หากถามความเอากับคนในวังหลวงเพื่อให้บรรยายถึงพระมเหสีในรัชกาลปัจจุบัน ผู้คนในวังอาจจะต้องขบคิดอยู่นานสักหน่อย ใช้เวลานึกอยู่นานสักนิด ด้วยต้องพยายามหาประโยคที่พอจะอธิบายถึงองค์พระมเหสีผู้เป็นที่เลื่องลือพระองค์นั้นได้ บรรดาผู้คนที่ได้ยินได้ฟังเรื่องราวของพระนางก็มักจะไม่พ้นเป็นประโยคบอกเล่าสั้นๆ เหล่านี้
'ทรงเป็นคนสงบเสงี่ยม มีพระราชจริยวัตรงดงามอ่อนช้อย'
'ทรงมิใคร่โปรดงานเลี้ยง น้อยครั้งที่มักจะเสร็จร่วมพระราชพิธีในวัง'
'ข้าหวั่นเกรงเหลือเกินว่าพระองค์จะทรงประชวรทุกคราที่เสด็จออกจากพระตำหนักด้วยทรงบอบบางยิ่งนัก'
ผู้คนในวังต่างมุ่งหวังที่จะยลพระสิริโฉมของพระมเหสีผู้มิค่อยปรากฎตัวนี้ให้เป็นบุญตาแก่พวกเขาสักครั้ง ดังนั้นในทุกปีพระราชพิธีชมบุปผาที่พระนางโปรดปรานเป็นพิเศษและเสด็จเข้าร่วมไม่เคยขาด จึงเป็นงานพิธีที่คึกคักที่สุดงานหนึ่งของฝ่ายในเลยทีเดียว เหล่าคุณหนูสกุลต่างๆ และบรรดาพระสนมล้วนตั้งตารองานชมบุปผานี้กันทั้งนั้น คงจะมีเพียงแต่ตัวพระมเหสีซึ่งเป็นผู้จัดงานนี้เองที่ตื่นเต้นกับงานนี้น้อยที่สุดแล้ว
"พระมเหสีเพคะ ยามรุ่งสางน้ำค้างลงเยอะ ยังคงเสด็จโดยเกี้ยวจะดีกว่านะเพคะ"
ชเวจินรี นางสนองพระโอษฐ์ที่ติดตามพระมเหสีมาตั้งแต่ครั้งยังอยู่บ้านเดิมเอ่ยขึ้น แววตามีความกังวลอยู่หลายส่วน เจ้านายของนางไม่แข็งแรงตั้งแต่เล็ก ป่วยกระเสาะกระแสะมาโดยตลอด หากโดนน้ำค้างมากๆ ก็อาจจะเป็นหวัดได้ ทว่ายังไม่ทันสั่งให้คนไปเตรียมเกี้ยว เสียงหวานก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน
"ข้าดูใกล้ตายอย่างนั้นเชียวหรือจินรี"
ร่างเล็กบางที่ยามนี้ยืนหันหลังให้นางกำนัลคนสนิทตรัสด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ นางค่อยๆ สาวเท้าไปริมหน้าต่างแล้วยื่นมือออกไปสัมผัสกับอากาศภายนอกตำหนัก มือขาวกระจ่างดุจหิมะข้างนั้นดูกลมกลึงไปทุกส่วน เนียนใสราวกับหยกเนื้อดี เรือนร่างบอบบางทอดกายยืนพิงกรอบหน้าต่าง แม้มิได้ผินหน้ามาแต่แสงอรุณที่ตกกระทบร่างเป็นเงาสีทอง และผมยาวสยายที่ยังมิได้เกล้าขึ้น ทำให้นางดูราวกับภาพวาด
"ไม่ได้เย็นหรือชื้นถึงเพียงนั้นสักหน่อย ยังคงเดินไปเถอะ"
"แต่ว่า..."
"ถ้าข้าไม่ได้เดินบ้าง ร่างกายก็จะกลายเป็นพิการไปจริงๆ เอาเสียน่ะสิ"
มือเล็กหดกลับเข้ามาพร้อมกับเจ้าตัวที่หันหน้ามาส่งยิ้มนิดๆ อย่างหยอกล้อ ทว่าหางเสียงเมื่อครู่แฝงความเด็ดขาดเอาไว้ไม่ให้ผู้ใดปฏิเสธ บรรดานางกำนัลต่างจำต้องรับคำด้วยความไม่เต็มใจ
ก็ถ้าพระมเหสีประชวร คนเดือดร้อนก็คือพวกนางนี่นา
เมื่อผู้เป็นนายไม่เชื่อฟังบ่าวไพร่อย่างพวกนางจะทำอะไรได้ สตรีที่สูงศักดิ์ที่สุดในวังหลวงนั่งลงบนตั่ง แล้วเรียกให้นางกำนัลไปปรนนิบัติเปลี่ยนฉลองพระองค์เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีชมบุปผาที่กำลังจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้
พระมเหสีมองผู้หญิงผิวขาวจัดในกระจกที่กำลังถูกคนรายล้อมทั้งเกล้าผม ทั้งผัดแป้งให้ ปากรูปหัวใจก็ถูกแต้มด้วยชาดสีแดงให้ดูมีชีวิตชีวา บรรดาผู้คนของนางพิถีพิถันการแต่งหน้าให้นางถึงขนาดนี้คงเพราะกลัวนางจะน้อยหน้าบรรดาพระสนมทั้งหลายที่มาร่วมงานพิธีเป็นแน่แท้ นางนึกขันอยู่ในใจไม่ได้ แต่หัวใจนางก็ต้องกระตุกเล็กน้อย เมื่อพาลคิดไปถึงใครอีกคน
ปีนี้ก็คงไม่เสด็จมาเช่นเคยสินะ
..ฝ่าบาท
--
25%
• มาน้อยมาก ควรอัพไหมถามใจตัวเองดู ฮ่าๆ
• ลงสองที่นะคะ ที่ minimore + dek-d
แต่ที่ minimore จะอัพก่อน ^-' เพราะว่าแก้ไขง่ายกว่า
เราพิมพ์ใส่ minimore แล้วอัพเลยน่ะค่ะ ไม่ได้ใส่ words
แต่ข้อเสียของการอัพก่อนก็คือเป็นเวอร์ชั่นที่ยังไม่สมบูรณ์ edit แก้แล้วแก้อีก แก้วนไปค่ะ
แล้วก็อัพน้อยด้วย ดูอย่างตอนนี้สิ อะไรคืออัพ 25% เนี่ยยย 555 รอแต่งได้สักครึ่งตอนไหมม
ส่วนที่เด็กดีนั้น ตั้งใจไว้ว่าจะอัพทีเดียวเต็มๆ ตอนเลย
แล้วก็แก้ไขคำผิดในตอนแล้วถึงค่อยอัพ
ดังนั้นถ้าอยากอ่านเร็วๆ แต่ตื่นมาพรุ่งนี้เช้าเนื้อหาอาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ได้รู้เรื่องคร่าวๆ ไวๆ แนะนำ minimore ค่ะ
ส่วนถ้าใครไม่ชอบแบบขยักขย่อน มาทีละนิดๆ น้อยๆ แนะนำ dek-d เลยค่า อ่านรวดเดียวจุใจยาวๆ เลย
• ติชมกันเข้ามาได้นะคะ น้อมรับเสมอค่า <3
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in