เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิว - EverYMarina Book Blog
รีวิว - กระบี่คู่หานซาน : ห่าวต้าอีเจวี่ยนเว่ยเซิงจื่อ

  • เรื่องย่อหลังปก
    ในโลกของผู้บำเพ็ญพรต การได้เป็นคู่ร่วมบำเพ็ญของอริยกระบี่ถือเป็นสุดยอดแห่งความโชคดี
    ผู้คนล้วนริษยาเขา ‘เมิ่งเสวี่ยหลี่’ ที่ได้ครอบครองความโชคดีนั้น
    แต่ผ่านไปเพียงสามปีคู่ร่วมบำเพ็ญของเขากลับสิ้นอายุขัย
    ทิ้งเขาให้เป็นม่าย ความสงบสุขจางหายทันใด
    ทว่าเขาไม่อาจเชื่อ เพราะคนตายต้องเห็นศพ
    เพื่อสืบเรื่องนี้เมิ่งเสวี่ยหลี่ยอมก้าวออกจากยอดเขาฉางชุนสู่โลกภายนอก
    จากที่วันๆ ทำเพียงปลูกต้นไม้เลี้ยงปลาจนถูกก่นด่าดูแคลนลับหลัง
    ก็ต้องไปศึกษาเรียนรู้ลับวิชาเพื่อเข้าร่วมการประลองแดนสนธยา
    ที่ผู้ชนะจะได้กระบี่ของ ‘จี้เซียวเจินเหริน’ เป็นรางวัล
    ...เขาจะไม่ยอมให้ ‘ของดูต่างหน้า’ ชิ้นนี้ตกเป็นของผู้อื่น
    และจะไม่ยอมให้ผู้ใดมาเทียบเคียงแทนที่คู่ร่วมบำเพ็ญของเขาได้ทั้งนั้น
    โดยเฉพาะศิษย์น้อง ‘เซียวถิงอวิ๋น’ ที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้น และผู้คนต่างกล่าวขานว่า
    มีคุณสมบัติไม่ต่างอันใดกับจี้เซียวเจินเหรินสักกระผีก
    ...ชื่อเสียงและสมบัติของสามี ภรรยาที่ดีต้องปกป้องมิใช่หรือไร



    คุยกันหลังอ่าน (สปอยล์สุดๆ)
    เรื่องนี้จริงๆเป็นเรื่องที่เราอยากอ่านมานานแล้วค่ะ จริงๆตอนที่ซื้อพวกทรราชบัญชา รัชทายาทหวนคืนอะไรงี้ เราก็คิดแล้วว่าจะซื้อกระบี่คู่หานซานด้วยเลยดีมั้ย แต่ก็ไม่ได้ซื้อ จนตอนนี้เพิ่งจะได้อ่าน (สุดท้ายก็ซื้ออยู่ดี)

    จริงๆตอนที่ตัดสินใจว่าจะซื้อไม่ซื้อตอนนั้น ไปดูรีวิวมา มีคนบอกว่าเรื่องนี้หวานอมขม แถมปรัชญาเยอะ เราก็เลยลังเล เอ๊ะ หรือจะไม่อ่านดีนะ แต่คนก็บอกกันว่าเพียงพอนน่ารักนี่นา พอมาอ่านจริงๆเลยอยากรู้มากค่ะว่ามันเป็นยังไง สรุปแล้วก็เป็นตามนั้นจริงๆ ถ้าให้เราพูด เล่มหนึ่งคือน่ารักมาก หวานแหวว ใจเต้นตึกตัก มีอารมณ์ขัน ฟูฟ่องเหมือนกับขนสีขาวนุ่มนิ่มของเพียงพอน พอเล่มสองก็เริ่มเข้มข้นขึ้น เนื้อเรื่องเริ่มขมวดเข้าหากัน แต่พระนายก็ยังคงมีซีนหวานแหววทำความเข้าใจหวีผม แปรงขนให้กัน พอเล่มสามเท่านั้นแหละ รู้สึกว่าอืมมม...บุญคุณความแค้นเอย การบรรลุมรรคาเอย ประตูสวรรค์เอย ปรมัตทั้งหลายเอย พออ่านจบถึงขั้นรู้สึกไม่อิ่มอกอิ่มใจ คือรู้สึกมากๆว่า ควรจะมีมากกว่านี้รึเปล่า อยากได้ซีนตอนจบของพระนายที่มันมากกว่านี้น่ะะะ!

    555 โอเคค่ะ มาที่พลอตเรื่องกันบ้าง พลอตเรื่องนี้คือ นายเอกเมิ่งเสวี่ยหลี่เป็นจอมอสูรที่ร่างจริงเป็นเพียงพอน ถูกกบฏแล้วก็ถูกตามฆ่าจนเกือบตาย ตอนกำลังจะตายกระเสือกกระสนไปเจอพระเอกจี้เซียว ขอร้องให้พระเอกช่วยตัวเองไว้ พระเอกก็ช่วยเอาไว้ เลี้ยงดู ไปขอสมุนไพรจากศิษย์พี่มาช่วยชีวิตเพียงพอน แล้วก็หาฐานะให้อยู่ในสำนักหานซาน ด้วยการเป็นคู่บำเพ็ญด้วยกัน แต่ถึงจะพูดว่าเป็นคู่บำเพ็ญ สามปีที่อยู่ด้วยกัน กลับไม่เคยมีอะไรกันเลย สุดท้ายจี้เซียวบอกว่าเดี๋ยวมีอะไรจะให้แล้วก็ออกไป แล้วก็ตายค่ะ หลังจากนั้นพระเอกกลับมาทีสำนักในร่างของเด็กหนุ่ม กลายมาเป็นลูกศิษย์ของนายเอก นายเอกเข้าใจว่านี่คือลูกพระเอกจากข้างนอก ก็เลยเลี้ยงดูอย่างดี ประมาณนี้ พลอตหลักของเรื่องนี้นอกจากเรื่องของพระนายเป็นบุญคุณความแค้นระหว่างสำนัก การบรรลุมรรคาอะไรทำนองนี้

    สิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ มันแบบมีหลายประโยคที่แทงใจมาก เราค่อนข้างชอบปรัชญาหรือข้อคิดที่แฝงอยู่ในเรื่องนี้

    อย่างเรื่องของหูซื่อ ศิษย์พี่ของพระเอกเนี่ย บอกตรงๆตอนอ่านจุดจบของหูซื่อ (ช่วงไคลแมกซ์) เราอ่านไม่เข้าใจเลยตอนแรก แบบงง ห้ะ เกิดอะไรขึ้น จนต้องกลับไปอ่านไอ้สี่ห้าหน้านั้นใหม่อีกรอบ ไม่รู้ว่าหูซื่อรู้สึกยังไงที่เรื่องราวจบลงแบบนี้ ทั้งที่เป็นปรมัตที่สามารถทำนายได้ แต่กลับไม่สามารถบรรลุสวรรค์ได้ แถมยังพลาดไปแค่ครู่เดียวเท่านั้นเอง หรือรู้สึกเสียใจบ้างไหมที่เรื่องราวเป็นแบบนี้ รู้สึกเสียใจกับจี้เซียวบ้างไหม หรือรู้สึกยังไงที่เรื่องเข้าใจผิดระหว่างตัวเองกับนกยูงทำให้หูซื่อเลือกเดินทางเซียน ได้รู้สึกเสียใจทีหลังรึเปล่า หรือเป็นอย่างที่เถ้าแก่เฉียนบอกแค่เสียดายเท่านั้น คือรู้สึกว่าเรื่องของหูซื่อกับนกยูงมันเป็นเรื่องของความแบบคลาดกันแล้วก็ไม่ได้พูดกันดีๆ ไม่เข้าใจกันแค่นั้นเอง นกยูงก็ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งหูซื่อแบบนั้น ฉากที่นกยูงสละขนนกเพื่อขอมุกฉลามเพื่อเอาไปให้หูซื่อนี่คือแบบ...TT^TT คู่นี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าตั้งใจจะสื่อออกมาเป็นแค่ romantically รึเปล่า แต่ถ้าให้เราดูมันอาจจะแบบปนๆกันไปทั้ง romantically และ platonic แบบคิดว่าเค้าใส่ใจกันและกัน ตัวตนของนกยูงต้องกินพื้นที่อย่างมากในใจหูซื่อ เป็นสาเหตุที่ทำให้หูซื่อตัดสินใจครั้งใหญ่ๆหลายครั้ง

    เรื่องของพระเอกจี้เซียว สิ่งที่เราติดใจที่สุดของจี้เซียวคือตอนที่เมิ่งเสวี่ยหลี่ถามว่า ในภาพมายาเห็นอะไรเป็นอย่างสุดท้าย แล้วจี้เซียวตอบว่าเห็นประตูสวรรค์อะ คือเราจำได้ว่าก่อนหน้าที่จะเห็นภาพสุดท้าย เป็นภาพของเพียงพอนที่พูดว่า ใต้เท้าอริยกระบี่ได้โปรดรั้งเท้าก่อน ในใจของจี้เซียว สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าอาจารย์ ยิ่งกว่าศิษย์พี่ ยิ่งกว่าหานซาน ก็คือ เพียงพอนที่ตัวเองช่วยมาในวันนั้น แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าเพียงพอนคือการบรรลุมรรคา ตอนสุดท้ายที่ประตูสวรรค์เปิดจริงๆ จี้เซียวกลับไม่เลือกที่จะเข้าประตู กลับพาเมิ่งเสวี่ยหลีลงมาแล้วรอบรรลุมรรคาไปด้วยกันในอีกหลายสิบปีให้หลัง

    แต่คือเราก็ชอบความสัมพันธ์ของสองคนนี้นะ สัมผัสได้ว่าเค้ารักกันมากจริงๆ ตอนหลังจากที่หูซื่อตาย เมิ่งเสวี่ยหลี่ขออยู่คนเดียวสักพัก จี้เซียวก็ตามปลอมเป็นคนอื่นไปช่วยดูแล (จริงๆอยากเห็นตอนพิเศษของสองคนนี้หลังหูซื่อตาย แบบอะไรก็ได้ แต่ดันไม่มี)

    คนที่เราชอบที่สุดในเรื่องคือ เมิ่งเสวี่ยหลี่ เรารู้สึกว่าเป็นนายเอกสาย free spirit แบบที่สมกับเป็นอสูร เรารู้สึกว่าเมิ่งเสวี่ยหลี่มีความเป็นคนดีที่สุดคนนึงในเรื่อง มีจิตใจที่มอบให้ผู้อื่นอย่างจริงใจ กระทั่งมรรคาของเมิ่งเสวี่ยหลี่ก็ยังเป็นชีวิต คือแบบทั้งจี้เซียวแล้วก็เมิ่งเสวี่ยหลี่ ทั้งสองคนเป็นคนที่มีความคิดยิ่งใหญ่ อยากเปลี่ยนแปลงแผ่นดินเหมือนกัน แต่เราชอบเมิ่งเสวี่ยหลี่มากกว่า เราคิดว่าจี้เซียวมีความแบบเผด็จการอยู่ในตัว อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนตาย ไม่เข้าใจมนุษย์ ไม่เข้าใจจิตใจคนอื่น ไม่เข้าใจความรักก็ได้ละมั้ง แล้วก็เป็นอย่างที่เมิ่งเสวี่ยหลี่บอกว่า แม้ว่าจี้เซียวจะกลับมาเกิดใหม่ ตอนนี้เข้าใจคนอื่น มีความรักแล้ว แต่โดยเนื้อแท้ จี้เซียวก็ยังคงเป็นจี้เซียว

    อีกคนที่น่ารักมาก fluffy สุดๆคือ อวี๋ฉี่ซู เป็นตัวละครสาย positive ทุกคนรัก ทุกคนเอ็นดู ตั้งแต่ชรายันเด็กน้อย แอบรู้สึกว่าถูกวางมาให้คู่กับเถ้าแก่เฉียน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าสองคนนี้ develop ความสัมพันธ์ไปในทาง romantically เท่าไหร่นะ 

    ซีนนึงเกี่ยวกับอวี๋ฉี่ซูที่เราชอบมากคือ ตอนที่ถูกถามเรื่องศิษย์พี่ศิษย์น้อง คือรู้สึกว่าคนเขียนตั้งใจ imply ถึงหูซื่อกับจี้เซียว ซึ่งก็เป็นการบอกกลายๆว่าในตอนนั้นหูซื่อต้องรู้สึกแบบนั้นแน่ๆ แต่กับอวี๋ฉี่ซูกลับไม่มีความรู้สึกแบบนั้นเลย คือเป็นตัวละครที่แบบ pure มากๆ เป็นคนซื่อมากๆ 

    ความสัมพันธ์ที่เซอร์ไพรซ์สำหรับเราคือ เซิ่นโซ่วน้อยกับหลิวหั่วหรือเฒ่าเซิ่น คือในบรรดาตัวละครทั้งหมดไม่นับเมิ่งเสวี่ยหลี่กับจี้เซียว มีแค่คู่นี้เท่านั้นที่เรารู้สึกว่ามัน imply ไปทาง romantically เริ่มตั้งแต่นกยูงที่ถามคนอื่น(ที่ไม่เห็นด้วยกับการที่เซิ่นโซ่วน้อยจะไปหาเฒ่าเซิ่น)ว่า เคยบำเพ็ญคู่เหรอ มีประสบการณ์ทางด้านนี้หรือไง (ถึงได้มาออกความเห็น) อะไรทำนองนี้ ตอนแรกเราก็รู้สึกตะหงิดแล้ว ยิ่งเมื่อรวมกับประโยคที่เซิ่นโซ่วน้อยบอกกับเฒ่าเซิ่นว่า 'ดอกจินซือเถาบนโลกมีนับหมื่นพัน ข้าเด็ดเพียงดอกเดียวมิชำเลืองอื่นใดอีก' จากที่ตอนแรกเซิ่นโซ่วน้อยไม่รู้จะเลือกดอกไหนเพราะในสวนมีดอกที่สวยแบบนั้นแบบนี้เต็มไปหมด จนอวี๋ฉี่ซูพูดทำนองว่าให้เลือกด้วยใจ พอเซิ่นโซ่วน้อยพูดประโยคนี้กับเฒ่าเซิ่น ซึ่งมีปมเรื่องตัวเองรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดจนต้องหลบอยู่ในหอคอย มันก็ชวนให้รู้สึกว่า romantic มากๆเลยอะ ในสวนดอกจินซือเถาทั้งสวนที่มีดอกที่สวยแบบนั้นแบบนี้ เซิ่นโซ่วน้อยใช้ใจเลือกแล้วก็ 'ข้าเด็ดเพียงดอกเดียวมิชำเลืองอื่นใดอีก' มันก็เหมือนเซิ่นโซ่วน้อยที่ผ่านเหตุการณ์ต่างๆมา เจอคนมามากมาย แต่สุดท้ายก็มาหาเฒ่าเซิ่นอะ

    เรื่องที่เราคิดว่าไม่สุดที่สุดนอกจากเรื่องหลังจากนั้นของพระนาย คือเรื่องของจิ่งตี๋ แบบว่ารู้สึกว่าตัวละครนี้ deserve สิ่งที่ดีกว่านี้ อย่างน้อยๆก็ deserve ความสุขอะ

    สรุปแล้ว ถึงจะรู้สึกว่าจบแบบไม่ค่อยเต็มอิ่ม แต่ก็นับว่าชอบค่อนข้างมากนะคะ ออกแบบตัวละครมาได้น่ารัก ทั้งตัวละครหลัก ทั้งตัวประกอบไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ พลอตแบบมีเนื้อมีหนัง ความหวานก็มา ถึงแม้ว่าเอนซีจะตัดเข้าโคมไฟแต่ก็รู้สึกได้ว่าพระนายรักกันแล้วก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแบบ happily ever after เลยแหละ
    แล้วก็แปลดีนะ ลื่นๆอ่านไม่ติดเลย
    รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อย hype กันเท่าไหร่ แต่เราชอบมากนะ



    รีวิวเรื่องอื่นๆทั้งหมด: #marinabookblog
    รีวิวแยกตามสนพ: Home
    รีวิวเรื่องอื่นๆ ของ EverY: EverY

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in