EP.13 ไปนั่งรถไฟฟ้าเที่ยวกัน - ไปทำอะไรที่จีนอะ

เนื่องจากที่เรามีโอกาศได้ไปเรียนไกลถึงปักกิ่ง วันๆก็จะอยู่แต่มหาลัยกับห้องเรียนไม่ได้ใช่ม้า
ในเมื่อมีโอกาศแล้วเราก็ต้องออกไปเที่ยวกันสักกะโหน่ยยเนอะ

อย่างที่รู้กันปักกิ่งเป็นเมืองประวัติศาสตร์ จะมีสถาณที่สำคัญๆทางประวัติศาสตร์เยอะมากๆกระจุกรวมกันในเมืองนี้ แล้วสถาณที่ต่างๆก็ไม่ได้ไปยากเลย แค่นั่งรถไฟฟ้าอย่างเดียวก็ไปถึงได้ง่ายๆ EPนี้จะมาบอกให้ทุกๆคนฟังว่ามีที่ไหนบ้างนะจ๊ะะ

ไปโลดดดดดดด!!!

มาเริ่มที่แรกที่ๆเป็นเหมือนแลนด์มาร์คของปักกิ่งเลยก็คือ คือออ คืออออออ

จัตุรัสเถียนอันเหมิน (天安门)

เป็นสิ่งแรกๆในลิสของเราเลยว่าอยากไปๆๆๆ อยากไปดูลุงเหมาเจ๋อตุง55555 แล้วก็จัสตุรัสเถียนอันเหมิน เป็นจัสตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยนะ เรื่องใหญ่ๆนี่ยกให้พี่จีนจริงๆ โดยที่ถ้าเราไปแถวๆเทียนอันเหมินมันก็จะมีสถาณที่สำคัญๆให้เราไปดูอยู่ในระแวกเดีวกันอีกเยอะเลย พวกพระราชวังต้องห้าม พิพิธพัณฑ์ต่างๆ ที่สำคัญก็คืออ

เข้าชมฟรี แค่โชว์passportอย่างเดียวก็เข้าได้เลยจ่ะ

ลุงเหมาจ๋า สวัสดีจ้า

วิธีการเดินทางก็ง่ายๆ นั่งรถไฟฟ้าสาย1สีแดงลงสถาณี Tian an men East
พอเข้าไปข้างในก็จะเป็นโซนของพระราชวังต้องห้าม ในส่วนนั้นต้องซื้อตั๋วเข้าชมนะจ๊ะ แต่รอบๆก็คือเดินเที่ยวฟรีได้หมดเลย

ตามมาด้วยที่ๆ2กันเลย

พระราชวังฤดูร้อน (颐和园)
พระราชวังฤดูร้อนก็เป็นอีกสถาณที่ฮอตฮิตที่ถ้ามาปีกกิ่งก็ควรมาสักครั้ง ส่วนตัวเราแล้วไปมา2ครั้งในฤดูร้อนกับฤดูหนาว
หน้าร้อนทะเลสาปก็จะเป็นน้ำแบบนี้
ซึ่งถ้าเรามาในตอนหน้าหนาวล่ะก็น้ำในทะเลสาปก็จะแข็งเป็นน้ำแข็งแล้วเราก็สามารถเข้าไปเล่นสเก็ตในนั้นได้ด้วย เก๋ๆล่ะซี่

น้ำในทะเลสาปกลายเป็นน้ำแข็งหมดแล้ว

สำหรับค่าเข้าชม ถ้าจำไม่ผิดจะอยู่ที่20ไคว่ เป็นเฉพาะค่าประตูเท่านั้นนะคะ ข้างในจะส่วยส่วนย่อยๆอีก หากอยากเข้าชมก็ต้องจ่ายเพิ่ม แต่แค่นี้ก็เดินไม่ทั่วแล้ว
แต่ถ้ามีบัตรนักเรียนก็จะลดราคาครึ่งนึงเหลือแค่10ไคว่เท่านั้น(ทั้งนี้ต้องเป็นนักเรียนที่ศึกษาอยู่ที่ประเทศจีนนะจ๊ะ)
หากใครสนใจจะไปสเก็ตหน้าหนาวล่ะก็สงวนค่าเล่นอยู่ที่50ไคว่ต่อ1คนค่ะ

เดินทางไปได้ด้วนรถไฟฟ้าสาย4 ลงสถาณีBeigongmenนะจ๊ะ

อุทยานเป๋ยไฮ่ (北海公园)
เป๋ยไฮ่หรือพระราชวังฤดูหนาวเป็นที่ๆเราค้นพบว่าเหมาะสำหรับมาเดินสูดอากาศมากๆ อยู่ไม่ไกลเลยจากพระราชวังต้องห้าม ไฮไลท์ที่สำคัญในสวนนี้ก็คือเจดีย์สีขาว ขึ้นไปถึงจะสามารถชมวิวได้ด้วย

แล้วก็ที่ค้นพบอีกอย่างก็คือ มีน้องแมวอยู่เยอะเลย ทางแมวลองไปตามหาน้องๆดูนะ

ส่วนที่นี่ค่าเข้าชมอยู่ที่10ไคว่นะจ๊ะ เดินทางได้โดยรถไฟฟ้าเช่นกัน สาย6ถาณีBeihai beiจ่ะ
วัดลามะ (雍和宫)
วัดลามะหรือคนจีนเรียนว่า ยงเหอกงไม่ได้มีความเกี่ยวข้ออะไรกับลามะทั้งสิ้นนะจ๊ะ5555 แต่วัดนี่เหล่าศือบอกว่าเคยเป็นวังมาก่อน สังเกตุได้จากชื่อภาษาจีน คำว่ากง แปลว่าวังนั่นเอง ซึ่งเป็นวังของพระราชโอรสของฮ่องเต้ แต่หลังจากที่พระองค์สวรรคตก็ได้แลงเปลี่ยนเป็นวัด (ดูมีความรู้ช๊ะ ก็อปเค้ามา555)

ซึ่งวัดลามะมาจากธิเบตเลยนะ ในวัดก็เลยจะมีภาษายึ้กๆหยึยๆของที่นู่นให้เห็นอยู่ตามป้ายต่างๆ

ในตัววักฏ้ไม่ได้กว้างมากเท่าไหร่ เดินไปถึงชั้นในสุดจะมีพระองค์ใหญ่อยู่ให้คนได้สักการะ

ค่าเข้าอยู่ในราคา25ไคว่ค่ะ

โดยไฮไลท์ของการไปวัดลามะของเราไม่ใช่การไปวัด แต่มันจะมีร้านติ่มซำแล้วก็ซอยคาเฟ่เก๋ๆซ่อนอยู่ ไว้จะมาเขียนบอกEP.ต่อไปนะ คิคิ

วัดลามะก็เดินทางง่ายๆได้โดยรถไฟฟ้าเช่นเคย ลงสาย2 สถาณีYONGHEGONG lama temple

หอบูชาฟ้า (天坛)
หอบูชาฟ้า หรือว่าเถียนถานก็ตามชื่อเลยว่าเอาไว้ไหว้สักการะฟ้าดินโดยที่นี่มีความพิเศษคือเป็นสวนที่ใหญ่ม๊ากกกกกกกกกกกกกกก ใหญ่กว่าพระราชวังต้องห้าม 4เท่า!!
รายละเอียดความสำคัญต่างๆเราไม่ได้รู้ลึกมากนะ แต่รู้ว่าที่นี่เอาไว้สำหรับการไหว้ขอเกี่ยวกับเรื่องผลผลิตทางการเกษตร โดยคนที่จะเป็นผู้นำพิธิก็มีได้แค่ฮ่องเต้เท่านั้น (ตั้งใจเรียนในห้องมาเท่านี้จริงๆ)

ความดีงามของที่นี่ก็คือ ถ้าหากเป็นผู้สูงอายุ60ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะชาติจีนหรือต่างชาติ แค่แสดงบัตรประชาชนหรือpassport เข้าฟรี ไม่เสียสักกะบาท ส่วนวัยรุ่นใสๆก็คนละ30ไคว่นะคะ
วิธีการเดินทางก็ง่ายเช่นเคย สาย5ลงสถาณี TIANTANDONGMEN

สำหรับEP.นี้ขอฝากไว้เท่านี้ก่อนแล้วกันค่ะ แต่ๆๆๆๆ อย่าพึ่งคิดว่าปักกิ่งจะมีแค่สถาณีสำคัญทางประวัติศาสตร์นะ ที่ชิคๆคาเฟ่น่ารักๆเค้าก็มี ไว้จะมาบอกเล่าให้ฟังใหม่นะคะ

วันนี้ขอลาไปก่อนนน บ้ายบายยย