[2020 Vibes: Album Review]
Brooke Bentham - Everyday Nothing
Release Date : 28 February 2020
Genre : Singer/Songwriter, Indie Rock
อัลบั้มเดบิวต์ของ Singer/Songwriter วัย 24 ปี จากเกาะอังกฤษ ที่ถ่ายทอดบทบันทึกโมเมนต์เล็กๆน้อยๆในชีวิตอย่างเรียบง่ายจริงใจ เพื่อนำเสนอความไม่แน่นอนในอนาคตของช่วงวัยและการเลือกเส้นทางในชีวิต ทั้งในความสัมพันธ์ ความเป็นวัยรุ่น และชีวิตในอุตสาหกรรมดนตรี
.
ด้วยซาวน์ดนตรีที่ดึงกลิ่นอายความเป็น Alternative Rock ยุค90's แบบ Yo La Tengo/Pavement มาผสมผสานกับอารมณ์ดนตรีแบบ Singer/Songwriter ที่ชวนให้นึกถึง Angel Olsen/Soccer Mommy ขับเคลื่อนอย่างค่อยเป็นค่อยไป นำด้วยเสียงร้องที่หนักด้วยมวลอารมณ์ พร้อมที่จะพาตัวเพลงให้ดำดิ่งหรือล่องลอยฟุ้ง นอกจากนั้นแล้วเสียงร้องของเธอก็ยังแฝงไว้ด้วยสัมผัสที่เป็นธรรมชาติด้วยโทนความ lo-fi ที่ใส่เข้ามา
.
ซาวน์ดนตรีเกิดจากการทำงานร่วมกันของเมโลดี้กีตาร์เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ กับการสร้างบรรยากาศขึ้นมาปกคลุมพื้นที่ โดยเฉพาะบรรยากาศที่มีสัมผัสดิบหยาบและขุ่นมัวของซาวน์กีตาร์ ประกอบกันเป็นความหน่วงและหนักในอารมณ์เพลง
.
With Love
ซาวน์กีตาร์หยาบกร้านไหลลอยคลุมพื้นที่ไปอย่างเนิบช้า แต่ก็แฝงความนุ่มนวลเอาไว้ในเมโลดี้ที่แทรกตัวไปด้วย เบสนุ่มลึกกับจังหวะฉาบบางๆฉุดรั้งตัวเพลงเอาไว้ไม่ให้หลุดลอยไป เสียงร้องไหลไปกับความเนิบคอยขับเคลื่อนตัวเพลงไปข้างหน้าด้วยความหน่วงในอารมณ์ บรรยากาศดนตรีขุ่นมัวที่ผสมทั้งความนุ่มนวลและความหนักเข้าด้วยกันอย่างพอดี เป็นเพลงที่เหมือนจะราบเรียบ แต่จุดเด่นคือการสร้างอารมณ์และขับเคลื่อนมันไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปล่อยให้บรรยากาศ เสียงร้อง และเนื้อหาสร้างความหนักหน่วงของความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงขึ้นมาในจังหวะของตัวเอง
.
Perform for You
เร่งจังหวะขึ้นมาด้วยซาวน์ดนตรีที่มีกลิ่นอายแบบดนตรี grunge ยุค90's ที่ถูกทำให้เบาลง ความหนักของซาวน์กีตาร์บวกกับความหนักของเนื้อเสียงค่อยๆสะสมพลังงานและกดทับน้ำหนักลงบนห้วงอารมณ์จนระเบิดออกในช่วงท้ายเพลง ช่วงแรกของเพลงเหมือนจะดำเนินไปอย่างเรียบง่าย โดยยังคงเอกลักษณ์คือการสร้างบรรยากาศด้วยซาวน์หยาบกร้านคลอไปกับริฟต์กีตาร์ ก่อนที่เลเยอร์บรรยากาศจะค่อยๆโหยหวนและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา จนกระทั่งฟุ้งข้นและจัดจ้านประสานไปกับแรงกระแทกของริฟต์และเสียงร้องที่พุ่งทะยาน ผสมผสานความหยาบกร้านหน่วงหนักให้เข้ากันอย่างกลมกล่อมและเข้มข้น
.
High
ทั้งเสียงร้องและซาวน์ดนตรีพากันเคลื่อนตัวจากความนิ่งสงบแล้วขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนกระทั่งแผ่ตัวจนล้นทะลัก บรรยากาศของเพลงถูกทำให้ล่องลอยและเนิบช้าบางเบายิ่งขึ้นด้วยซินธ์บางๆและกีตาร์ที่เคลื่อนตัวโหยหวนอยู่เบื้องหลัง กรูฟเบสนุ่มพาตัวเพลงให้ไปข้างหน้าขณะที่เสียงร้องยังคงแผ่วเบาและบรรยากาศยังไม่ก่อตัวดีนัก จนเสียงร้องค่อยๆเผยอารมณ์หนักขึ้น ซาวน์กีตาร์ที่อยู่เบื้องหลังพุ่งระเบิดซาวน์หยาบกร้านออกมาข้างหน้า แผ่ฟุ้งและหนักหน่วงภายใต้ความล่องลอย สำเนียงและเมโลดี้ในเสียงร้องช่างดึงดูดให้เราติดตามลึกเข้าไปเรื่อยๆ จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็พุ่งพล่านออกมา ทั้งเสียงร้องที่ถูกตะโกนปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ ซาวน์กีตาร์ผสมความเป็นบรรยากาศกับความหนักหน่วงเข้าด้วยกัน ทั้งฟุ้งพาตัวเพลงให้ดำดิ่ง และเกรี้ยวกราดหยาบกร้านไปกับการระเบิดอารมณ์ของเสียงร้อง
.
Blue Light
ถ่ายทอดช่วงเวลาเล็กๆในความสัมพันธ์ด้วยเพลงที่ลดโทนความหนักและหน่วงในอารมณ์ลงมา ขับเคลื่อนไปด้วยกรูฟจังหวะสบายๆ กีตาร์เมโลดี้ฟุ้งแอบติดหวานเล็กๆ แต่ก็ยังคงโทนความหนักในเสียงร้องอยู่ โดยมีช่วงที่เติมความฟุ้งลงไปในเสียงร้องเพื่อช่วยคลายอารมณ์ ครึ่งหลังเลเยอร์บรรยากาศหน่วงๆเริ่มแทรกตัวเข้ามา เป็นสัญญาณถึงสิ่งที่ตัวเพลงกำลังพาเราเดินเข้าไป ซึ่งเร่งเร้าตัวเพลงจากที่เคลื่อนไปอย่างสบายๆฟุ้งให้พุ่งพล่านและหนักหน่วง เสียงร้องระเบิดอารมณ์เต็มที่ ซาวน์ดนตรียังคงความฟุ้งลอยแต่เสริมเมโลดี้กีตาร์ที่หยาบกร้านและมีมวลเข้มหนักเข้าไป
.
Keep it Near
บอกเล่าความสัมพันธ์อันซับซ้อนของเธอกับดนตรี ในช่วงเวลาที่เธอพึ่งเรียนจบด้านดนตรีและมีเวลามากมายจนไม่หลงเหลือแรงบันดาลใจ ตัวเพลงสร้างจุดที่บาลานซ์ระหว่างความบรรยากาศกับไดนามิกดนตรี indie rock ที่มีจังหวะจะโคนเล็กๆ ซาวน์บรรยากาศทั้งล่องลอยบางเบาจากซินธ์และหนักเข้มจากกีตาร์ เปลี่ยนผ่านสู่ช่วงที่ซาวน์ดนตรีฟุ้งลอยหอมหวาน มีความสวยงามแบบดนตรี Dream Pop เบาสบายและล่องลอย แต่เมื่อเสียงร้องพุ่งตัวออกมาจากความล่องลอยก็พร้อมที่จับเราให้สัมผัสกับพลังงานเข้มข้นที่ปล่อยออกมา
.
All My Friends Are Drunk
เพลงนี้ถูกเขียนขึ้นในวันอาทิตย์เพื่อบอกเล่าสภาวะของความเป็นวันเพื่อความว่างเปล่า วันที่เราไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับตัวเองและปล่อยให้ตัวเองไหลไปกับความมีชีวิตที่มีอยู่ ด้วยดนตรีจังหวะสบายๆ ซาวน์ดนตรีฟุ้งลอย ไหลไปอย่างไม่รีบร้อน ด้วยซาวน์กีตาร์ขุ่นมัว เสียงร้องมีความหวานใสและเปลื่อยเปล่าด้วยมวลอารมณ์หนักอึ้ง ความเคลื่อนไปอย่างสบายๆบวกกับซาวน์ดนตรีกึ่งจะฟุ้งโทนสว่างกึ่งหยาบขุ่นมัวผสมกันเป็นเพลงที่ชวนให้นั่งพักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับมัน เป็นลูกผสมความ Dream Pop/Indie Rock โดยยังคงโทนซาวน์แบบ Alternative เอาไว้
.
Control
ปรับอารมณ์ให้กลับมาดุเดือดด้วยเพลงที่สาดซาวน์หนักหน่วงที่สุดในอัลบั้ม โดยเปิดเพลงมาด้วยไลน์เบสหนาประสานไปกับกีตาร์ซาวน์คลีน ไลน์เสียงร้องประสานกันสร้างมวลของเพลงให้ฟุ้งขึ้นมา ก่อนที่กีตาร์จะสาดซาวน์ Fuzzy ลงมาอย่างไม่ยั่งมือ สัมผัสของอากาศที่แตกละเอียดและบาดแทงความหม่นหมอง ระหว่างที่เพลงกลับมาเป็นท่อนสบายๆ ซาวน์กีตาร์ก็โหยหวนบ้าคลั่งอยู่เบื้องหลัง จากนั้นก็ระเบิดตัวอีกครั้ง คราวนี้ทุกองค์ประกอบประสานพลังงานกันขับเน้นความดุเดือดให้รุนแรงยิ่งขึ้น เนื้อร้องที่ร้องวนไปเหมือนดึงเราให้ติดอยู่กับบรรยากาศขุ่นข้นพร่ามัวนี้
.
Without
เพลงเนิบช้าบรรยากาศหน่วงๆที่บวกเล่าถึงความหวังและความกลัวที่เกิดขึ้นพร้อมกันในความสัมพันธ์ ซาวน์กีตาร์คลีนแต่ด้วยจังหวะและน้ำหนักของการดีดช้าๆแล้วเว้นช่วง ทิ้งให้อากาศได้แผ่ตัว ช่วยสร้างมวลความหน่วงในบรรยากาศให้หนักอึ้ง บวกกับเสียงร้องที่ดึงอารมณ์ให้ฟุ้งแผ่ไปกับบรรยากาศ
.
Men I Don't Know
เป็นอีกเพลงที่บอกเล่าถึงความสัมพันธ์ love-hate ของเธอกับวงการดนตรี เมื่อเธอต้องยืนอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยผู้ชายที่เธอไม่รู้จัก และรู้สึกตัวว่าดนตรีของเธอไม่ได้เป็นของเธอเท่านั้น แต่มันยังเป็นสินค้าด้วย ตัวเพลงเนิบช้า เรียบง่าย แต่ก็ลุ่มลึกและหน่วงด้วยอารมณ์
.
Telling Lies
เรียบง่ายและอ่อนโยน ด้วยกีตาร์โปร่งที่ขับเคลื่อนไปกับเสียงร้องใกล้ชิด โดยแทรกความบรรยากาศเข้ามาเล็กน้อยด้วยโมเมนต์ที่ซาวน์กีตาร์โหยหวนวูบวาบ เป็นความหยาบกร้านที่หึ่งหอนชั่วขณะ ช่วงท้ายของเพลงเมโลดี้กีตาร์หวานเข้ามาเสริมให้เพลงฟุ้งล่องลอยแต่ยังคงความเรียบง่ายเบาสบาย
.
My Baby Lungs
ยังคงความเรียบง่าย แต่คราวนี้มาในโทนที่กลับมามีความฟุ้งแบบ Dream Pop บวกกับซินธ์บางๆข้างหลัง ตัดความหวานด้วยซาวน์กีตาร์ที่ใส่ Reverb หนัก ปล่อยความหยาบให้ล่องลอยไปกับเมโลดี้ใส ปิดท้ายอัลบั้มด้วยเพลงสบายๆแต่ก็ยังคงใส่ซาวน์ดุๆมาไว้ในบรรยากาศได้อย่างลงตัว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in