จั่วหัวขึ้นมาก็ดูดราม่าซะงั้น แต่มันก็แบบนั้นจริงๆนั้นแหละนะ ฮ่าๆๆๆ มีคำถามที่อยากจะถามอยู่แต่ไม่ต้องตอบก็ได้นะคะ เราโอเค แบบว่าเคยรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นส่วนหนึ่งของสถานที่หรือสถานการณ์ต่างๆบ้างไหม? เรารู้สึกบ่อยมากจนเก็บมาคิดมาก จนเรียกได้ว่ามันเป็นความเครียด.. จนสิวขึ้นหน้าและเราก็นอนไม่หลับเลยล่ะ
เราพยายามจะทำตัวเป็นคนมีน้ำใจ(ทำมาอยู่ปีหนึ่งเต็มๆเลยเห็นจะได้) จริงๆก็เป็นคนที่มีน้ำใจอยู่ประมาณหนึ่งอยู่แล้ว แต่อันนี้ก็เหมือนจะเกินกำลังตัวเองไปหน่อย จนกลายเป็นว่าความมีน้ำใจที่ทำให้เราดูเป็นคนดีนี้มันกลืนตัวตนของเราเข้าไป
นิสัยส่วนตัวของเราก็คือเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยกล้าแสดงออกเท่าไร แบบว่าเป็นคนที่ชอบคิดก่อนพูด พอคิดเยอะๆเราก็จะไม่กล้าพูดออกไป ความในใจและความคิดก็เลยมีเยอะ และอะไรที่เยอะๆมันก็มักจะไม่ดี(ยกเว้นเงินน่ะนะ) ทีนี้พอมันหาทางระบายออกมาไม่ได้ก็กลายเป็นเก็บกดซะงั้นไป แต่ก็ดีที่มันไม่ได้แย่ไปกว่านี้เพราะเราเลือกตัวเองและเทสิ่งที่คอยสร้างภาพให้เราเป็นคนดีมาตลอดนั้นทิ้งไป.. ความมีน้ำใจที่เกิดจากความฝืน
มันมักจะมีเส้นบางๆอยู่เสมอในสถานการณ์ที่เราพบเจอ เราเผลอคิดไปเองหลายครั้งว่าเราเป็นส่วนหนึ่งกับมัน แต่ความจริงแล้วมันก็ไม่ใช่ เส้นบางๆเหล่านั้นมันยังคงอยู่ ใช่.. เราบอกว่ามันบาง แต่มันก็ชัดเจนมากจริงๆถ้าเราสนใจมันและไม่ทำทีเป็นเพิกเฉยเพราะต้องการหลอกตัวเอง
เจ้าเส้นที่เป็นเหมือนเขตแบ่งดินแดนนั้นมันสอนให้เรารู้ว่าการถอยกลับมาอยู่ในพื้นที่ของตัวเองนั้นมันดีขนาดไหน และการที่ไม่ต้องพูดคุยกับคนในเขตข้างนอก(ที่ไม่ได้สนใจเราจริงๆ)นั้นมันดีอย่างไร
มันไม่ใช่การเก็บตัวใดๆทั้งสิ้น เพียงแค่ว่าคนที่อยู่ในเขตตรงข้ามนั้นเป็นคนละประเภทกับเราเท่านั้นเอง เราก็แค่กลับมาอยู่ให้ถูกที่..
การเป็นคนดีมีน้ำใจมันช่วยให้โลกอยู่ง่ายขึ้นจริงๆเรื่องนั้นฉันรู้ แต่การที่เป็นคนดีสำหรับคนอื่นแต่ดันร้ายกาจกับตัวเองนั้นกลับเป็นเรื่องที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงเสียจริงๆเลย...
การฝืนตัวเองไม่ใช่การท้าทายชีวิตแต่อย่างใด แต่มันคือการทรมานตัวเองต่างหาก
แต่อย่างน้อยมันก็มีข้อดีเพราะมันจะให้บทเรียนล้ำค่าเป็นสิ่งตอบแทนคืนมา เราจะได้รู้จักโลก รู้จักสังคมและที่สำคัญก็คือ เราจะได้รู้จัก'ตัวเอง'มากขึ้น
22.02
611507
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in