ท่ามกลางกระแส K-Pop ที่คึกคักจนสร้างอิทธิพลไปทั่วโลก ไอดอลวงใหม่ ๆ ผุดเป็นดอกเห็ด แย่งชิงพื้นที่และเงินในกระเป๋าของประชากรโลกกันอย่างสนุกสนาน ยังมีวงแบนด์เจ๋ง ๆ มากมายที่แม้เพลงจะไม่สามารถสู้อำนาจของตลาดหลักได้ (ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง) แต่คุณภาพก็ไม่แพ้กันเลยทีเดียว

แถวผู้คนที่ทยอยเข้าฮอลล์

ดูแถวคนค่า 55555 นี่คือประตูเพิ่งเปิดพอดีคนเลยทยอยเข้าไป ด้านหน้าฮอลล์ก็มากมายด้วยแถวซื้อ Official Goods แถวลงทะเบียนไฮทัช แถวลงทะเบียนรับ Signed Poster แล้วลงทะเบียนรับ Free Poster แถวซื้ออัลบัม Thailand Ver. ของ BEC แถวลงทะเบียนรอบ Rehearsal ฯลฯ ตาลายไปหมด (ไม่นับคนที่ตั้งพิกัดแจกของอีกนะคะ)

ลำดับคิวเข้าชมรอบซ้อมกับแท็กสำหรับคนที่ได้สิทธิ์ไฮทัช

สภาพ Light Band ตอนเปิดไฟ

แบบนี้

Day6 เปิดการแสดงด้วยเพลง You Were Beautiful (예뻤어 [เยป็อซซอ]) ซึ่งเป็นเพลงที่ปล่อยในเดือนกุมภาพันธ์

M/V เพลง You Were Beautiful

M/V เพลง I Smile

M/V เพลง What Can I Do

แค่ช่วงเปิดก็รัวมาสี่เพลงรวดแล้ว บอกเลยว่าสนุกมากกกกกกกกกกก ทุกคนรอบข้างเอ็นจอยมาก โดยเฉพาะเพลงที่เพิ่งปล่อยมา รู้สึกตื่นเต้นเหมือนเขาเล่นเพลงนี้นอกประเทศครั้งแรกเลยนะแก อะไรแบบนี้

พอเพลงที่สี่จบ ผู้ดำเนินรายการประจำวันนี้ก็ปรากฏตัวค่ะ เขาคือคุณเจริญนั่นเองงงง และล่ามวันนี้คือคุณบี ซึ่งแม้ช่วงแรกจะเหมือนจับจังหวะไม่ค่อยได้ แต่พอรู้จังหวะปุ๊บก็แปลรัว ๆ เลยค่ะ แปลแหลกทุกสิ่งอย่างจนพี่เจริญต้องบอกว่า บางอย่างไม่ต้องแปลก็ได้ (เช่นประโยคแซ็วเล่น 555)

คุณเจริญออกมาเพื่อให้ Day6 ทำกิจกรรมค่ะ ตอนแรกเป็นช่วงสนทนาพูดคุยกัน ก็ให้พูดภาษาไทยบ้าง ถามถึงเพลงที่ชอบที่สุดของแต่ละคน จำได้ว่าพี่ซองจินบอกว่าชอบเพลง I Smile เพราะใน MV มีซีนของตัวเองเยอะ (วอท) ส่วนพี่เจชอบเพลง What Can I Do เพราะชอบท่อน "Woo Woo" ก่อนเข้าท่อนฮุกค่ะ (ลองไปฟังกันนะ 555) เป็นท่อนที่ทุกคนร้องตามได้ค่ะ

นอกจากนั้นก็ยังมีกิจกรรมให้หนุ่ม ๆ ลองพูดชื่อเพลงตัวเองเป็นภาษาไทย เช่น I Smile พี่ซองจินก็พูดว่า "ฉันต้องยิ้มสินะ" 5555 (แปลมาจากภาษาเกาหลี) หรือเพลง Hi, Hello ที่พี่เจต้องทำท่าเหมือนบังเอิญเดินมาเจอแฟน ๆ แล้วพูดว่า "อ้าว เฮ่ย หวัดดี" 5555555 ซึ่งทุกคนเล่นใหญ่มากจนหยุดขำไม่ได้เลยค่ะ ขำจนปวดหน้าไปหมด สรุปที่เจ็บคอนี่เพราะขำ ไม่ใช่เพราะกรี๊ดสินะ

หลังจากนั้นก็เป็นช่วงเล่นเกมค่ะ กติกาคือทีมงานจะเปิดเพลงของ Day6 มาเป็นอินโทรสั้น ๆ ประมาณ 1-2 วินาที แล้วถ้าใครตอบได้ ต้องเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์ไล่โน้ตโดเรมีฟาซอลลาที แล้วค่อยตอบเพลงนั้น ซึ่งก็สาหัสเอาการ... เพราะมีคนเป่าไม่ได้ 555555555555 ถึงแม้ขลุ่ยรีคอร์เดอร์จะเหมือนเป็นหลักสูตรบังคับของเด็กไทย (หลายคนเป่าได้ เราก็เป่าได้) แต่กับ Day6 เหมือนจะเป็นเรื่องลำบากมาก พี่เจเป่าไม่ได้เลยค่า พินาศมาก คนแรกที่ได้แต้มในเกมคือวอนพิล ผู้ที่พอได้ยินเสียงเพลงปุ๊บ ก็เป่าขลุ่ยเป็นทำนองเพลงนั้นเลย อึ้งกันทั้งฮอลล์ไปอีก 55555

ผู้ชนะในเกมนี้จะได้รับป้ายที่บอกจำนวนวินาทีที่จะได้อยู่กับ My Day ค่ะ... ซึ่งก็คือผู้โชคดีที่ได้ Selfie กับทั้งหกคนนั่นเอง ก็เป็นช่วงเวลาแห่งความอิจฉาปนขำกันไป จำได้ว่าผู้โชคดีมี 12 คน จะได้ขึ้นมาเซ็ตละ 6 คน ถ่ายรูปแบบ 1:1 แต่สมาชิกวงนี้มี 5 คน... ค่ะ จะมี 1 คนที่โชคดีได้ถ่ายรูปหมู่ แล้วกลุ่มแรกมีผู้โชคดีคนหนึ่งบอกว่า "วันนี้หนูไม่ได้ใส่บาตรมา" คงไม่ได้โชคดีจนได้ถ่ายรูปหมู่แน่ ปรากฏว่าพอเปิดป้ายมา ผ่างงงงงง!!! คำว่า Day6 เต็ม ๆ เลยค่า 5555555 ก็โชคดีกันไป

ไฮไลท์อีกอย่างของช่วงถ่ายรูปคือ ระหว่างที่ Day6 กับลัคกี้แฟนถ่ายรูปกัน ทีมงานก็จะเปิดเพลงรอ ซึ่ง... มันไม่ใช่เพลงของ Day6 สักเพลง 555555 เปิด As If It's Your Last ของ BLACKPINK, Sweet Heart ของ SEENROOT, Into the New World ของ Girl's Generation และ Never กับ Pick Me ของ PRODUCE101 Season 2

ถามว่าทำไมจำได้ละเอียดจังเลยคะ... เพราะร้องได้ทุกเพลงเลยค่ะ และทุกคนในฮอลล์ก็ร้องได้หมดเลยค่าาาา แฟนมีต WannaOne เร็ว ๆ นี้ก็ไม่ต้องห่วงนะคะว่าบัตรจะไม่ Sold Out เชื่อพี่ หมดแน่นอน 555

กลับมาที่ Day6 ต่อค่ะ

หลังจากผ่านช่วงเกมที่ค่อนข้างยาวนานไป Day6 ก็กลับมาแสดงต่อในเพลง Congratulations ซึ่งเป็นเพลงเดบิวต์ของพวกเขานั่นเอง ต่อด้วยเพลง Letting Go เพลงที่ปล่อยมาเมื่อปีที่แล้วค่ะ

M/V เพลง Congratulations

M/V เพลง Letting Go

หลังจากนั้นก็เป็นเพลงไทยค่ะ ซึ่งเป็นเซอร์ไพรส์จากหนุ่ม ๆ นั่นเอง คราวนี้พวกเขาร้องเพลง "เธอยัง" ค่ะ ซึ่งเธอยังคงร้องชัดถ้อยชัดคำเหมือนเป็นคนไทยเหมือนเดิม 555 ระหว่างนี้ก็เป็น Fan Project เปิดไฟสีส้ม (อันเกิดจากการเอาสติกเกอร์สีส้มแปะตรงแฟลชของโทรศัพท์มือถือ) เป็นทะเลแสงสีส้มสวยมากกกก เสียดายที่ไม่มีภาพค่ะ TT

แบนเนอร์สำหรับแฟนโปรเจกต์

และยังต่อด้วยคลิปวิดีโอจากแฟน ๆ ที่ทำให้กับ Day6 ด้วย งานนี้ทำเอาหนุ่ม ๆ ประทับใจทีเดียว สังเกตจากสีหน้าล้วน ๆ 555 ปิดท้ายด้วยเพลง I'm Serious (장난 아닌데 [จังนัน อานินเด]) ก่อนที่หนุ่ม ๆ ทั้งห้าคนจะเข้าหลังเวทีไป

แน่นอนว่ายังไม่จบค่ะ

เป็นธรรมเนียมไปแล้วว่าต้องมี Encore หลังเพลงสุดท้าย 555 ทุกคนก็ตะโกนเรียก Day6! Day6! Day6! ไม่นานทั้งห้าคนก็กลับมาพร้อมกับสองเพลงสุดท้ายที่อนุญาตให้ทุกคนลุกขึ้นเต้นได้แล้ว เย่!

นั่นก็คือเพลง DANCE DANCE จากเดือนพฤษภาคม และเพลง Free하게 (Freeฮาเก) เพลงโปรดของหลายคนตั้งแต่งานมีตแรกจนถึงปัจจุบันเลยค่ะ เพลงนี้อยู่ในอัลบัมแรกสุดของ Day6 เลย เป็นเพลงที่เหมาะกับการลุกขึ้นมาเต้นมาก ๆ

สุดท้ายก็จบการแสดงไปสวย ๆ ณ จุดที่ไฟกำลังลุกเลย ฮือ เสียดาย อยากให้มีต่ออีกสักเพลงสองเพลงมากเลยค่ะ

หลังจากนั้นก็เป็นช่วงไฮทัช ซึ่งจุดนี้เราจำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยองเคน่ารักมาก /เป็นลม

(ลำดับการไฮทัชจากคนแรกไปคนสุดท้ายคือ โดอุน เจ ซองจิน วอนพิล ยองเค ...ถ้าเราจำไม่ผิดนะคะ 5555 บอกแล้วว่าจำอะไรไม่ได้เลย นอกจากยองเคน่ารักมาก 5555555555555)

ก็สิ้นสุดกิจกรรมกันไปโดยที่แต่ละคนก็ยังคงฟินกับเพลงอยู่ สำหรับเรา Day6 เป็นวงที่คุ้มค่ากับการมาดูการแสดงสดมาก สำหรับคนที่ชอบฟังดนตรีสด ดนตรีเอย เสียงร้องเอย คุณภาพมาก ๆ สมาชิกทุกคนก็เล่นกันเต็มที่มาก สังเกตได้จากยองเคที่เมามันเหลือเกิน ดีดเบสทีนี้ตัวเอียงไปจะชนกลองโดอุนล้มแล้วค่ะคุณพี่คะ (อยากจะบอกให้ใจเย็น ๆ 555) หรือพี่ซองจินที่ดีดกีตาร์จนสายขาดงี้ 55555555555 นับว่าคุ้มค่ากับบัตรมาก ๆ อยากให้มีคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบเร็ว ๆ แล้ว!

สุดท้ายขอจบบันทึกขิงข่าตะไคร้ใบมะกรูดนี้ไว้ด้วยการขายของค่ะ Day6 มีใน iTunes แล้วนะคะ อยากให้ทุกคนได้ฟัง ของเขาดีจริง ๆ ใครไม่ชอบแนวไอดอลมาฟังวงแบนด์ก็ได้ค่ะ 555 อาจจะรู้สึกว่าเข้าถึงง่ายกว่า (กวักมือเรียกทุกคน)

จริง ๆ บันทึกนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากตั้งใจจะเก็บไว้อ่านเองตั้งแต่แรก แต่ไหน ๆ โพสต์แล้วก็ขายของไปด้วยเลยพร้อม ๆ กัน ชอบกดไลก์ใช่กดแชร์กดเมนต์กดอะไรก็กดไปเถอะค่ะ ถถถถถถ

ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้นะคะ

ไว้ถ้าคราวหน้า Day6 มาอีก ก็จะไปอีกค่ะ ไม่มีเหตุผลให้ไม่ไปแต่อย่างใด

ป.ล. ก็ยังเลือกเมนไม่ได้เหมือนเดิม พอ ไม่เลือกแล้ว 55555555555555