เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#เหลือศูนย์Kapitan14
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน บวกยี่สิบห้า
  • เหมือนความยับยั้งชั่งใจถูกฉีกขาด เหมือนคำพูดนั้นเป็นการปลดล็อกโซ่ที่คล้องคอสัตว์ป่าดุร้ายตัวหนึ่งให้มันวิ่งกระโจนออกมา

     

    นันท์ดึงมือของจินเจอร์ขึ้นมาจูบก่อนจะจับมันคล้องคอเขาไม่ให้มาขวางทาง จากนั้นก็ดุนดันตัวตนของเขาเข้าตามความต้องการของคนใต้ร่าง เสียงครางต่ำจากความรวดร้าวที่เสียวปราดไปทั่วสันหลังดังขึ้นให้คนฟังใจสั่นเล่น

     

    “จูบ” ต้นคอของเขาถูกรั้งจากมือสวยที่เกี่ยวกันไว้ นันท์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ค่อยๆเพิ่มจังหวะจากเนิบนาบเป็นกระแทกกระทั้น ก้มลงปล่อยให้ปากตัวเองเฉียดไปมากับคนที่ร้องขออย่างที่เริ่มจะเอาแต่ใจไม่ต่างกัน

    “อื้อ!” คนโดนแกล้งครางฮืออย่างขัดใจก่อนจะแอ่นตัวขึ้นไปกดจูบเองให้หมดเรื่อง ทว่ามันกลับเป็นจังหวะเดียวกันกับที่บางคนคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะกระแทกเข้าให้ลึก จุดที่ทำให้ทั้งร่างหมดแรงเลยโดนตอกย้ำจนกลายเป็นจินเจอร์เองที่มือไม้อ่อน แค่จะจับไหล่กว้างของนันท์ไว้เป็นหลักยึดยังทำไม่ไหว

     

    สุดท้ายเลยเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่พลิกเขานอนคว่ำ กอดรั้งร่างขึ้นมาแนบชิดและกดแทรกเข้ามาถี่รัวอย่างรุนแรง

     

    “ฮ่ะ...อ๊ะ!

    “นันท์รักเจอร์”

    “อย่า—” เพราะว่ากำลังจะสำลักความรู้สึกที่ล้นทะลักจนเหมือนใกล้ตายอยู่แล้ว จินเจอร์เลยร้องขอว่าอย่าทำให้หัวเขามึนตื้อด้วยอะไรที่มากไปกว่านั้น

    “เจอร์รักนันท์มั้ย?”

     

    แต่คนโคตรดื้อแบบนั้นไม่คิดจะฟังบ้างเลย

     

    “รักมาตั้งนาน รักนันท์น้อยลงมั้ย?”

    “แฮ่ก...”

    “นันท์ทำไม่ดี ยังคิดเหมือนเดิมรึเปล่า?”

     

    ใบหน้าคมถูกรั้งให้หันกลับไปรับจูบ นันท์รุกล้ำราวกับอยากค้นคว้าหาคำตอบของคำถามตัวเอง ยิ่งไม่มั่นใจยิ่งกลัวเท่าไหร่ก็ยิ่งกดลึกและเกี่ยวกระหวัดอย่างหนัก ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่กลายเป็นฝ่ายกลัวว่าจินเจอร์จะไม่รัก

     

    แค่อยากให้รู้สึกเหมือนเดิมแล้วก็เพิ่มขึ้นเยอะๆกว่าที่ผ่านมา

     

    “ถ้าเจอร์รักนันท์ไม่เท่าเมื่อก่อนจะทำยังไง”

     

    แค่คิดก็ห้ามสะโพกที่แทรกย้ำตัวตนกับอีกฝ่ายให้เบาลงไม่ได้เลย

     

    “เพราะตอนนี้นันท์รักเจอร์มากๆเลย”

     

    แล้วคนที่ถูกต้อนถามเรื่องที่ชัดเจนจนไม่รู้ว่าจะทำให้ชัดไปกว่านี้ได้ยังไงก็กลายเป็นฝ่ายพลิกคร่อมจนได้ จินเจอร์กดข้อมือหนาแนบไปกับเตียงก้มมองคนที่คับแน่นอยู่ในตัวเองและสบตาดุดันอย่างคาดโทษ

     

    “ไม่รู้ได้ยังไง?”

     

    ยกสะโพกขึ้นมาและทิ้งตัวลงไปจนสุด น้ำหนักของเขากับแรงโน้มถ่วงทำหน้าที่ของมันจนอีกฝ่ายเข้ามาลึกกระทั่งสัมผัสถึงกระแสไฟฟ้าหรืออะไรสักอย่างที่ให้ความรู้สึกคล้ายกันวิ่งวนไปทั่วร่าง

     

     “เจอร์ทำไม่ชัดตรงไหนถึงไม่เห็น?”

     

    คนที่ไม่รู้ไปเก่งมาจากไหนทั้งที่ช่วงชีวิตที่ผ่านมาก็มีแค่คนเดียวในใจเสมอกำลังหมุนควงความแข็งขืนในร่างกายมันปาดป่ายมั่วไปหมด สัมผัสโดนจุดที่ทำให้ต้องเผลอร้องครางออกมาบ้าง บางจังหวะก็บีบรัดจนเป็นนันท์ที่สูดปากออกมาบ้าง

     

    อาจเป็นเพราะความคิด...

     

    “ยอมรับว่าโกรธเสียใจด้วยที่นันท์ทำตัวเหี้ยใส่”

     

    ลึกลงไปก็คิดมาตลอดว่าถ้าวันนึงนันท์ครอบครองเขาและเขากลายเป็นเจ้าของนันท์จะเป็นยังไง

     

    “แต่รู้มั้ยว่ามันโคตรน่าหงุดหงิด...”

     

    แล้วพอถึงวันนี้ที่ได้ทำทุกจังหวะการสอดใส่ ทุกสีหน้าที่แสดงออก ทุกลมหายใจที่แลกเปลี่ยนกัน

     

    “ที่ไม่เคยรักน้อยลงเลย”

     

    กลายเป็นความฝันที่ถูกเติมเต็มด้วยความจริง ทุกสัมผัสมีมิติมากกว่าที่คิดเอาไว้และมันเทลงในช่องว่างที่ตั้งใจเว้นเพื่อคนคนเดียวตั้งแต่วันที่ไม่เห็นเศษเสี้ยวความเป็นไปได้ จนกระทั่งวันนี้ที่ทุกอย่างชัดเจนในสายตา...ก็ไม่มีสักอย่างที่เปลี่ยนไป

     

    “นันท์ขอโทษ”

    “กังวลหรือไง?” เสียงแผ่วกระท่อนกระแท่นเพราะความรู้สึกทางร่างกายขัดขวางการทำงานของสมองดังขึ้นข้างหู นันท์จับมือคนที่นั่งคร่อมด้านบนมาแนบไว้ข้างแก้มไล่จูบทุกนิ้วอย่างตั้งใจและพยักหน้ายอมแพ้

     

    คิดถึงการกระทำที่ผ่านมาเมื่อไหร่ก็ไม่เคยปัดความรู้สึกผิดและกังวลใจออกไปได้เลยสักครั้ง

     

    “จะไม่บอกหรอกว่าไม่เป็นไร” อย่างที่จินเจอร์เชื่อตลอดมาว่าคำนั้นมันไม่ควรถูกใช้เลย เพราะความจริงแล้วคนถูกกระทำ เป็น กับพลังด้านลบที่ได้รับมาเสมอ

     

    “แต่อยากให้มั่นใจว่าถึงเจ็บแค่ไหนก็รักแต่นันท์”

     

    รอยยิ้มอ่อนใจถูกระบายขึ้นเมื่อนันท์ชูสองแขนขึ้นเพื่อให้ก้มลงไปกอด

     

    “คนเดียว”

     

    คำยืนยันถูกขอบคุณด้วยการหอมแก้มแดงๆชื้นเหงื่อของคนบนร่าง นันท์จับล็อกสะโพกจินเจอร์และกระแทกตัวสวนขึ้นเหมือนอยากจะเอาใจอยากทำให้รู้สึกดีเพราะรู้ว่าเรื่องที่ผ่านมาเขาทำได้แค่เรียนรู้เก็บเอาไว้เตือนตัวเอง ไม่มีทางแก้ไขให้ความเจ็บปวดที่เจอร์เคยรู้สึกหายไปได้หมดร้อยเปอร์เซ็นต์

     

    “มะ มันลึก”

    “นันท์อยากอยู่ใกล้เจอร์ ให้นันท์เข้าไปลึกๆนะครับ”

    “แต่—”

    “คนเก่งให้นันท์ไถ่โทษนะ” เขาลูบหัวคนที่หมดแรงและซุกหน้าอยู่กับไหล่กว้างอย่างนึกรัก แค่คิดว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่วันนี้ยังได้กอดอีกฝ่ายก็ไม่อยากเสียเวลาสักนาทีไปกับอย่างอื่นเลย

     

    จินเจอร์กระตุกเกร็งก่อนจะถึงจุดสิ้นสุดของความพอใจทางร่างกายอย่างพ่ายแพ้ สิ่งที่ไม่เคยคิดว่ามีวันเป็นไปได้กลายเป็นความอบอุ่นในอ้อมกอด และเพราะไม่เคยคาดหวังความเต็มตื้นของทุกอย่างที่ได้รับมันเลยมากขึ้นไปอีกหลายเท่า

     

    นันท์ขมวดคิ้วมุ่น ปลายคางมนเชิดขึ้นเมื่อถูกบีบเค้นจนร้อนไปทั้งอก เขาประคองสันกรามของอีกคนและกระชากเข้ามาจูบ ชะงักกับความรุนแรงของตัวเองที่มีหลักฐานเป็นกลิ่นคาวเลือดคลุ้งขึ้นในปากชัดเจน ทว่าเพียงครู่เดียวรอยจูบปลอบโยนจากจินเจอร์ก็ทำให้หัวของเขากลับมาขาวโพลนใหม่อีกครั้ง

     

    ถ้ารุนแรงเพราะควบคุมความต้องการในตัวเขาไม่ไหวก็ไม่ใช่เรื่องน่าโกรธเลย, จินเจอร์เชื่ออย่างนั้น

     

    ในเมื่อเขาเองไม่ใช่คนเปราะบางที่จะรับมันไม่ได้ อีกอย่างคือเขาอยากเป็นอะไรที่นันท์นึกอยากไขว่คว้ามาเสมอ

     

    “เจอร์...มัน”

    “ทำเถอะ เดี๋ยวค่อยล้าง”

              “ซี้ด..!

     

              ‘You broke myheart, but I still love you with all the pieces.’

     

    ถึงวันนี้ความรู้สึกเขาจะถูกป่นลงจนแตกละเอียดหรือถูกส่งให้เจ้าของที่พร้อมจะตอบรับมัน ประโยคนี้ก็ยังคงเป็นจริงในทุกสถานการณ์

     

    เพราะทุกส่วนของเขารักนันท์

     

    ไม่ว่าจะถูกฉีกทึ้งหรือจับถอดออกจากกันเป็นชิ้นที่พังไปหมดก็จะเป็นอย่างที่บอกไป

     

    ไม่ว่าประโยคในหัวจะมีกรรมมารองรับหรือไม่มี

     

    เขารัก

     

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in