"เกลเลิร์ตกรินเดลวัลด์"
เมื่อสิ้นสุดเสียงแนะนำตัวคนที่ยืนอยู่หน้าห้องก็ย้ายตัวเองมาทิ้งตัวลงตรงโต๊ะใกล้ๆเขา เสียงดังจากเก้าอี้เรียกความสนใจจาก อัลบัส ดัมเบิลดอร์ที่ก้มหน้าอ่านหนังสือให้เงยขึ้นมองผู้มาใหม่
เด็กหนุ่มผมแดงสังเกตคนโต๊ะข้างๆจากหางตา ผมสีทองสว่าง ใบหน้าคมกับท่าทางนิ่งๆที่เกือบจะเรียกได้ว่าสงบนั้นดูมีเสน่ห์แปลกๆยังไงชอบกล
พลันนัยน์ตาสีฟ้าก็หันมาสบเข้ากับของเขา อัลบัสสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกจับได้ว่ากำลังทำพฤติกรรมที่เสียมารยาทอยู่ แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มผมแดงจะได้เอ่ยคำขอโทษเขากลับเห็นอีกฝ่ายยกยิ้มมุมปากพร้อมกับเสียงหัวเราะทุ้มต่ำที่ไม่ดังมากจากอีกฝ่าย
อัลบัสรีบหันหน้าหนีไปอีกทางด้วยความอายเกินจะทน พอดีกลับที่อาจารย์ประจำวิชาเดินเข้ามาแล้วเริ่มการสอนจากนั้นเขาก็ทำเป็นไม่สนใจเด็กใหม่คนนี้อีกเลยตลอดชั่วโมงประวัติศาสตร์
เอาเข้าจริงๆ มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
เพราะตลอดชั่วโมงอีกฝ่ายเอาแต่จ้องเขาน่ะสิ! ก็ไม่รู้หรอกว่าถูกจ้องจริงๆหรือเปล่า แต่รู้สึกได้ว่านัยน์ตาสีฟ้าจะหันมาทางเขาบ่อยเกินไปแล้ว
หรืออีกฝ่ายเคืองที่เขาทำกริยาไร้มารยาทแบบนั้นใส่
อึดอัดชะมัด!!
"คุณกรินเดลวัลด์"
แต่เหมือนสวรรค์จะเข้าข้างเขาเมื่อมิสเตอร์บรันช์อาจารย์ประจำวิชาประวัติศาสตร์เรียกชื่อเจ้าของดวงตาสีฟ้าอย่างกระทันหัน
เจ้าตัวเองก็ไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านแต่อย่างใด เพียงหันหน้ากลับไปยังทิศทางที่มิสเตอร์บรันช์ยืนอยู่
"ครับ"
มันขนาดนั้นเลยหรอ
ตอนนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่ เกลเลิร์ตกรินเดลวัลด์ อัลบัสเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
พอลองได้สังเกตตรงๆแล้วเจ้าตัวดูแบดไม่น้อย ห่วงสีเงินอันจิ๋วที่อยู่ตรงหูและจมูกนั่่นบอกได้เป็นนัยในความคิดของอัลบัส
"คุณพอจะบอกอะไรเราเกี่ยวกับเรื่องของคอนสแตนติน (Constantine)ได้บ้างไหม"
"....."
"อะไรก็ได้"
เหมือนกับว่าทุกคนพร้อมใจกันเงียบและรอคอยคำตอบที่จะออกมาจากปากของกรินเดลวัลด์
"ผมรู้ว่าแค่ว่าพระองค์ย้ายเมืองหลวงจากโรมไปไบแซนติอุม(Byzantium) แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น'คอนสแตนติโนเปิล' (Constantinople) ตามพระนามของพระองค์" เขาค่อยๆลุกขึ้น ก่อนจะตอบด้วยท่าทีที่ดูเหนื่อยหน่ายแต่ยังคงความนิ่งและสุภาพเอาไว้ได้เพราะสำหรับเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ แล้ววิชาประวัติศาสตร์นั้นมันช่างน่าเบื่อเสียเหลือเกิน เขาไม่ชอบมันและคิดว่าคงไม่มีวันชอบ
หลังสิ้นเสียงทุกคนในคลาสพากันหันไปหามิสเตอร์บรันช์ หวังจะได้คำเฉลยจากเธอ
และคำตอบที่ได้ยินก็ทำให้ทุกคนในห้องต้องถอนหายใจโล่งอกออกมาแทบจะพร้อมกัน
"นั่นดีมากคุณกรินเดลวัลด์"
จะไม่ให้ลุ้นได้ยังไงในเมื่อคุณครูของพวกเขาเล่นถามนักเรียนที่พึ่งย้ายเข้ามาใหม่อย่างไม่มีปี่มีคลุ่ยขึ้นมาอีกเเล้วน่ะสิ จะว่าชินก็ไม่เชิง เพราะทุกครั้งที่มีเด็กย้ายเข้ามามิสเตอร์บรันช์จะเริ่มถามคำถามพวกเขาเหมือนเป็นการรับน้องอย่างไรอย่างนั้นและดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะเป็นอีกคนที่ทำให้เธอประทับใจไม่น้อย
กรินเดลวัลด์พยักหน้าให้เธอเป็นเชิงขอบคุณครั้งหนึ่งก่อนจะนั่งลงแล้วเอามือขึ้นมาเท้าคาง
"มีใครอยากจะเสริมอะไรต่อจากคุณกรินเดลวัลด์ไหม"
จะว่ายังไงดีล่ะถึงอาจารย์จะถามกลับมาแบบนั้น ก็คงจะไม่มีใครอยากที่จะลุกขึ้นมาตอบหรอกเพราะหากตอบผิดขึ้นมาหัวข้อบทสนทนาต่อไปที่นักเรียนจะได้ยินไปตลอดสองอาทิตย์ก็คงจะมีแต่เรื่องของคอนสแตนตินเป็นแน่
แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้อัลบัสยกมือขึ้นท่ามกลางความเงียบ
มิสเตอร์บรันช์มองลอดแว่นอันกลมเล็กๆของเธอมาที่เขา
"มิสเตอร์ดัมเบิลดอร์"
"ครับ
" แต่ทั้งนี้กลับทำให้ประชาชนเริ่มรู้สึกแบ่งแยกทางจิตใจทางตะวันตกซึ่งมีอิตาลี สเปน โลกยังยึดอารยธรรมโรมันอยู่ (Romanization)
เขาก้มหน้ามองหนังสือที่เต็มไปด้วยลอยปากกาและไฮไลท์สีพาสเทลซึ่งมองดูแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายตามากขึ้นทีเดียว
"นั่นเป็นคำตอบที่เยี่ยมมากเลยคุณดัมเบิลดอร์น่าประทับใจที่สุด" คงไม่ต้องบอกหากจะถามว่าศิษย์คนโปรดของเธอคือใคร เพราะเขาเป็นเด็กอีกคนที่ตอบคำถามวิชามิสเตอร์บรันช์ได้ในตอนที่พึ่งย้ายเข้ามาใหม่เมื่อสามสี่ปีที่แล้ว นั้นทำให้บรันช์นึกถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อนที่เด็กชายผมแดงลุกขึ้นตอบคำถามของเธอด้วยความเขินอายบวกกับความไม่มั่นใจในตนเองที่ทำให้คุณครูประจำวิชาประวัติศาสตร์นึกเอ็นดูเขาขึ้นมา
แต่สิ่งที่ทำให้มิสเตอร์บรันช์ชอบอัลบัสคือ ความกล้าต่างหาก
เพราะคำตอบที่เด็กน้อยพูดออกมาในตอนนั้นไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องเสียหน่อย แต่อัลบัสกลับกล้าที่จะพูดมันออกมาและครั้งนี้เขาทำให้เธอเห็นพัฒนาการที่มากขึ้นไม่น้อย
แต่อัลบัสมักจะมาให้เธอสอนเรื่องราวต่างๆให้เขาอยู่เสมอๆ เธอเชื่อว่าสักวันเด็กคนนี้อาจจะเป็นแรงบัลดาลใจให้เพื่อนๆในคลาสสนใจเรียนวิชานี้ขึ้นมาบ้างก็ได้
แม้ว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนไปก็ตาม
เธอเริ่มสอนต่อทุกคนกลับไปสนใจหนังสือบนโต๊ะของตนอย่างตามเคยแต่กลับมีเพียงนัยน์ตาสีฟ้าที่ยังคงมองเด็กหนุ่มผมแดงด้วยความสนใจ
เจ้าตัวเองก็คงรู้สึกตัวว่ากำลังถูกมองจึงเอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตาเขาเสียทีแอบเห็นสีแดงฝาดที่หูของคนผมแดงเสียด้วยสิ
แหม่ เกลเลิร์ตชักจะเริ่มสนใจเรียนวิชาเรียนประศาสตร์ขึ้นมาเสียแล้ว
.................................
มันขนาดนั้นเลยหรอ
ที่ว่าน่ะ.....
ใช่ มันขนาดนั้นเลยแหละ
เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเด็กที่คงแก่เรียนนัก แต่กลับโปรดปรานวิชาคณิตศาสตร์มากกว่าวิชาอื่น พูดง่ายๆก็คือ มันเป็นวิชาที่เขาชอบที่สุด
อาจเพราะว่าคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่มีตัวเลขเป็นอนันต์ สูตรตายตัวที่ไม่เคยบิดเบือน แต่กลับทำให้ผู้คนที่หาคำตอบกันแถบตายต้องเครียดจนหัวฟู เพราะสุดท้ายก็ได้ออกมาไม่เหมือนกัน มันเป็นวิชาที่เรียกได้ว่าละเอียดอ่อน ต้องใช้ความใจเย็นและมีสมาธิถึงจะตีโจทย์ข้อนั้นให้แตก ซึ่งเกลเลิร์ตคิดว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายเขาเสมอเวลาได้เรียนวิชานี้
แต่ไม่ใช่กับอัลบัส
เขาเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ชอบวิชาที่มีตัวเลขมันยุ่งเหยิงแถมเข้าใจยาก กฎและข้อห้ามสารพัดข้อที่อ่านไปก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้
เขาเคยพยายามตั้งใจเรียนเเล้ว สาบานได้!
ซึ่งมันก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลย คะแนนเขาก็ยังคงต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานอยู่ดี
เข้าขั้นเลวร้ายเลยล่ะ
"ข้อนั้นต้องเป็นทศนิยมต่างหาก" เสียงทุ้มต่ำที่ดังใกล้ๆทำให้อัลบัสต้องเงยหน้าขึ้น ก่อนจะหันไปมองเด็กหนุ่มผมทองข้างตนเองซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็กำลังชะโงกมองแบบฝึกหัดวิชาเลขที่เขาทำอยู่
"เอ่อ..."เขาไม่รู้จะตอบอีกฝ่ายว่ายังไงดี
"ลองใช้สมการสิเสร็จแล้วค่อยเอาไปแทนค่า แล้วจับพวกมันมารวมกันอีกที"
เนื่องจากลูกสาวของอาจารย์ที่สอนคณิตศาสตร์ป่วยกะทันหัน ท่านจึงรีบออกไปก่อนที่วิชาแรกจะเริ่มเสียอีก แต่ก็มิวายทิ้งการบ้านให้นักเรียนทำเล่นในชั่วโมง ซึ่งส่วนใหญ่ก็นั่งไม่ติดที่หรอก. ออกไปนั่งเล่นกันที่สนามกันเกือบหมดห้องแล้วตอนนี้
"
"...เท่านี้เองนายก็ได้คำตอบแล้ว" สิ้นเสียงของอีกฝ่ายอัลบัสดุ้งเล็กน้อย พึ่งจะรู้สึกตัวว่าตนเองไม่ได้ฟังสิ่งที่กรินเดลวัลด์พูดเลยแม้แต่น้อย
"เอ่อ ขอโทษนะฉัน..ไม่ได้ฟังน่ะ" เขาเป็นคนโกหกไม่เก่ง ซึ่งในเมื่อเป็นแบบนั้น พูดความจริงเสียจะยังดีกว่า ถึงแม้มันจะดูทำร้ายจิตใจคู่สนทนาไปบ้างก็ตาม
"...." เอ่อ...แต่พอมานึกดูอีกที โกหกบ้างก็ดีเหมือนกันนะอัลบัสดัมเบิลดอร์
"คือว่า ขอโท-"
"หึ นายนี่ซื่อดีนะ. สนใจแหวนวงนี้ขนาดนั้นเลยหรอ" ไม่พูดเปล่ายังยกมือข้างที่สวมแหวนวงใหญ่ขึ้นมาตรงหน้าเขาอีกด้วย
"ก็..เปล่าสักหน่อย" พูดพลางเบนสายตาไปอีกทาง โอเค โกหกครั้งที่หนึ่ง คงไม่เป็นไรคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่รู้หรอก
"นายโกหกไม่เก่งนะอัลบัส"
"......"
"นายดูไม่ชอบคณิตฯนะ"
"ทำไมล่ะ?"
“….”
"มันวุ่นวายน่ะ ฉันคิดเท่าไหร่มันก็ไม่เคยได้คำตอบที่ถูกต้องเสียที มันทั้งซับซ้อนและยากเกินกว่าที่ฉันจะเข้าใจได้"
เกลเลิร์ตสัมผัสถึงความจริงใจของหนุ่มผมแดงได้ เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตาอีกฝ่ายตรงๆ แปลกก็ตรงที่ครั้งนี้อีกฝ่ายไม่ได้หลบสายตาเขาเหมือนครั้งก่อนๆ นัยน์ตาสีฟ้าสองคู่สบกันต่างอารมณ์ ต่างความรู้สึก ก่อนที่เกลเลิร์ตจะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน
"เย็นนี้ ... หลังเลิกเรียน
"......"
"นายพอจะติววิชาประวัติศาสตร์ให้ฉันหน่อยได้มั้ย" มันเหมือนประโยคคำสั่งเสียมากกว่าประโยคขอร้อง อาจเป็นเพราะดวงตาที่จ้องมาที่เขาของอีกฝ่ายก็ได้ที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น
"แล้วฉันจะสอนโจทย์ปัญหาให้นายเอง"
มันก็ดูแปลกใหม่ดีนะสำหรับเขาที่ไม่คิดจะสอนใครและให้ใครสอน นอกจากน้องๆของเขาแล้ว
อัลบัสใช้ความคิดอยู่เล็กน้อย ก่อนจะตอบตกลงกับข้อเสนอของเพื่อนคนใหม่
"อืม เอาสิ กรินเดลวัลด์ "
"ไม่ เกลเลิร์ต แค่เกลเลิร์ต"
"อืม เกลเลิร์ต"
มันก็ขนาดนั้นจริงๆนั่นแหล
To be continued .
หรือเปล่านะ5555
เป็นAUกาวๆ ค่ะ จะเบลอๆนิดนึงนะคะ ถาอ่านไม่รู้เรื่องต้องขอโทษด้วย555เบลอจริง
หากผิดพลาดอะไรตองขอโทษด้วยนะคะ ///
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in