เป็นหนังสือที่เราเริ่มต้นอ่านจากการลองอ่านปกหน้า ปกหลัง แล้วเริ่มอ่านเนื้อหาข้างในที่ร้านหนังสือ และเราอ่านแบบไว ๆ จนถึงราว ๆ หน้าที่ 50 เรากลับบ้านไปโดยไม่ได้ตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้
เป็นความรู้สึกที่เราอยากทดสอบตัวเองว่ากับหนังสือหนึ่งเล่มที่เราอาจจะได้ทดลองอ่านแม้มันจะสนุก เราจะตัดสินใจไม่ซื้อได้หรือไม่ เพราะตอนนี้หนังสือ ‘กองดอง’ ของเราก็ยังไม่ลดลงเลย วันนั้นเรากลับบ้านไปด้วยการปล่อยหนังสือเล่มนั้นไปบนชั้นวางที่ร้านหนังสือ แต่เรื่องราวในหนังสือก็หลอกหลอนอยู่ในความคิดของเรา
เราแอบไปอ่านบทความแนะนำหนังสือหรือไม่เราก็ไปฟังพ็อดแคสที่แนะนำหนังสือเล่มนี้ เราพยายามข้ามส่วนที่เป็นเนื้อหาของการสปอยล์ไป และสิ่งที่ทำให้เรายิ้มขบขันกับตัวเองก็คือสองพิธีกรรายการพ็อดแคสบอกกับเราว่า การที่คุณเป็น 'บุ๊คเนิร์ด' สิ่งที่คุณจะทำเวลาฟังการรีวิวหนังสือคือคุณจะข้ามส่วนที่เตือนว่าเป็นการสปอยล์หนังสือเล่มนี้ไป เรายิ้มกับตัวเองเมื่อได้ฟังถึงตรงนี้
หลายวันต่อมาที่เราได้ไปร้านหนังสืออีกครั้ง หนังสือหลากเรื่องฯ เล่มนี้ถูกเลือกติดมือกลับมาที่บ้านโดยที่เรายังปล่อย ‘น้อง ๆ ’ หนังสือเล่มอื่น ๆ อยู่ในกองดองของเรา
ถ้าเราตั้งใจอ่านเล่มนี้ในรวดเดียว เราว่าเล่มนี้อาจถูกอ่านจบอย่างรวดเร็ว แต่เราติดพันอยู่กับการอ่านหนังสือแนวสายลับนักสืบเล่มหนึ่งอยู่ หลากเรื่องฯ เล่มนี้เลยใช้จังหวะการอ่านแบบอ่านบ้างหยุดบ้าง จนกระทั่งราว ๆ ห้าสิบหน้าสุดท้ายเราอ่านรวดเดียวจบ เนื้อหาโดยรวมของเรื่องนี้เรานิยามได้ว่าเป็นเรื่องราวที่ ‘น่ารัก’ อีกเรื่องหนึ่งในบรรดาหนังสือที่เกี่ยวกับร้านหนังสือ
หลาย ๆ คนอาจมีภาพจำของร้านหนังสือของตัวเอง และเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจมีร้านหนังสือสแตนด์อโลน (Stand-alone)--ร้านหนังสือที่ไม่ได้อยู่ในห้าง เป็นร้านหนังสือที่มุ่งขายหนังสือโดยเฉพาะ--ในความทรงจำอยู่บ้าง ถ้ายิ่งเป็นคนที่เกิดในยุคที่เคยมีทั้งร้านเช่านิยาย เช่าการ์ตูนบูม ๆ เราว่าเล่มนี้อาจจะทำให้คุณได้หวนอดีตคิดถึงภาพวันวานเหล่านั้นได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้
เพราะหลากเรื่องฯ เป็นหนังสือที่เล่าถึงร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่อยู่ในเมืองที่อยู่บนเกาะที่ห่างไกล และผู้คนจะมาเที่ยวที่เมืองแห่งนี้ในช่วงพักร้อนเสียส่วนใหญ่ เจ้าของร้านหนังสือแห่งนี้คือ เอ.เจ.ฟิกกี้ ชายผู้เป็นพ่อม่ายป้ายแดง ที่ค่อนข้างขวางโลก เขามองว่าในห้วงมหาสมุทรของหนังสือมีงานเขียนห่วย ๆ อยู่ในนั้น และเขาหวังว่าร้านของเขาจะไม่ขายงานขยะพวกนั้น ร้านหนังสือของเขาจึงเป็นร้านที่ขายงานเขียนวรรณกรรมที่เขาคัดสรรมาส่วนหนึ่งและ ‘ลูกค้า’ ของเขาที่เข้ามาสอบถามหาหนังสือเล่มต่าง ๆ ก็จะเป็นผู้คัดสรรหนังสือเพื่อตอบสนองกับไลฟ์สไตล์และรสนิยมของพวกเขาเหล่านั้นอีกส่วนหนึ่ง
ความดีงามของงานเขียนที่ฉากหลังของตัวละครเกี่ยวข้องกับงานเขียน หรือร้านหนังสือ เราว่าอย่างน้อยคุณจะได้รับไกด์ไลน์หนังสือที่คุณน่าจะชอบอย่างน้อยสองสามเล่มเพื่อหาอ่านต่อ และในอีกความดีงามหนึ่ง หากใครคือนักเขียน ในบางบทบรรยาย หรือบางบทสนทนา ของตัวละครได้สอดแทรกกลวิธีการเขียน การวางโครงเรื่อง เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในวงการการเขียนและหนังสือเอาไว้
หลากเรื่องในชีวิตของชายที่รักหนังสือ มีข้อดีงามของหนังสือในด้านนั้น ส่วนปมปัญหาอื่น ๆ เราว่าเป็นส่วนเสริม และเราคิดว่าปมในเรื่องนี้ค่อนข้างขยันหยอด พอเราเริ่มต้นอ่านได้รู้เรื่องราวของปมหนึ่งปม พอเราอ่านเพลิน ๆ ปมก็จะเริ่มคลี่คลายเฉลยปมแบบไม่รู้ตัว บางปมก็รู้สึกได้ว่าเป็นเรื่องที่ว้าว เหมือนนั่งอ่านนิยายที่มีกลิ่นการสืบสวนปนอยู่หน่อย ๆ ระคนกับคัมมิ่งเอจ(coming age) แต่เราว่าเรื่องนี่เป็นหลากเรื่องราว หลากรส สมชื่อเรื่อง
สำหรับนักเขียน หรือใครที่ชอบอ่านหนังสือที่แนะนำหนังสืออีกที เล่มนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ และสำหรับใครที่กำลังมองหาหนังสือที่เบา ๆ อ่านแล้วรู้สึกยิ้มบาง ๆ ตามเวลาได้อ่าน เรื่องนี้ก็แนะนำสำหรับคุณ
ในส่วนสำหรับหนังสือเล่มนี้ไม่แนะนำสำหรับใคร เราว่าใครก็ตามที่คิดว่าสามารถหัวร้อนได้ในทุกที เวลาที่มีคนบอกว่า 'การอ่านอีบุ๊คนั้นทำลายอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์และทำลายพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของการอ่านหนังสือ' เราว่าเรื่องนี้จะทำให้คุณหัวร้อนกับความคิดเชิงจิกกัดหน่อย ๆ ของตัวละครที่มีต่ออีบุ๊ค แต่ถ้าหนังสือเล่มนี้ทำให้คุณอ่านอีบุ๊คไปบ่นตัวละครไปว่า “ฉันอ่านอีบุ๊ค ฉันช่วยลดการตัดต้นไม้ ช่วยทำให้โลกร้อนน้อยลง และฉันกำลังอ่านหนังสือที่เขียนถึงแกในอีบุ๊ค รู้ไว้ซะด้วย เอ.เจ.ฟิกกี้” เรื่องนี้เราก็แนะนำสำหรับคุณ.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in