เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
short life with shorter storyMJonthemoon
in mutual friend we touch
  • เมื่อดาวหางอยากโคจรมาเจอโลก
    7-8 ปีผ่านไป การรีเควสนี้ได้รับการตอบรับอย่างดิบดี

    เมื่อคืนนี้ร้านที่ฉันเคยมาหลายๆ ครั้ง และสัมผัสได้ถึงความโคซี่ กิน คุย เบาๆ
    ความโคซี่นั้นวาร์ปหายไปสมบูรณ์แบบ ด้วยการเป็นโต๊ะแรกและสุดท้าย
    ด้วยคน 6 คน แขกบังเอิญเชิญอีก 2

    2 ใน 6 เป็นเพื่อนที่เคยสนิทตอนทำงานที่ก่อนๆ และฉันไม่ได้เจอมานานมาก
    รีเควสอยากเจอมาประมาณ 7-8 ปี แล้วทุกคนก็มาเสนอหน้ายิ้มๆ ตรงหน้ากันและกัน

    เราไม่ได้รู้จักกัน พร้อมๆ กัน ในเวลาเดียวกัน เราทุกคนต่างสนิทกันในที่ต่างๆ
    ในช่วงปีที่ต่างๆ กันไป ไม่รู้โลกเล็ก หรือว่าเราอยู่แอ่งกระทะที่กลิ้งหลุนๆ มาเจอกัน
    ร่วมชะตากรรมชะตาขำ

    เมื่อโตขึ้น เพื่อน คนรู้จักมากขึ้นจริงๆ แหละ แต่คงนับนิ้วได้ว่ามีกี่คนที่ได้ทำอะไร
    ด้วยกันแล้วจะเฮฮาได้ตลอดวัน หรือแม้ไม่ทำอะไรก็ยังนั่งอยู่ด้วยกันไปได้อีกทั้งวัน
    ยิ่งสำหรับคนอินโทรเวิร์ตอย่างฉัน

    เพื่อนที่แพลตฟอร์มในโซเชียลใช้คำว่า mutual friend จริงๆ มันมี
    super sub mutual ใน sub mutual ใน mutual อีกที

    เมื่อคืนพวกเรายังเป็นคนแบบที่เมื่อ 8 ปีก่อนเราเคยเป็นกัน
    ไม่ได้มาอวดว่าใครมีรถใหม่ เมียใหม่ หรือได้เลื่อนตำแหน่ง (ทั้งๆ ที่มันเพิ่งเลื่อน
    ตำแหน่งมา) แต่เป็นเรื่องรายละเอียดในชีวิต ในการทำงาน เลี้ยงแมว เรื่อง
    คนที่ทำให้สุขใจ ใครทำให้ห่อเหี่ยว ใครชวนให้เกรี้ยวกราดอยากเขกกะโหลก

    จริงๆ พวกเราล้วนโตขึ้นต่างจากเมื่อ 8 ปีนั้นมามากแล้ว ฉันเองยังรู้สึกได้ว่า
    ความรับผิดชอบมันทำให้เราโตขึ้น แต่จิตใจภาคไร้สาระมันยังสิงสถิตย์อยู่ในตัว
    ไม่เคยเปลี่ยน และเราแค่เผยมันออกมากับคนที่เรารู้สึกว่าเค้าเป็นโคตร mutual
    ของเราจริงๆ

    ในความเหมือนกันเรื่องเอาเรื่องไร้สาระเป็นสาระ หยิบเรื่องเบาสมองมาบาลานซ์สมอง
    เป็นช่วงเวลาที่ดี แม้จะแค่ 0.034% ของเวลาในหนึ่งปี แต่มันก็มี side effect ที่ทำให้
    วันถัดไปเรายังยิ้ม พูดถึง และนึกถึง

    และ super sub mutual friend ที่ไม่ได้ไปร่วมจอยก็เข้ามาทักทายอยากเจอ
    เหมือนเป็นคลื่นหนึ่งที่กระเพื่อมไปที่คลื่นลูกต่อไป
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in