เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
SFองอุน #บวฟชBOW_WERN
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน ความฝันองอุน

  • SF
    Ong Seongwu x Ha Sungwoon
    By Bow_Wern
    #บวฟช



    ทุกคนเคยฝัน ใช่ แต่ฝันของฮาซองอุนมันต่างออกไป เป็นฝันที่ไม่เหมือนฝันแต่ก็คือฝัน ฟังดูอาจจะเข้าใจยากแต่พอฝันแบบเดิมซ้ำๆความฝันที่เหมือนเลือนลางก็เริ่มจะชัดเจนขึ้นมา เขาฝันแบบเดิมในทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ทุกอย่างเริ่มต้นและจบลงแบบเดิมทุกครั้ง


    และคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ความเงียบค่อยๆคืบคลานเข้ามา นิทราเรียกร้องให้เขาเข้าไปหาและดึงดูดเขาเข้าไปในห้วงความฝันอีกครั้ง


    “เด็กน้อย ได้เวลาอาหารของข้าแล้ว” เสียงหนึ่งดังขึ้นภายใต้ความเงียบพร้อมกับการมีอยู่ของแวมไพร์หนุ่มนามว่าองซองอู


    ร่างสูงค่อยๆเดินไปหาทาสของเขาที่กำลังจมอยู่ในห้วงนิทราดังเช่นทุกครั้งที่เขามาปรากฎตัวที่นี่


    พันธะสัญญาทาสระหว่างแวมไพร์หนุ่มกับมนุษย์ผู้แสนไร้เดียงสาเกิดขึ้นด้วยเหตุบังเอิญที่เต็มไปด้วยความตั้งใจของผู้ที่อยู่เหนือกว่า กฏของการทำพันธะสัญญาทาสจะเกิดขึ้นได้เพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นคือ…ผู้ทำพันธะสัญญาจะต้องยินยอมกันทั้งสองฝ่าย


    ผู้เป็นทาสของแวมไพร์จะต้องยินยอมทำทุกอย่างตามที่เจ้านายของตนต้องการ แต่ฮาซองอุนยังไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของเจ้านายตนเองเลย รวมถึงพันธะสัญญา และการตีตราเป็นเจ้าของร่างกายที่แสนน่าย่ำยีของตนเพียงเพราะถูกลบความจำทุกครั้งหลังจากที่ทำหน้าที่ของทาสจบลง


    สิ่งที่ซองอูต้องการจากซองอุนมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น แน่นอนว่ามันคือเลือดและการร่วมรัก ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกันซองอูก็รู้เลยว่าเขาเจอเหยื่อที่ต้องการแล้ว แต่หากจะปล่อยให้เหยื่อชั้นดีขนาดนี้หลุดมือไปก็น่าเสียดายแย่ แค่ได้ลิ้มลองเลือดของซองอุนครั้งแรก เขาก็ต้องการมันมากขึ้น เลือดของซองอุนต่างจากมนุษย์ตนอื่น ทั้งหอมหวานและชวนหลงไหลจนทำให้ซองอูแทบคลั่ง


    ต้องขอบคุณฤทธิ์เหล้าที่ทำให้เรื่องราวในคืนนั้นเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย มนุษย์ผู้อ่อนแอไม่แม้แต่จะขัดขืน ทุกอย่างเกิดขึ้นไปอย่างที่ใจเขาต้องการ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ในทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวงเขาจึงมาอยู่ตรงนี้


    สัญชาตญาณแวมไพร์เริ่มทำงานเมื่อร่างสูงค่อยๆขยับเข้าไปใกล้กับซอกคอของคนใต้ร่าง


    “คุณ” ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรมนุษย์ใต้ร่างก็หลุดออกจากนิทรา แต่แปลกที่ซองอุนไม่ได้ตกใจมากนัก


    “อย่า อย่าลบความทรงจำผม” กลับเป็นแวมไพร์ที่ต้องทำสีหน้าประหลาดใจซะเอง


    “เจ้าหมายความว่าอย่างไร” ถามกลับไปด้วยความเคลือบแคลงใจ ทำไมทาสของเขาถึงทำเหมือนรับรู้ถึงการมีอยู่ของเขา เขาลบความทรงจำของผู้เป็นทาสเขาทุกครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่ลืมเลย


    “ผมรู้ว่าคุณจะมาหาผมทุกคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ถึงมันจะเลือนลางมากแต่ผมก็จำได้ นี่ไม่ใช่ฝันอย่างที่ผมคิดไว้”


    “แล้วเจ้าไม่กลัวข้าหรือ?”


    “ผมเป็นทาสของคุณ ถ้าเป็นตามที่ผมเคยอ่านมาเจ้านายจะไม่ทำร้ายทาสของตัวเอง”


    “หึ เจ้าแน่ใจอย่างนั้นหรือ” แวมไพร์หนุ่มแสยะยิ้มแล้วถามกลับไปเสียงเย็น


    “ก็ ก็ที่ผ่านมาผมยังครบสามสิบสองก็แปลว่าคุณไม่เคยทำร้ายผม”ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เริ่มไม่มั่นใจในคำตอบของตน


    “งั้นในเมื่อเจ้าตื่นแล้วและเลือกที่จะไม่ให้ข้าลบความทรงจำเจ้า ก็จงจดจำค่ำคืนนี้ให้ดีก็แล้วกัน” พูดจบก็จู่โจมไปที่ริมฝีปากของคนใต้ร่างทันที


    จากที่ตอนแรกดุดันก็กลายเป็นอ่อนหวานชวนหลงไหลแล้วกลับมารุนแรงจนคนอ่อนประสบการณ์ตามไม่ทัน เนิ่นนานกว่าผู้เป็นแวมไพร์จะปล่อยให้ริมฝีปากของซองอุนเป็นอิสระ


    “แฮกๆ” ปล่อยให้ริมฝีปากสีเชอร์รี่เป็นอิสระได้ไม่นานก็ประกบปากลงไปแย่งชิงอากาศอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ทั้งดูดดึงและหยอกเย้าให้คนใต้ร่างตามเกมไม่ทัน


    “อ่าห์” เมื่อถูกกระตุ้นทั้งจากริมฝีปาก ลิ้น รวมไปถึงมือเรียวของแวมไพร์ มนุษย์ผู้อ่อนไหวก็อารมณ์พุ่งสูงเกินกว่าจะควบคุมไม่ให้เปล่งเสียงครางออกมาได้


    “อ๊ะ” ร่างบางเผลอเปล่งเสียงดังออกมาอีกครั้งหลังจากที่ร่างสูงใช้มือสัมผัสจุดไวสัมผัส


    คนตัวเล็กใช้มือปิดปากเพื่อที่ไม่ให้เสียงหลุดรอดออกไป แต่ร่างสูงก็ไม่ปล่อยให้เป็นอย่างที่ต้องการ ซองอูเอื้อมมือไปจับแขนซองอุนมาวางพาดไหล่ของตน


    “อ๊ะ อื้อ คุณ อึก ผมยังไม่รู้ชื่อของคุณเลย” ร่างเล็กพยายามเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คนบนร่างนั้นคลั่งมากขึ้นไปอีก


    “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”


    “แต่ อ๊ะ” เหมือนว่าคนใต้ร่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดบทสนทนา ร่างสูงเลยตัดสินใจปิดปากทาสของตนอีกรอบด้วยปากของเขาเอง ยิ่งนานก็ยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น


    ไม่รู้ว่าเสื้อผ้าของทั้งคู่ถูกถอดออกจากร่างหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ร่างกายของทั้งสองสัมผัสกันโดยไม่มีอะไรมาปิดกั้นและรับรู้ถึงสัดส่วนของกันและกันอย่างแนบแน่น


    “อ๊ะ เจ็บ” ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะสอดนิ้วเข้าไปลึกถึงจุดไวสัมผัส คนตัวเล็กก็ร้องห้ามออกมาด้วยความเจ็บปวด


    “เด็กน้อยข้องข้าทนอีกนิดนะ แล้วเจ้าจะได้พบกับความสุขที่เจ้าไม่อาจลืมเลยล่ะ” พูดจบก็ประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากอย่างอ่อนโยน จากหนึ่งกลายเป็นสองและค่อยๆเพิ่มเป็นสามตามลำดับ ไม่นานร่างสูงก็ถอนนิ้วออกอีกมือหนึ่งก็ชักนำแก่นกายของตัวเองให้พร้อมใช้งาน


    “อื้อออ เจ็บ ฮึก”


    “อดทนอีกนิดนะเด็กน้อย ใกล้แล้ว” แวมไพร์หนุ่มกล่าวปลอบโยนแล้วจัดการสดใส่ความเป็นชายของตนเข้าไปในร่างกายของคนใต้บัญชา


    “อ๊ะ อ๊า” จังหวะการสอดใส่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆพอใกล้ถึงจุดหมายแล้วกลับปรับให้อ่อนโยน ทำให้คนใต้ร่างเผลอร้องออกมาด้วยความขัดใจ เมื่อเป็นไปตามที่ต้องการแวมไพร์เจ้าเล่ห์ก็แสยะยิ้มร้ายขึ้นมาทันที


    “อ้อนวอนข้าสิ”


    “เจ้านาย ได้โปรด อ๊ะ” เพียงแค่ได้ยินคำว่าเจ้านายหลุดออกมาจากปากร่างเล็ก แวมไพร์ผู้เหนือกว่าก็ตกเป็นทาสของทาสตนเองเข้าแล้ว


    “อื้อออ แรงอีก”


    “เจ้า ทำให้ข้าแทบบ้าเลยรู้ตัวไหม อ่าห์”


    บทเพลงรักดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุดหากมนุษย์ผู้เป็นทาสไม่หมดแรงเสียก่อนแวมไพร์ผู้เป็นเจ้านายก็คงไม่ยอมหยุดที่จะบรรเลงทำนองรักเป็นแน่


    เมื่อจัดการกับร่างกายของตนเองเสร็จแล้วก็เดินมานั่งลงที่เตียงข้างๆร่างของคนตัวเล็กที่จมดิ่งเข้าสู่นิทรา วันนี้เขาเลือกที่จะไม่ดูดเลือดจากทาสของเขา เพราะคนตัวเล็กเสียพลังงานไปมากแล้ว ถ้าเกิดเขาห้ามใจตัวเองไม่ได้จนเผลอดูดเลือดเข้าไปคนตัวเล็กอาจจะต้องหลับไปหลายวัน


    มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ดูดเลือดทั้งที่กลิ่นเลือดในวันนี้หอมหวานจนยากที่จะควบคุมสติตนเอง แต่ก็เพื่อร่างเล็กที่แสนน่าทะนุถนอมนี้จะได้ไม่เจ็บป่วยเขาจึงเลือกที่จะให้ตัวเองเป็นคนอ่อนแอเอง เพราะหากเขาไม่ได้ดื่มเลือดมนุษย์ในคืนพระจันทร์เต็มดวงแล้ว ร่างกายจะสูญเสียพลังไปมาก


    “ทาสของข้า ถึงแม้ว่าเจ้าจะรับรู้ถึงการมีตัวตนของข้า แต่เพื่อความปลอดภัยของเจ้า ยังไงข้าก็ต้องลบความทรงจำของเจ้าอยู่ดี เพื่อตัวของเจ้าเองและข้าก็ได้ไม่เป็นกังวลกับตัวเจ้า” ร่างสูงเอื้อมมือไปสัมผัสที่หน้าผากของคนตัวเล็กเพื่อลบความทรงจำอีกครั้ง


    “แล้วเจอกันใหม่ในคืนพระจันทร์เต็มดวง” ซองอูก้มจูบเบาๆลงตรงหน้าผากเพื่อบอกลาทาสของเขาพร้อมกับผละออกมาแล้วร่างที่เคยมีอยู่ก็ค่อยๆถูกความมืดกลืนกินเข้าไป
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    “อื้ออออออออ เฮ้ออออ ฝันเหมือนเดิมอีกแล้ว” ร่างเล็กตื่นขึ้นมาพร้อมกับบิดขี้เกียจแล้วบ่นออกมาอย่างเบื่อหน่าย







    ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ลงฟิคแก้บนสักที เย้ ไม่รู้เรียกฟิคได้ไหมเพราะเนื้อหาคือบั่บ-.,-
    มันช้าก็เพราะแบบนี้แหละค่ะ เพิ่งเคยแต่งอะไรแบบนี้ครั้งแรกในชีวิต
    วูบวาบซู่ซ่ามักๆเรย คริคริ
    ไปหวีดที่ทวีตเตอร์ในแท็ก #บวฟช ได้นะคะ^^
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in