"เฮ้ย ลุกได้แล้ว ไอ้ลีมันไปแล้ว" ปั้นนั่งย่องๆมองสภาพเวทนาของเพื่อนสาว ขณะพยายามหุบปากกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถซึ่งดูแล้ว ต้องบอกว่าคล้ายลิงเข้าไปทุกที
"ไม่" รออยู่นาน กว่าคนที่นอนหมอบแอ้งแม้งอยู่บนพื้นจะตอบ
“แกไม่ลุกเพราะแกอายพวกฉันรู้แต่ยิ่งแกนอนอยู่อย่างนี้ มันก็ยิ่งน่าอายกว่าเดิมอีกนะเว้ย” จีว่า โดยมีแชงกับปั้นพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะหันซ้ายแลขวาเพราะคนเริ่มมองพวกเขามากขึ้น
“ไม่ลุก เราไม่ลุก เราจะนอนอยู่ตรงนี้จนกว่าจะเลิกเรียน” คนนอนหมอบตอบอู้อี้
“เป็นบ้าไปแล้วหรอไอ้บี๋ ลุกขึ้น อายเขา” แชงเขย่าถึงแม้ใจจริงจะอยากใช้เท้าเขี่ยก็เถอะ ทำตัวเป็นเด็กๆ
“ไม่”
“เร็ว”
“ไม่”
“เออ ตามใจ ทิ้งแม่งไว้ตรงนี้แหละ”ว่าเสร็จ เสียงฝีเท้าก็ห่างออกไปเรื่อยๆ จนเงียบสนิทคนนอนนิ่งรอจนแน่ใจว่าพวกเพื่อนเวรไปกันหมดแล้ว สุดท้าย จึงค่อยๆยันตัวขึ้นก่อนจะปัดเศษดิน เศษฝุ่นที่เลอะตามชุดนักเรียนในใจตอนนี้อยากจะกรี๊ดให้รู้แล้วรู้รอด
ฮืออ ทำไงดี ลีต้องเห็นแน่เลยๆ จำไม่ได้ด้วยว่าวันนี้ใส่ตัวไหนมาตัวเก่าเปล่าวะ ฮือออ นี่มันวันซวยอะไรกันเนี่ย
คร่ำครวญภายในใจเสร็จ บี๋เงยหน้าก็ปะทะกับสามตัวนั้น ที่ยังยืนอยู่ตรงจุดเดิมที่สำคัญกำลังพยายามกลั้นหัวเราะจนหน้าดำหน้าแดงจนอยากแช่งให้สำลักลมหายใจตายอยู่ตรงนั้น
“พวกมึงสามตัวไปเลยนะ! พวกมึงไม่ใช่เพื่อนกู ”
“ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!” เห็นแล้วอยากตบกบาลเรียงตัวซะจริงๆ
.
.
.
“ถึงขนาดตัดผมสั้นเลยหรอวะ” แชงมองทรงผมใหม่ด้วยความทึ่ง“ไอ้บี๋ มึงเป็นแนนโน๊ะปะเนี่ย”
“อย่าเสือกได้ป่ะ” ตั้งแต่เมื่อวาน พอเลิกเรียนปุ๊บบี๋ก็ตรงดิ่งไปร้านตัดผมปั๊บ ลีต้องไม่รู้ว่าคนเมื่อวานเป็นใครเพราะยัยเฟอะฟะนั้นมันได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว
“คิดว่าตัดผมแล้วไอ้ลีจะจำไม่ได้หรอ ก๊ากกกนี้ดูละครมากไปป่ะวะ” จีขำจนน้ำตาไหลกับความคิดของเพื่อน
“ไม่แน่นะ ไอ้บี๋อาจจะทำถูกก็ได้” บี๋มองหน้าปั้นเหมือนเจอคนที่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ “ก็เมื่อวานมันล้มหัวทิ่มขนาดนั้นใครจะจำหน้าได้วะ จำได้แต่กางเกงในมันเท่านั้นแหละ ก๊ากกกก”
“สัสปั้น!” คนถูกล้อหน้าบูด
“เออๆ ไม่ล้อละ” ปั้นบอก แต่ก็ยังหัวเราะไม่หยุดอยู่ดี
วันทั้งวันบี๋คอยระวังหน้าระวังหลังอยู่ตลอดเพราะกลัวจะเจอลีโดยบังเอิญ พอเห็นที่ไหน ก็จะเดินเลี่ยงจากจุดนั้นทันทีโดยตั้งปณิธานไว้ว่า ตลอดทั้งเดือนเธอจะไม่เจอเขาจะไม่ให้เห็นหน้าตัวเองแม้แต่นิดเดียวและหนึ่งเดือนนั้นเธอก็มั่นใจว่าลีต้องลืมเรื่องน่าอายนั้นและเธอจะกลับมาด้วยภาพลักษณ์ใหม่ ที่สวยขึ้น ดูดีขึ้นจนลีต้องเป็นฝ่ายสนใจเธอก่อนแน่ๆ
“ไหนบอกว่าหนึ่งเดือนไงวะ ผ่านมายังไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์นี้ยังแอบมองเขาอยู่เลย” แชงมองเพื่อน ที่ทำท่าลับๆล่อๆจนคนในโรงเรียนมองเป็นตาเดียว
“เราบอก ว่าไม่ให้ลีเห็นหน้าเรา ไม่ใช่ว่าเราจะไม่มองหน้าลีซะหน่อย”แชงได้แต่มองบนเอือมกับข้อแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
“แชงงงงงงง ไอ้แชงงงงง”
“อะไร” แชงตอบอย่างรำคาญ
“ลีเดินมาทางนี้ ทำไงดีๆ เขาหันมาทางนี้แล้ว” บี๋ลุกลี้ลุกลนมองซ้ายมองขวาเพื่อหาที่ซ่อน
แชงมองตามที่เพื่อนบอกก็เห็นว่าลีกำลังเดินผ่านจุดที่พวกเขายืนอยู่จริงๆ “หันหน้าเข้ากำแพงก็สิ้นเรื่อง”
“เออ!” บี๋ตบมือฉาดมองแชงด้วยแววตาทึ่ง “ฉลาดว่ะเพื่อน” ก่อนจะทำตามทันที
“มายังๆ”
“กำลังมา เงียบๆดิวะ” แชงเอ็ด ก่อนจะมองลาดเลาให้เพื่อน
“ผ่านไปยัง”
“กำลัง เงียบๆดิ๊”
“ไปยังๆ”
“จะผ่านละ”
พรึ่บ!
“เหี้ย!!”
“จริงดิ” แชงพยักหน้า
“ก๊ากกกกกกกก” พอฟังจบทั้งปั้นและจีแทบจะกลิ้งลงไปกับพื้น
“กูว่าพวกเราควรพาไอ้บี๋ไปทำบุญ สะเดาะเคราะห์กันบ้างนะ”
“บริจาคกางเกงในร้อยตัวเป็นไงมึง” จีเสนอ
“เจ๋งเป้งไปเลยเพื่อน” ปั้นยกมือกดไลค์ให้ไอเดียสุดบรรเจิด
“เอาไว้ให้แม่พวกมึงใส่เหอะ” บี๋ยิ้ม พร้อมยกนิ้วกลางเป็นของสมนาคุณ “คนยิ่งอายๆอยู่”ก่อนจะหมอบหน้าลงกับโต๊ะอีกครั้ง
ทุกคนสงสัยใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น หึ
.
.
.
กกน.โผล่อีกแล้ววว! โว้ยยยยยยยยย
นี้มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของไอ้บี๋จังหวะที่แชงบอกว่าลีกำลังเดินผ่าน จู่ๆ ลมก็พัดหวืบบบบบเข้ามาในใจบี๋คิดว่าเย็นดีก็เท่านั้น จนกระทั่งแชงตะโกนออกมาเท่านั้นแหละไอ้ที่รู้สึกเย็นดี ก็เพราะกระโปรงแทบจะคลุมหัวอยู่แล้วไง!
จบกัน ชีวิตความรัก จบสิ้นแล้ว
“ตัดใจเหอะว่ะ” ปั้นให้คำแนะนำ “ไอ้ลีคงเห็นแกเป็นมนุษย์กางเกงใน แข่งกับซุปเปอร์แมนไปแล้ว”
“เออ กูเห็นด้วยกับไอ้ปั้น” แชงว่า
“แต่มึงบอกว่าไอ้บี๋หันหน้าเข้ากำแพงนี่หว่า ไอ้ลีคงจำไม่ได้หรอก” จีนึกตามที่แชงบอก
“ใช่ ถ้าเพื่อนที่อยู่ข้างมัน ไม่พูดขึ้นว่า ‘คนเดียวที่กกน.โผล่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไง’ ไอ้ลีก็คงจำไม่ได้หรอก ”
“งั้นก็เชื่อไอ้ปั้นเหอะบี๋” จีกลับลำแทบไม่ทัน “กว่าจะได้คบกัน แกไม่ต้องโชว์กกน.เป็นร้อยรอบเลยหรอวะ”
“ดีไม่ดี ได้คบหรือเปล่าก็ไม่รู้” แชงเหลือบมองเพื่อนที่เอาแต่หมอบ ไม่พูดไม่จา
“นั้นสิ” บี๋ตอบเสียงอ่อย ขณะที่หมอบกับโต๊ะ
.
.
.
.
ปั้นลากบี๋มาดูตัวเองเล่นบาสเนื่องจากแชงและจีติดธุระ ปกติจะมีแค่สองตัวนั้นมาดู และอาจเข้ามาแจมบ้างบางครั้ง
“ไม่อยากมาก็บังคับอยู่ได้” บี๋บ่นกะปอดกะแปดตลอดทางจนถึงสนามบาส
“ก็กลัวจะเศร้าไง เลยชวนมาด้วยกัน เป็นห่วงนะเนี่ย”
“คนยิ่งเศร้า ก็ต้องปล่อยให้อยู่คนเดียวป่ะวะจะได้แอบไปร้องไห้ที่บ้านคนเดียว”
“นั้นไง มานี้แหละ เผลอๆจะเจอรักครั้งใหม่แล้วลืมไอ้ลีไปเลย”
นี่เราต้องตัดใจจากรักแรกแบบนี้หรอทั้งๆที่ยังไม่เริ่มนี้นะ แต่ครั้นจะให้ไปเผชิญหน้าก็ไม่กล้าแค่คิดว่าต้องเจอหน้าลี ไอ้ความรู้สึกชาวาบไปทั้งหน้าก็ขึ้นมาทุกทีทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับฉันด้วย ทำไม (ความในใจที่ยาวเหยียด)
“ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังกับรักครั้งแรกกันทุกคนหรอกนะ ทำจ--”
“รำคาญ” บี๋สวนขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมมองตาเขียวปั๊ด ก่อนจะสะบัดหน้าไปอีกฝั่ง
“อะไรของมันวะ คนอุตส่าห์ปลอบ” ปั้นได้แต่เกาหัวแกรกๆ
“อย่าแอบหนีกลับล่ะ รอกลับพร้อมกัน”ปั้นย้ำอีกครั้ง ก่อนจะลงสนาม
“รู้แล้ว” บี๋ว่าก่อนจะก้มลงเล่นเกมในมือถือต่อ
สักพักก็เงยมองดูปั้นเล่นสลับกับเล่นมือถืออยู่แบบนี้ จนรู้สึกหิวน้ำ เลยลุกขึ้นไปซื้อแล้วถือโอกาสเอามาเผื่อปั้นด้วย เสร็จแล้วก็หอบขนมกับน้ำก่อนจะเห็นว่าปั้นแข่งเซทแรกจบแล้ว
“เป็นไงบี๋ เท่ห์เปล่าวะ” ก่อนจะกระโดดและชู้ตมือเปล่าให้ดู “คะแนนนำโด่งด้วยนะเว้ย”
“เออ” บี๋ตอบตัดปัญหา เพราะขี้เกียจด่า
“ไรวะ ไม่จริงใจเลย” ปั้นโห่
“ก็ไม่จริงไงสั- สปั้นนนน” บี๋แทบจะเปลี่ยนคำไม่ทันเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ข้างหลังปั้น
“ไม่น่าจะใช่คำนี้นะไอ้บี๋” ปั้นรี่ตาอย่างสงสัย แต่เห็นเพื่อนตัวเองกำลังทำหน้าเหวอ เลยหันหลังดูบ้าง
“อ้าว ไอ้ลี” ปั้นว่าอย่างตกใจก่อนจะเอามือชนทักทายคนมาใหม่ด้วยความดีใจ “มาไงเนี่ยไม่เห็นมาที่สนามนานแล้วนะโว้ย”
“เออ อยู่ๆก็อยากเล่น”
“ขาหายเจ็บแล้วหรอวะ” ปั้นมองดูขาของคนตรงหน้า
“หายแล้ว แต่เจ็บอยู่นิดหน่อย” ลีกระโดดสองสามทีให้คนถามดู
“เออ มาดิวะเดี๋ยวมึงจะรู้ว่ากูเก่งแซงมึงไปโลกหน้าแล้ว”
“โลกหน้านี่แปลว่ามึงตายแล้วใช่ไหมวะไอ้ปั้น”
“เหี้ยลี หมายถึงเก่งโครตๆเก่งสัสๆต่างหาก”
ทั้งสองคุยกันโดยลืมไปสนิทว่ายังมีอีกคนกำลังอยู่กับพวกเขาด้วย บี๋ค่อยๆเอาหน้าหมอบลงกับโต๊ะ ตายชั้น ตาย ใกล้ขนาดนี้ ตายแน่นอน บี๋พึมพำในใจ ดีใจก็ดีใจ อยากเห็นหน้าชัดๆก็อยากเห็น แต่ความอายมีมากกว่า แต่นี้ใกล้สุดในชีวิตแล้วนะเว้ย ระดับFull HD อีกเสียงก็เถียงขึ้นในสมอง
ทำไงดีไอ้บี๋
ปั้นหันหลังไปดูเพื่อนที่แทบจะรวมร่างกับโต๊ะอยู่รอมร่อ ขำก็ขำ แต่ก็กลัวเพื่อนโกรธเพราะดูท่าจะชอบไอ้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเข้าจริงๆ
“มึงอยู่ทีมพวกไอ้เป้ใช่ป่ะ” ลีพยักหน้า
“งั้นไปเหอะ พวกมันเรียกละ” ปั้นพยักพเยิดให้ลีหันหลังไปทางสนามเขาหาทางรีบออกไปจากตรงนี้ เพราะถ้ามันยังอยู่ไอ้บี๋คงไม่กล้าโผล่หัวแล้วก็คงโดนตะคริวแดกแน่นอน และไม่ลืมที่จะหันไปบอกเพื่อน “บี๋ กูไปเล่นละนะ”
ขอบใจมากเพื่อน บี๋แทบจะน้ำตาไหลไปกันได้สักที เกร็งจนเหน็บจะกิน ก่อนค่อยๆเงยหน้าขึ้น มองดูด้านหลังของลีที่ห่างออกไปเรื่อยๆด้วยแววตาละห้อย
“เฮ้อออ” บี๋ก้มมองพื้นโต๊ะ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “จะปล่อยให้เป็นแบบนี้จริงๆหรอ เฮ้ออออ เฮ้ย!”
“ละละลืมไรหรอ” ใบ้กินกะทันหัน เมื่อเงยหน้าก็เห็นลีตัวเป็นๆกำลังยืนมองตัวเองอยู่
“เปล่าหรอก” ลีว่า ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับเธอ เอาไงดี ลุกเลยไหม ลุกเลยดีกว่า
“อย่าพึ่งลุก ฉันมาคุยกับเธอนั้นแหละ” ลียกมือห้ามเมื่อเห็นคนตรงข้ามกำลังลุกหนี
บี๋ตาโต “กับเราหรอ” ก่อนชี้นิ้วเข้าหาตัวเองลีพยักหน้า
“อะไรหรอ” ก่อนจะแฉลบตาไปมา เพราะไม่กล้าสบตาลีตรงๆ
“เมื่อกี้ไอ้ปั้นมันพูดให้ฟัง ว่าเธออายเรื่องเมื่อกลางวันแล้วก็เมื่ออาทิตย์ก่อนด้วย”
“งะ งั้นหรอ” เหี้ยปั้นนนนน หน้าบี๋เริ่มแดงขึ้นเมื่อนึกถึงว่าตัวเองโชว์กางเกงในให้คนตรงหน้าดูถึงสอบรอบ แต่ดีที่ไม่ใส่ตัวเดิมซ้ำมาอีกเพราะว่าเขวี้ยงทิ้งไปตั้งแต่เกิดเรื่อง
“ใช่ ก็เลยทำให้เธอไม่กล้ามองหน้าฉัน” ลีว่าด้วยโทนเสียงสบายๆ“แต่เธอสบายใจได้นะ ฉันไม่คิดอะไรแย่ๆกับเรื่องพวกนี้หรอกมันเป็นอุบัติเหตุนิ แล้วเธอก็ไม่ได้ตั้งใจ”
อยู่ๆใจที่เหี่ยวเฉาก็พองโตขึ้นมาฉับพลัน
“ฉันมาบอกเธอแค่นี้แหละ ฉันไปนะ”
“อ่ะ อือ” ส่วนคนนี้สติหลุดไปแล้ว
ลีตบบ่าปั้นคล้ายจะบอกว่าจัดการให้เรียบร้อยแล้ว “เออ ขอบใจว่ะ”
“ไม่เป็นไร” ลีว่า ก่อนจะลงไปวอร์มในสนาม
ปั้นหันไปมองสภาพเพื่อนว่าตอนนี้เป็นลมไปแล้วหรือยัง แต่พอเห็น ก็ต้องว่าสบายดีโครตเพราะเจ้าตัวกำลังพยักหน้าช้าๆด้วยความปรีติยินดี ยกมือกดไลค์สองข้างส่งให้เขาพร้อมข้อความจากปากที่อ่านได้ว่า
“ทำ ดี มาก เพื่อน”
_____________________________
กลัวคนอ่านจะงงกับสรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัวหรือเรียกกันของ บี๋ แชง จี ปั้น ที่เดี๋ยวก็ กู มึง เรา แก ฉัน อยากบอกแค่ว่า พวกนี้ใช้สรรพนามตามอารมณ์ของพวกเขาล้วนๆ ขึ้นกับ สถาณการณ์ พูดเพราะบ้างหยาบบ้าง คาดเดาไม่ได้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in