เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แปลเพลงตามใจฉันcheloline
King Gnu - Prayer X (แปลไทย)
  • King Gnu - Prayer X





    溢れ出した涙のように

    afuredashita namida no you ni

    ราวน้ำตาท่วมท้นจนรินไหล

    一時の煌めく命ならば

    hitotoki no kirameku inochinaraba

    หากชีวิตเปล่งประกายได้สักครั้งหนึ่ง

    出会いと別れを

    deai to wakare wo

    การพบเจอและการแยกจาก

    繰り返す日々の中で

    kurikaesu hibi no naka de

    ในแต่ละวันมันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    一体全体何を信じればいい?

    ittai zentai nani wo shinjirebaii?

    แม่งเอ้ย ผมควรเชื่อมั่นในสิ่งใดกัน

     

    生まれ落ちたその時には泣き喚いていた*①

    umareochita sono toki niwanakiwameite ita

    ยามเกิด ผมร้องไห้กระจองอแง

    奪われないようにくたばらないように

    ubawarenai youni kutabaranaiyouni

    เพื่อไม่ให้ถูกช่วงชิงสิ่งใดไป เพื่อไม่ให้เหน็ดเหนื่อยเจียนตาย

    生きるのが精一杯だ

    ikiru no ga seiippai da

    ผมพยายามมีชีวิตอยู่อย่างสุดความสามารถ

    胸に刺さったナイフを抜けずにいるの

    mune ni sasatta naifu wonukezuni iru no

    ใช้ชีวิตอยู่ทั้งที่มีมีดปักอยู่ในอก

    抜いたその瞬間飛沫を上げて*②

    nuita sono shunkan shibuki woagete

    นาทีที่ถอนมีดออก ละอองน้ำสาดกระเซ็น

    涙が噴き出すでしょう?*②

    namida ga fukidasu deshou?

    ไม่อาจกลั้นน้ำตาได้ล่ะสิ

     

    溢れ出した涙のように

    afuredashita namida no youni

    ราวน้ำตาท่วมท้นจนรินไหล

    一時の煌めく命ならば

    hitotoki no kirameku inochinaraba

    หากชีวิตเปล่งประกายได้สักครั้งหนึ่ง

    出会いと別れを繰り返す日々の中で

    deai to wakare wo kurikaesu hibino naka de

    การพบเจอและการแยกจาก ในแต่ละวันมันเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า

    一体全体何を信じればいい?

    ittai zentai nani woshinjireba ii?

    แม่งเอ้ย ผมควรเชื่อมั่นในสิ่งใดกัน

     

    屈託のない笑顔の裏隠していた

    kuttaku no nai egao no urakakushite Ita

    ผมแอบซ่อนบางสิ่งไว้เบื้องหลังรอยยิ้มปราศจากความกังวล

    生きるための嘘が

    ikiro tame no uso ga

    คำโกหกหลอกลวงเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่

    最早本当か嘘か分からなくて

    mohaya hontou ka uso kawakaranakute

    ผมไม่รู้ว่านั่นคือเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จเสียแล้ว

    自分の居場所でさえも見失っているの*③

    jibun no ibasho de sae momiushinatte iru no

    แม้แต่สถานที่ที่ผมยืนอยู่ก็หายลับจากสายตา

    怒りに飲まれて光に憧れて

    ikari ni nomarete hikari ni akogarete

    ถูกกลืนกินด้วยโทสะ หลงใหลในแสงสี

    今日も空を眺めるのでしょう

    kyou mo sora wo nagameru nodeshou

    วันนี้ก็แหงนมองท้องฟ้าอีกล่ะสิ

     

    この人生に意味があるのなら

    kono jinsei ni imi ga arunara

    หากชีวิตนี้มีความหมายอยู่บ้างล่ะก็

    教えてよ 脆く儚い日々の中で

    oshiete yo moroku hakanaihibi no naka de

    ช่วยบอกผมที ในแต่ละวันที่เปราะบาง ไม่แน่นอนกระท่อนกระแท่น

    痛みや悲しみさえも

    itami ya kanashimi sae mo

    แม้กระทั่งความเจ็บปวดความเศร้าโศก

    飲み干した今僕らは

    nomihoshita ima bokura wa

    ผมกล้ำกลืนมันจนหมด พวกเราในตอนนี้

    一体全体何を信じればいい?

    ittai zentai nani woshinjireba ii?

    แม่งเอ้ย ควรเชื่อมั่นในสิ่งใด

     

    溢れ出した涙のように

    afuredashita namida no youni

    ราวน้ำตาท่วมท้นจนรินไหล

    一時の煌めく命ならば

    hitotoki no kirameku inochinaraba

    หากชีวิตเปล่งประกายได้สักครั้งหนึ่ง

    出会いと別れを繰り返す日々の中で

    deai to wakare wo kurikaesuhibi no naka de

    การพบเจอและการแยกจาก ในแต่ละวันมันเกิดขึ้นหนแล้วหนเล่า

    一体全体何を信じればいい?

    ittai zentai nani woshinjireba ii?

    แม่งเอ้ย ผมควรเชื่อในสิ่งใดกัน

     

    .

    .

    .

     

    *①

    生まれ落ちたその時には 泣き喚いていた

    Umareochita sono toki niwanakiwameite ita

    ยามเกิด ผมร้องไห้กระจองอแง ]

    泣き喚いていた (nakiwameite ita) "ร้องไห้เสียดัง, ร้องไห้โฮ" เราคิดว่าท่อนนี้สามารถแปลได้ 2 ความหมายค่ะ

    ความหมายแรกเราดูจากประโยคข้างหน้าที่หมายถึงการเกิด เด็กทารกเมื่อเกิดมาแล้วจะร้องไห้งอแงเสียงดัง

    และอีกความหมายที่เรารู้สึกว่าสามารถเป็นไปได้ เพราะเพลงนี้พูดถึงชีวิต สิ้นหวังในความเชื่อ ในท่อนที่บอกว่าร้องไห้โฮ ร้องไห้สะอึกสะอื้นนี้ อาจเกิดขึ้นกับเขาที่โตเป็นผู้ใหญ่และนึกย้อนเสียใจที่ตัวเองเกิดมาค่ะ

     

    *②

    抜いたその瞬間 飛沫を上げて

    Nuita sono shunkan shibuki woagete

    นาทีที่ถอนมีดออกละอองน้ำสาดกระเซ็น

    涙が噴き出すでしょう?

    Namida ga fukidasu deshou?

    ไม่อาจกลั้นน้ำตาได้ล่ะสิ ]

    飛沫 (shibuki) "ละอองน้ำ" เราตีความว่าน้ำที่เขาหมายถึงคือน้ำตา ให้ภาพว่าเจ็บปวดมากจนน้ำตาไหลนองหน้า น้ำตาพรั่งพรูขนาดไม่สามารถสะกดกลั้นได้ค่ะ

     

    *③

    自分の居場所でさえも見失っているの

    Jibun no ibasho de sae momiushinatte iru no

    แม้แต่สถานที่ที่ผมยืนอยู่ก็หายลับจากสายตา ]

    ท่อนนี้เราคิดว่าต้องการสื่อว่าดวงตามืดบอด มองไม่เห็นหนทาง ไม่เห็นแม้กระทั่งการก้มลงมามองปลายเท้า ตนเองอยู่แห่งหนไหนก็ไม่อาจรู้ได้ค่ะ




    หากแปลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in