เป็นครั้งแรกที่รูป Cover ของบทความที่เขียนไม่ได้มีความสละสะสวยใดๆ ทั้งไม่โฟกัสและคุณภาพก็ค่อนข้างด้อย แต่เพราะเป็นรูปที่ถ่ายขึ้นเองเมื่อครั้งยังหลงใหลสโมสรแห่งนี้จนต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง แต่ในวันนี้ มันกลับทำให้รู้สึกเจ็บปวดทุกทีที่เห็น ว่าครั้งหนึ่งเราเคยพยายามขนาดนี้เพื่อทีมๆหนึ่งที่ในเวลาต่อมาแค่ได้ยินชื่อ
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็รู้สึกเจ็บปวดแล้ว
หากให้ย้อนกลับไปในช่วงที่น้ำต้มผักยังหวาน สโมสรแห่งนี้จริงๆแล้วให้ Life Style ที่แตกต่างออกไปจากสโมสรอื่นๆมากนัก เพราะสโมสรนี้ทำให้คุณสตรองทุกครั้งที่ทุกคนแซะคุณว่า "ชอบคนรวยนี่หว่า" เวลาบอกใครต่อใครว่าชอบทีมนี้ มันทำให้คุณแค่ยิ้มรับและบอกกับเขาอย่างใจเย็นว่า "ไม่เสือกดิ"
คนนอกไม่มีวันเข้าใจคุณว่าทำไมถึงชอบทีมๆนี้ หรือแม้แต่ตัวคุณเองก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงรักทีมๆนี้อย่างหัวปักหัวปำจนสู้เก็บเงินทั้งปีเพียงเพื่อจะได้ไปเยือนสนามปาร์ก เดส์ แพรงส์ ที่กรุงปารีส ทั้งๆที่ในเดือนเมษายน 2017 แม้แต่แฟนเปแอสเชท้องถิ่นยังพากันหมางเมินปาร์ก เดส์ แพรงส์ เหตุ เพราะปราชัยให้กับบาร์เซโลน่าในคืนวันที่ 8 มีนาคมอย่างน่าสลดอดสู ส่งผลให้ในแต่ละเกมหลังจากนั้นมีจำนวนผู้เข้าชมเกมน้อยลงอย่างน่าใจหาย
และแม้แต่ตัวคุณเองก็ตอบแฟนๆเปแอสเชด้วยกันไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าทำไมวันหนึ่งคุณถึงรู้สึกเจ็บปวดนัก
ทั้งๆที่ทีมมีสตาร์ระดับโลก เต็มไปด้วยว่าที่บัลลงดอร์ มีนักเตะที่เป็นแชมป์บอลโลกรอบล่าสุดเยอะกว่าสโมสรใดๆในโลกนี้ ทั้งที่ชนะทีมเล็กทีมน้อยในลีกเอิงอย่างไม่มีใครเทียบชั้นได้ ทั้งๆที่มาดริดที่เป็นแชมป์บิ๊กเอียร์ 3 ปีที่ผ่านมา ในเวลานี้ฟอร์มดูกระท่อนกระแท่น และเปิดทางให้ทีมที่เหลือเริ่มรู้สึกตัวเองว่าอาจจะเป็นหนึ่งทีั่ได้สัมผัสถ้วยนั้นบ้าง ... เปแอสเชเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่ฝันไกล
ทั้งๆที่ภาพรวมของทีมมีทิศทางไปในทางบวก และทั้งๆที่คุณคิดว่านี่จะเป็นสโมสรแรกที่อยู่ในใจของคุณ ไม่มีวันที่จะท้อถอย แม้ในคืนมหาวิปโยคที่แพ้บาร์ซ่าราบคาบ 6-1 จะเกิดขึ้นอีกสักกี่ครั้ง คุณก็จะไม่ไปไหน คุณจะอยู่กับทีมๆนี้ต่อไป
แต่คุณก็ยัง #หมดpassion เพียงเพราะทีมๆนี้ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทิศทางที่คุณไม่รู้จัก
การเซ็นสตาร์ 2 คน (ในราคาที่แทบจะซื้อสโมสรทั้งทีมได้หลายทีม) ในฤดูกาลที่แล้วส่งผลอย่างมากทั้งด้านบวกและด้านลบ หากจะกล่าวถึงด้านบวกก็คงหนีไม่พ้นการที่มีฐานแฟนๆเพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตา แต่น่าประหลาดที่นอกจากยอดขายเสื้อแล้ว ก็ยังไม่เห็นผล "การตลาด" ที่เป็นชิ้นเป็นอัน ในเมื่อคนเหล่านั้นเข้ามาป่าวประกาศตัวในเพจสโมสรอย่างห้าวหาญว่า "ฉันมาที่นี่เพราะ xxx ถ้าไม่มีเขา ฉันคงไม่คิดจะเชียร์ทีมนี้ด้วยซ้ำ" ..... พวกเขาไม่มีทางเป็นแฟนบอลขาประจำ ในแบบที่สโมสรคาดหวัง ในแบบที่เมื่อครั้ง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ย้ายไปเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในหน้าร้อนปี 2016 และได้หอบพาแฟนๆจำนวนกว่า 8 ล้านคนหนีไปด้วย
ไหนจะเรื่องดราม่าความไม่ลงรอยของนักเตะในทีม หรือจะการที่ใครสักคนในทีมจะห่วงผลงานส่วนตัวอย่าง Ballon D'or มากกว่า ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีสิทธิ์ได้รางวัลนี้เลยหากยังพาทีมแห่งนี้ไปประสบความสำเร็จในระดับ Major ไม่ได้
และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการมาของ โธมัส ทูเคล นั้นมีส่วนมากๆ เพราะหากคุณมีความเชื่อมั่นว่าด้วย Work Ethic ของคนเยอรมัน จะทำให้ทีมที่ได้ชื่อว่าเป็นเพียงซุ้มมือปืน หรือทหารรับจ้างนี้กลายเป็นทีมบอลที่เล่นอย่างทีมเวิร์ค และสวยงามมากขึ้น คุณก็ย่อมคาดหวังว่าเขาจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย
แต่ดูเหมือนว่ามันยังห่างไกลคำนั้นมาก
แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะแย่ไปซะทั้งหมด เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าภาพรวมของทีมในตอนนี้เป็นไปในทางบวกทุกๆด้าน คุณมีทรัพยากรนักเตะที่พร้อมจะตกแฟนๆใหม่ๆเข้ามาเรื่อยๆ มีเกมที่หวือหวาอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ในลีกฝรั่งเศส มีสปอนเซอร์อีกมากมายที่พร้อมจะเปย์ให้คุณเพราะด้วยภาพรวมนั้น มันขาดเพียงความสำเร็จที่เป็นชิ้นเป็นอัน สิ่งสุดท้ายที่จะพิสูจน์ว่า คุณคือสโมสรฟุตบอล ไม่ได้เป็นเพียงองค์กรแสวงหากำไร
นาซเซอร์ อัล เคไลฟี่ กับเสื้อสกรีนลายสโมสร ในปี 1998 ก่อนที่ 13 ปีต่อมาจะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง
การที่เห็นสโมสรที่เรารักกลายเป็นแบบที่เราไม่คิดไม่ฝัน มันก็ถูกแล้วไม่ใช่หรือหากเราจะรู้สึกเจ็บปวด และยอมถอยห่างออกมา แม้ใจหนึ่งจะยังห่วงและรักทีมมากแค่ไหน แต่เพราะการถอยออกมาของคุณไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรใดๆกับทีม เพราะอย่างไรเสียเขาก็หาแฟนใหม่ๆจากการเซ็นนักเตะดังๆสักคนสองคนได้อยู่อีกเป็นล้านๆ ด้วยเหตุนี้คุณก็ยิ่งรู้สึกสบายใจเสียกว่าหากจะถอยออกมา เพราะเอาเข้าจริงๆ โลกของฟุตบอลมันก็ไม่แน่ไม่นอนอยู่แล้ว ไม่แน่ว่าหลังจากตัวกาลกิณีอย่างคุณได้ออกไปจากทีมแห่งนี้ เขาอาจจะคว้าแชมป์ได้ในสักวัน โดยไม่ต้องมีแฟนบอลที่น่าผิดหวังอย่างคุณ (ฮา)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in