Track: Louder Than Words
Performed by: Andrew Garfield, Vanessa Hudgens, Joshua Henry
Written by: Jonathan Larson
Album: tick, tick... BOOM! (Soundtrack)
Year: 2021
Why do we play with fire?
Why do we run our finger through the flame?
Why do we leave our hand on the stove
Although we know we're in for some pain?
ทำไมเราถึงเล่นกับไฟ?
ทำไมเราถึงนำนิ้ววิ่งผ่านเปลวเพลิง?
ทำไมเราถึงวางมือบนเตาร้อน
แม้เรารู้ดีว่าอาจเจ็บตัวได้?
Oh, why do we refuse to hang a light
When the streets are dangerous?
Why does it take an accident
Before the truth gets through to us?
โอ ทำไมเราถึงปฏิเสธที่จะติดไฟ
ในเมื่อถนนหนทางนั้นแสนอันตราย?
ทำไมต้องเกิดอุบัติเหตุขึ้นก่อน
ความจริงถึงถูกเปิดเผยแก่เราได้?
* Cages or wings
Which do you prefer?
Ask the birds
Fear or love, baby
Don't say the answer
Actions speak louder than words
* กรงขังหรือปีกไว้โผบิน
คุณจะเลือกสิ่งใดกัน?
ลองถามหมู่นกดูสิ
ความกลัวหรือความรัก
ที่รัก จงอย่าพูดคำตอบออกมา
การกระทำนั้นสำคัญกว่าคำพูด
Why should we try to be our best
When we can just get by and still gain?
Why do we nod our heads
Although we know the boss is wrong as rain?
ทำไมเราถึงต้องพยายามทำให้เต็มที่
ในเมื่อเราสามารถทำตัวสบาย ๆ แล้วยังคงได้ประโยชน์?
ทำไมเราถึงพยักหน้ารับ
แม้เรารู้ดีว่าหัวหน้านั้นผิดมหันต์?
Why should we blaze a trail
When the well-worn path seems safe and so inviting?
How, as we travel, can we see the dismay
And keep from fighting?
ทำไมเราถึงต้องย่ำเดินไปในเส้นทางใหม่?
ในเมื่อเส้นทางเก่านั้นดูปลอดภัยและน่าเดินกว่า?
เราจะสามารถมองเห็นความผิดหวังระหว่างการเดินทาง
แล้วหยุดทะเลาะเบาะแว้งกันได้อย่างไร?
ซ้ำ *
What does it take to wake up a generation?
How can you make someone take off and fly?
If we don't wake up and shake up the nation
We'll eat the dust of the world wonderin' why
ต้องแลกมาด้วยอะไรถึงปลุกคนทั้งยุคสมัยได้?
ต้องทำอย่างไรถึงทำให้คน ๆ หนึ่งโบยบินได้?
หากเราไม่ตื่นขึ้นมาและปลุกผู้คนทั้งชาติ
เราคงจากโลกนี้ไปทั้ง ๆ ที่ยังตั้งคำถามว่าทำไม
Why do we stay with lovers
Who we know, down deep just aren't right?
Why would we rather put ourselves through hell
Than sleep alone at night?
ทำไมเราถึงยังอยู่กับคนรัก
ที่เรารู้อยู่ลึก ๆ ว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่ใช่?
ทำไมเราถึงยอมพาตัวเองผ่านเรื่องราวยากลำบาก
มากกว่าที่จะได้หลับอย่างลำพังในยามค่ำคืน?
Why do we follow leaders who never lead?
Why does it take catastrophe to start a revolution
If we're so free?
ทำไมเราถึงยังเดินตามผู้นำที่ไม่เคยชี้นำผู้คน?
ทำไมต้องเกิดมหันตภัยก่อนถึงจะเกิดการปฏิวัติได้
หากพวกเรานั้นมีเสรีภาพจริง ๆ?
Tell me why
Someone tell me why so many people bleed
ได้โปรดบอกฉันที
ใครก็ได้บอกฉันทีว่าทำไมผู้คนจำนวนมากถึงหลั่งเลือดออกมา
ซ้ำ *, *
- - - - -
/ from the translator:
ส่วนตัวเพิ่งได้มีโอกาสดูภาพยนตร์เรื่อง
tick, tick... BOOM! เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นภาพยนตร์มิวสิคัลของคีตกวี โจนาธาน ลาร์สัน ที่บอกเล่าอัตชีวประวัติของตัวเขาเอง เรามาดูเพราะเห็นคนใกล้ตัวหลายคนที่มีสไตล์ภาพยนตร์ที่ชอบคล้าย ๆ กันดูแล้วออกปากชม บวกกับประทับใจในการแสดงของคุณแอนดรูว การ์ฟิลด์อยู่แล้วด้วยจึงตัดสินใจลองดู
tick, tick... BOOM! แต่พอ end credit ขึ้น เรารู้สึกขอบคุณตัวเองมาก ๆ ที่กดดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เราได้ทั้งความสนุก ความเศร้า ความบันเทิง บางฉากรู้สึก relatable มาก ๆ แม้อายุเรายังคงห่างไกลจากเลข 30 บางฉากรู้สึกเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้มาก ๆ จนร้องไห้ตามออกมา เราเห็นแง่มุมการวิพากษ์สังคม (และระบบทุนนิยม) หลายประเด็นจากภาพยนตร์ (ตอนแรกว่าจะเอาไปเขียนวิเคราะห์ใน
Oxygen-like Politics ด้วย แต่ดูแล้วไม่น่ามีเวลาเขียน) ซึ่งนี่ยิ่งเพิ่มความประทับใจของเราที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าไปใหญ่ แต่นอกจากความรู้สึกประทับใจที่ยังคงติดอยู่กับเราหลังภาพยนตร์จบ อีกสิ่งที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจเราคือเพลงสุดท้ายก่อนภาพยนตร์จะจบ นั่นคือเพลง Louder Than Words และด้วยความคันไม้คันมือมาตลอด 24 ชั่วโมง จึงตัดสินใจนำมาแปลลงในนี้เลย
(warning: might contain spoilers)
ถามว่าทำไมเพลงนี้ถึงติดใจเรานักจนถึงขั้นต้องหยิบมาแปล เช่นเดียวกับเพลงอื่น ๆ คือเราชอบเนื้อเพลงของเพลงนี้มาก ส่วนตัวเรามองว่าเพลงนี้ไม่ได้มีใจความหลักใจความเดียว เห็นได้จากการตั้งคำถามแบบสิบล้านอย่างตั้งแต่ต้นจนจบเพลง แต่นี่มันสะท้อนให้เห็นความกระจัดกระจายของความคิดตัวละครโจนาธานที่เขาตั้งคำถามจำนวนมหาศาลได้อย่างดี ตั้งแต่เรื่องเตาไปจนไฟถนน คนรักไปจนการปฏิวัติ แต่คำถามที่ถูกถามย้ำมากที่สุดในเพลงนี้ (และปรากฏตลอดภาพยนตร์) อยู่ในท่อนคอรัสที่ถามให้เราคิดว่าเราจะเลือกอะไร ระหว่างกรงขัง (การทำในสิ่งที่สังคมมองว่า "ดี, น่าชื่นชม, ควรเป็น"/การทำตามบรรทัดฐานของสังคม = ถูกขับเคลื่อนด้วยความกลัว กลัวที่จะไม่ถูกยอมรับ กลัวที่จะล้มเหลว) กับปีก (การมีอิสระและเลือกทำในสิ่งที่อยากทำ = ถูกขับเคลื่อนด้วยความรัก ความฝันของตนเอง)
นอกจากนี้ เรามองว่าบางคำถามยังสะท้อนแนวคิดที่ก้าวหน้ามาก ๆ และยังคง relevant ต่อยุคสมัยปัจจุบัน (แม้เพลงนี้และมิวสิคัลนี้จะถูกแต่งขึ้นโดยคุณโจนาธาน ลาร์สันตั้งแต่ค.ศ. 1990) เช่น ส่วนที่ตั้งคำถามว่า "What does it take to wake up a generation?" (ต้องแลกมาด้วยอะไรถึงปลุกคนทั้งยุคสมัยได้?) "Why do we follow leaders who never lead?" (ทำไมเราถึงยังเดินตามผู้นำที่ไม่เคยชี้นำผู้คน?) "Why does it take catastrophe to start a revolution if we're so free?" (ทำไมต้องเกิดมหันตภัยก่อนถึงจะเกิดการปฏิวัติได้ หากพวกเรานั้นมีเสรีภาพจริง ๆ?)
ซึ่งถ้าให้มองผ่านกรอบแนวคิดของคนที่เรียนรัฐศาสตร์ เรามองว่าทั้งสามท่อนนี้สะท้อนวิกฤตที่เราพบเจอในคริสต์ศตวรรษที่ 21 นี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการปกครองของรัฐบาลอำนาจนิยม (อาจจะรวมถึงประเทศประชาธิปไตยบางประเทศด้วย) ทุนนิยมแบบเสรีนิยมใหม่ และปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังพาโลกไปสู่จุดที่ย้อนกลับไม่ได้อีกแล้ว ท่อนที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับผู้นำที่ไม่เคยชี้นำผู้คนสื่อถึงการเมืองการปกครองอย่างชัดเจน ท่อนที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการปฏิวัติสื่อถึงโลกในยุคปัจจุบันที่ถูกนำโดยทุนนิยมแบบเสรีนิยมใหม่ โดยโครงสร้างเศรษฐกิจสังคมที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การสะสมทุนเช่นนี้เองที่กำลังบ่อนทำลายสิ่งแวดล้อมและโลกทั้งใบ แต่เพราะเหตุใดกันการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจสังคมถึงยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าเราจะเห็นภัยพิบัติและความหายนะอย่างชัดเจนที่เกิดจากทุนนิยมแบบเสรีนิยมใหม่ ทั้ง ๆ ที่เราถูกมันพร่ำบอกว่าเรามีเสรีภาพมากล้น และท่อนที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการปลุกผู้คนก็สื่อถึงการที่ผู้คนจำนวนมากบนโลกใบนี้ยังคงหลับใหลและมองไม่เห็นวิกฤตต่าง ๆ เหล่านี้... ทั้งนี้ นี่เป็นเพียงการตีความตามมุมมองของคนที่เรียน (จนหลอน) ทฤษฎี (ล้อเล่น ไม่ขนาดนั้น) ไม่แน่ใจว่านี่คือสิ่งที่คุณโจนาธานต้องการสื่อหรือไม่ แต่ถ้าหากไม่ใช่ก็ให้ถือว่านี่เป็นความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ของการตีความเนื้อเพลงนี้แล้วกันค่ะ
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่กดเข้ามาอ่านและอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ถ้าเราหาเวลาว่างจากมรสุมการเรียนได้ อาจจะเขียนบทวิเคราะห์ tick, tick... BOOM! ผ่านมุมมองการวิพากษ์ทุนนิยม (หรืออาจจะพูดถึงสังคมโดยรวม เพราะมีประเด็นน่าสนใจเยอะมาก) มาลง แต่ถ้าหายจ๋อม ก็ขอให้เป็นอันเข้าใจร่วมกันว่าไม่มีเวลา 5555555 และถ้าใครยังไม่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็แนะนำให้ลองไปดูนะคะ มันจะเป็นเวลา 2 ชั่วโมงที่คุณรู้สึกคุ้มค่ามาก ๆ แน่นอนค่ะ ท้ายที่สุดนี้ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะคะ
- - - - -
หมายเหตุ: เราไม่ได้แปลแบบตรงตัว คำต่อคำ แต่เกลาคำให้เข้ากับสิ่งที่เพลงต้องการสื่อมากขึ้น เราเชื่อเสมอว่าคำแปลของเราไม่สามารถสะท้อนความหมายของเนื้อเพลงทั้งหมดได้ แต่ก็พยายามที่จะสื่อออกมาให้ได้ครบถ้วนมากที่สุด และหากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ
sincerely,
themoonograph
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in