เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
หนังชีวิตI-love-thee
Brave Father Online: FINAL FANTASY XIV โลกใบนี้มันกว้างใหญ่เกินกว่าจะออกไปผจญภัยแค่คนเดียว
  • Brave Father Online: Our Story of Final Fantasy XIV คือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากเค้าโครงเรื่องจริงของเกมเมอร์คนหนึ่งผ่านการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกชายแบบคู่ขนานระหว่างโลกในชีวิตจริงกับโลกเสมือนในเกมโดยในเรื่องนี้มีผู้กำกับถึง 2 คน คือ Teruo Noguchi ที่กำกับในพาร์ทที่ใช้นักแสดงจริง และ Kiyoshi Yamamoto กำกับในพาร์ทของโลกเสมือนในเกม

    อยู่ดีๆพ่อของอากิโอะ (KotaroYoshida) ที่บ้างานเป็นอย่างมากก็เกษียณตัวเองออกจากงานประจำก่อนกำหนดทั้งๆที่มีข่าวลือว่าเขาจะได้เลื่อนตำแหน่งในอีกไม่ช้า ซึ่งก็สร้างความสงสัยให้กับอากิโอะ (Kentaro Sakugushi) เป็นอย่างมากว่าพ่อของเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ และด้วยความสัมพันธ์ห่างเหินที่เกิดขึ้นมานานหลายปีตั้งแต่อากิโอะยังเป็นเด็กทำให้ทั้งคู่ดูจะจูนกันติดได้ยากมาก แต่ก็ประจวบเหมาะกับที่เพื่อนร่วมงานของเขาเพิ่งสูญเสียพ่อไปทำให้เขาตระหนักได้ว่าควรจะได้ใช้เวลาดีๆร่วมกันก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินไป


  • อากิโอะนึกขึ้นได้ว่าที่จริงแล้วพ่อของเขาไม่ได้เป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก ทั้งคู่ก็เคยมีโมเมนต์ดีๆแบบที่พ่อลูกคู่อื่นเขามีกัน ในตอนนั้นพ่อเขาซื้อเกม Final Fantasy ให้และทั้งคู่ก็เล่นด้วยกันอย่างสนุกๆสนาน บวกกับที่พ่อยังติดค้างสัญญาว่าจะไปปราบบอส 'ทวินทาเนีย' ด้วยกันเขาเลยซื้อเครื่องเล่นเกม Play Station 4 พร้อมกับเกม Final Fantasy XIV ให้พ่อโดยอ้างว่าเป็นของขวัญวันเกษียณ และก็แอบสปายพ่อของตนเองผ่านตัวละครในเกมที่ใช้ชื่อว่า 'ไมดี้' โดยเตี๊ยมกันกับเพื่อนๆในโลกออนไลน์ของเขาด้วย

    ทั้ง 'ไมดี้' และผองเพื่อนก็สนุกสนานกับการพาคุณพ่อของอากิโอะหรือคุณ 'Indy Jones' ไปตะลุยดันเจี้ยนต่างๆ รวมถึงการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นลามไปจนถึงการปรึกษาปัญหาชีวิต ความผูกพันระหว่างเพื่อนที่ไม่เคยเห็นหน้าทำให้พ่อของเขาดูผ่อนคลายลงมาก และทำให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น มิตรภาพที่อากิโอะได้รับจากเพื่อนออนไลน์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จุดประกายให้เขาคิดแผนสำรวจตัวตนของพ่อขึ้นมา


  • เพราะการที่เรารู้จักกันแบบไม่ต้องเห็นหน้าจะช่วยลดอคติที่จะเกิดขึ้นในใจเราไปได้ไม่มากก็น้อย ทุกคนสามารถเป็นใครก็ได้ในดินแดนแห่งนี้ มีอะไรไม่สบายใจก็คุยกันได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครเอาไปพูดต่อให้เสียหาย แต่ละคนต่างก็มาเพื่อเล่นเกมหาความบันเทิงและทำภารกิจสำคัญร่วมกันให้สำเร็จก็เท่านั้น

    หนังถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างละเอียดและแยบยลมาก ไม่มีตอนไหนเลยที่ทำให้รู้สึกเบื่อ และยังสอดแทรกมุกตลกแบบที่เกมเมอร์มือเก่าและใหม่ต้องเคยเจอกันมาบ้าง เช่น การทำรีเสิร์ชข้อมูลก่อนลงดันฯ  การศึกษาวิธีเอาชนะบอสรูปแบบต่างๆ ไม่รู้จะกดรับเพื่อนยังไง และอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งความเปิ่นของคุณพ่อวัยเกษียณสุดขรึมสายจริงจังเกมมิ่งที่จะทำให้เราอมยิ้มออกมาได้ตลอดทั้งเรื่อง หนังไม่ได้ถึงกับว่าทำมาให้คนดูเฉพาะกลุ่มขนาดนั้น คนที่ไม่เคยเล่นเกมก็สามารถดูได้อย่างสนุกแน่นอน





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Cyborg 03 (@Cyborg_03)
ชอบที่คุณเขียนมาก ๆเลยค่ะ ไว้มีโอกาสจะไปตามดูหนังแน่ ๆ
I-love-thee (@I-love-thee)
@Cyborg_03 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นด้วยเช่นกันค่ะ ❤