวที 4 ก็เหลือบไปเห็นบูธของ Jelly Rocket กำลังแจกลายเซ็นอยู่พอดี ความคิดในหัวจึงเชียร์ให้เดินเข้าไปซื้ออัลบั้มอย่างรวดเร็ว "ถ้าซื้ออัลบั้มที่นี่ตอนนี้จะได้ลายเซ็นเลยนะ"
The Toys
ความจริงคือจะดู Lukpeach เป็นวงแรกซึ่งอยู่เวที 4 แต่ดันละเมอเวที กลายเป็นว่ามายืนอยู่แถวหน้าสุดของเวที 1 ซะงั้น! เลยได้ดู The Toys แทนเฉยเลย ก็แอบหวังเล็กๆว่าอาจจะได้ฟัง Bad luck นะ ถึงจะรู้ว่าไม่ใช่เพลงของเค้าจริงๆก็ตาม แต่ถึงจะไม่เล่น อย่างน้อยก็ได้มาฟัง หน้าหนาวที่แล้ว แบบสดๆละ
Earth Patravee
ในที่สุดก็ได้มาฟังสดแล้ว เสียงดีมากๆ Set list ที่เตรียมมาวันนี้ก็เป็นเพลงของคนเหงาจริงๆ ชอบตอนที่เล่าความหมายของเพลง Sky&Sea ทำให้เข้าถึงเพลงได้มากขึ้นเลย เวทีเล็กๆนี่มันทำให้อินกว่ากันเยอะเลย
Violette Wautier
เราชอบเพลง อยากฟัง ซึ่งเป็็นเพลงแรกที่ปล่อยออกมา Violette บอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่มีความเป็นส่วนตัวอยู่มาก เจ้าตัวถึงกับร้องไห้ออกมาหลังร้องเสร็จเลย ส่วนเพลง แค่ไม่มีฉัน ก็โอเค เพลงนี้ฟังรอบแรกยังไม่ชอบนะ แต่พอฟังบ่อยๆแล้วมันก็โอเคขึ้นเรื่อยๆ แปลกดี
Scrubb
ตอนที่ Scrubb ขึ้นเล่นนี่เป็นเวลาที่เหลื่อมกับ Phum Viphurit เล่นอีกเวทีด้วย เลยคิดว่าขอรอฟังเพลง รอยยิ้ม หน่อยแล้วกันเพราะเป็นเพลงที่มีความหมายกับเราเป็นพิเศษ :) และ Scrubb ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง รีบเล่นให้เป็นเพลงแรกๆเหมือนรู้ว่าต้องรีบไปอีกเวทีต่อ
Phum Viphurit
ตอนที่เดินมาถึงเป็นเพลง Run พอดี หลังจากนั้นก็เล่นเพลงอื่นๆในอัลบั้มอีกหลายเพลง แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ร้องตามได้หลายเพลงเลย อาจจะเพราะเปิดอัลบั้มนี้ตอนอ่านหนังสืออยู่บ่อยๆ เป็นโชว์ที่สนุกมากโดยเฉพาะเพลง Adore ที่มีลูกเล่นเปลี่ยนจังหวะดนตรีเพื่อให้คนดูสนุกตามไปด้วยได้
Jelly Rocket
ได้ดูวงนี้เป็นรอบที่สองแล้วในช่วง 1 เดือน แม้จะห่างกันไม่นานแต่วงก็มีการปรับ Set list ให้สนุกขึ้นอย่างคราวนี้ก็เล่นเพลง ไม่พอ ที่ทำให้เราโยกและร้องตามไปด้วยได้ คนดูทุกคนก็ดูสนุกกันมากๆ เป็นบรรยากาศของการปิดท้ายคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่ดีเลย
แม้สถานที่เดินทางจะลำบากไปนิดแต่โลเคชั่นมันก็เหมาะที่จะจัดคอนเสิร์ตแบบนี้จริงๆ ปีหน้าก็จะพยายามรู้จักวงอื่นๆให้มากขึ้นไปอีกนะ (แต่พอรู้จักวงเยอะก็จะจะอยากดูหลายวง แล้วก็จะมีหลายวงที่เล่นชนกัน ปวดหัวไปอีก)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in